ข้าพเจ้านายธีรชาติ คลังเงินตรา เกิด 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2516 เป็นชาว จ.นนทบุรีโดยกำเนิด บิดาข้าพเจ้าเป็นซินแสที่มีชื่อเสียง คือ อาจารย์คลังจินดา คลังเงินตรา และมารดาของข้าพเจ้า คือ นางวรรณแขไข คลังเงินตรา

        ข้าพเจ้าเริ่มศึกษาในชั้นอนุบาลถึงประถมปีที่ 6 ที่โรงเรียนการัญศึกษา  มีผลการเรียนดีมาตลอดและได้รับการคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าชั้นทุกปี
        ต่อมาได้เข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมจนจบชั้นม.6 ที่โรงเรียนโยธินบูรณะซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วน  มีชื่อเสียงในเรื่องการเรียนการสอน  ซึ่งนักเรียนที่นี่สามารถสอบเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยได้เป็นอันดับต้นๆของประเทศ  หลังจากจบมัธยมศึกษาปีที่ 6  ได้เข้าศึกษาต่อชั้นปริญญาตรี  คณะนิติศาสตร์  ที่  มสธ.
        ในระหว่างศึกษาชั้นม.ปลายนั้น  ข้าพเจ้าต้องพบปัญหาจนเกือบจะเรียนไม่จบเนื่องจากช่วงนั้นบิดา-มารดาข้าพเจ้า  ซึ่งมีอาชีพค้าขายส่งขนมในตลาดเทศบาลนครนนทบุรี  ในปี  2525  เกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นในครอบครัว  บิดาข้าพเจ้ากลุ้มใจและเครียดมากในเรื่องหนี้สินซี่งมีประมาณ  1  ล้านบาท  (เงินล้านบาทถ้าเทียบกับปัจจุบันน่าจะเป็น  10  ล้านบาทได้เพราะค่าของเงินลดลง)  และที่น่าเสียใจก็คือหนี้สินจำนวนนี้มิได้เกิดขึ้นจากการกระทำของบิดา-มารดาข้าพเจ้า  แต่เกิดขึ้นจากน้องๆ  ของบิดาที่เห็นแก่ตัว  ไม่รับผิดชอบ  แต่ช่วยกันผลาญโดยยักยอกเงินจากการขายสินค้าไปโดยบิดาข้าพเจ้าไม่อาจรู้ได้เป็นเวลาหลายปี
         บ้านที่เคยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ในสังคมแบบชาวจีน  หรือที่เรียกกันว่ากงสีนั้นมีอันต้องพังทลายลงไป
        พี่น้องของบิดาเมื่อรู้ว่าบ้านที่อาศัยอยู่นั้น  จะถูกธนาคารยึด  ต่างคนต่างก็รีบย้ายสำมะโนครัวและทรัพย์สิน  เพื่อหาที่อยู่ใหม่โดยมีเงินจำนวนหนึ่งที่ยักยอกไปจากบิดาข้าพเจ้าไปซื้อบ้านใหม่และตั้งตัวกันได้  ในขณะที่บิดา  มารดา  ต้องพาข้าพเจ้าและน้องๆ  ไปอาศัยบ้านเช่าอยู่  และรับผิดชอบในหนี้สินทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว  ***จำได้ว่า  เมื่อข้าพเจ้ากลับถึงบ้านหลังเลิกเรียน  มีเหลือเพียงกระติกน้ำร้อนใบเดียวเท่านั้น***
        แต่ก่อนข้าพเจ้าถูกเย้ยหยัน  ถากถางจากญาติว่า  "พ่อไม่รู้จักซื้อบ้านให้ลูกเต้าอยู๋"  แต่พ่อก็อดทนมาตลอด  ไม่เคยปริปากบ่น  ใครจะว่าอะไรก็ไม่สนใจ  พ่อพูดเสมอว่า  "การเป็นหนี้เป็นทุกข์ที่สุด"  และวันนี้พ่อก็พิสูจน์ให้ญาติพี่น้องทุกคนเห็นแล้วว่า  คำนี้เป็นจริง  และการเป็นหนี้ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่พึงปรารถนา
        ปัจจุบันนี้ิบิดาข้าพเจ้าสามารถซื้อบ้านใหม่ได้แล้ว  พร้อมทั้งมีทะเบียนบ้านเป็นของตนเองเป็นครั้งแรก มิต้องไปหยิบยืมใคร  หลังจากที่ต้องเป็นคนเถื่อนมาเกือบ  20  ปี  การซื้อบ้านได้ในครั้งนี้นำความภาคภูมิใจมาสู่ครอบครัวของเราอย่างมาก
        ผู้คนส่วนใหญ่ที่เชิญบิดาข้าพเจ้าไปแก้ไขฮวงจุ้ยให้นั้นกว่า  80 เปอร์เซ็นต์  เป็นหนี้สินและหวังจะปลดเปลื้องหนี้สินโดยยึดฮวงจุ้ยเป็นที่พึ่งสุดท้าย  บางคนไม่เคยเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย  และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮวงจุ้ยคืออะไร  การแก้ไขฮวงจุ้ยนัันหลักสำคัญอันดับแรกท่านจะต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจดี  ประพฤติดีเสียก่อน  การแก้ไขฮวงจุ้ยจึงจะได้ผล
        ข้าพเจ้าเคยติดตามบิดาไปดูฮวงจุ้ยมานับหลายบ้านมากมาย  มีโรงงานแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ  ระหว่างที่ข้าพเจ้าศึกษาการทำงานของบิดานั้น  มีลูกน้องของโรงงานคนหนึ่ง  พอรู้ว่าบิดาข้าพเจ้าเป็นซินแสฮวงจุ้ยก็ตะโกนว่า  "ไม่มีอะไรลอยมาจากอากาศหรอกโว้ย  มันต้องใช้สองมือสองเท้า"  ข้าพเจ้าก็คิดในใจว่า  "ที่ท่านพูดมานั้นไม่ผิด  แต่ท่านหารู้ไม่ว่า  นั่นมิได้เกิดจากการกระทำของมนุษย์เพียงอย่างเดียว"  ทุกอย่างมีองค์ประกอบ  มีเหตุปัจจัยทั้งนั้น (ฟ้า  ดิน  คน)  
         ข้าพเจ้าขอเชิดชูบูชา  ยึดมั่นในคุณความดีของบิดา  มารดาข้าพเจ้าเป็นแบบอย่าง  เพราะถ้าไม่มีอารจารย์คลังจินดา  และแม่วรรณแขไข  ในวันนี้ก็คงไม่มีนายธีรชาติ  เช่นกัน  ขอให้คุณงามความดีที่ข้าพเจ้าเคยกระทำและจะต้องกระทำต่อไป  ดลบันดาลให้บิดา  มารดาของข้าพเจ้าจงมีอายุมั่นขวัญยืน 

สุขภาพแข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานชั่วกาลนาน

         ด้วยความนับถือ
         ธีรชาติ  คลังเงินตรา