E san music Festival Thailand
E san music Festival Thailand
ประวัติงาน
เทศกาลดนตรี E-SAN MUSIC FESTIVAL THAILAND เป็นเทศกาลดนตรีที่จัดขึ้นในเขตที่ราบสูงของประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นทุกปีเป็นเวลากว่าทศวรรษ ก่อตั้งครั้งแรกในวันที่ 1 เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2554
โดยปฤษฎี นะที่ราบสูง(กุ๊กไก่ อีสานเขียว)
จิตกร ศรีธนะกลู(คัดเตอร์ อีสานเขียว)
อธิวัฒน์ แก้วสิทธิ์(ขุนจืด อีสานเขียว)
3เพื่อนสนิทผู้หลงมนต์เสน่ห์เทศกาดนตรีWoodstock จึงชักชวนกันออกเดินทางศึกษาข้อมูลเพื่อกลับมาจัดงานในจังหวัดขอนแก่น และค่อยๆรวบรวมกลุ่มเพื่อนในเขตภาคอีสาน ที่มีแนวคิดคล้ายๆกัน
1.เมืองแคน อิสระธรรม(เดียร์ อีสานเขียว) รับหน้าที่ภาคเวที และฝ่ายศิลป์
2.ตั้ม ร่มร่อนอีสานเขียว รับหน้าที่ภาคส่วนประสานงาน
3.แอมมี่ สมถึกอีสานเขียว รับหน้าที่ผู้จัดการกลุ่ม และระบบร้านค้า
4.ต้อ อสุจิอีสานเขียว รับหน้าที่สร้างแลนด์มาร์ดของงาน
5.บูม เด้ออีสานเขียว รับหน้าที่สร้างเวที
6.บรีส เบิร์นอีสานเขียว รับหน้าที่ด้านความพร้อมภาคสนาม
7.โก๋เอ็ก อีสานเขียว รับหน้าที่สร้างเวที
8.สนุ๊กเกอร์ อีสานเขียว รับหน้าที่สร้างประตูงาน
9.กราฟฟรี่ นกเสรีตัวสุดท้าย รับหน้าที่พ่อครัว
10.โก้ อินดี้ รับหน้าที่เป็นช่างภาพ
11.อาตี๋ รับหน้าที่ควบคุมระบบ IT ของงาน
เทศกาลดนตรี E-SAN MUSIC FESTIVAL THAILAND เป็นได้มากกว่าเทศกาลดนตรีทั่วไป เพราะนอกจากดนตรีตัวงานยังสามารถรวมกลุ่มคนทุกกลุ่มวัย รวมวัฒนธรรม รวมศาสนา และเชื้อชาติต่างๆไว้ที่นี่ที่เดียว ความหลากหลายเหล่านั้นจึงเป็นจุดขายพิเศษของงานนี้ และยังครองใจผู้คนข้ามมากว่าทศวรรษ
จากสถิติงานที่ผ่านมามีการขยับของจำนวนผู้เข้าร่วมเป็นวงกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ และตัวงานมีแนวโน้มจะขยายผังงานใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ทุกๆปีมีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วประเทศ และจากต่างประเทศ
เช่น
1. ประเทศลาว
2. ประเทศมาเลเซีย
3. ประเทศจีน
4. ประเทศญี่ปุ่น
5. ประเทศออสเตรเลีย
6. ประเทศรัสเซีย
7. ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปีที่1 2556 จำนวน 800คน
ปีที่2 2557 จำนวน 2,500คน
ปีที่3 2558 จำนวน 3,500คน
ปีที่4 2559 จำนวน 5,000คน
ปีที่5 2560 จำนวน 20,751คน
ปีที่6 2561 จำนวน 40,357คน
ปีที่7 2562 จำนวน 52,320คน
ปีที่8 2563 จำนวน 90,760คน
ปีที่9 2564 จำนวน 110,350คน
ปีที่10 2565 จำนวน 42,500คน (เกิดขึ้นในห้วงสถานการณ์โควิค2019)
“แนวคิดแห่งทศวรรษใหม่”
เมื่อหมู่แมลงตัวเล็กๆผู้อาศัยอยู่ใต้พื้นพิภพ
จะถูกอัญเชิญมาสร้างให้ยิ่งใหญ่ในทศวรรษใหม่นี้
สอดแทรก เทคโนโลยีอวกาศ โบราณในยุครุ่งเรือง
ตัวงานจะเปรียบเสมือนกล้องจุลทรรศน์ขนาดใหญ่ ให้กับผู้ชมที่จะเข้ามาร่วมงานทุกท่านจะได้พบสิ่งอัศจรรย์เหนือจินตนาการของแมลงกลายพันธุ์เหล่านั้น
แนวทางผู้จัดต้องการให้ชาวต่างชาติเข้ามาประเทศไทยมากขึ้นโดยเชิญชวนผ่านสื่อผลงานสร้างสรรค์แปลกใหม่ โด่ดเด่น เหล่านี้ชาวต่างชาติจะได้เห็นผีมือคนไทย เพราะคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
และต้องการขับเคลื่อนฐานเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวให้เติบโตไปพร้อมๆกันซึ่งปัจจุบันมีผู้คนให้ความสนใจงานเป็นจำนวนมาก