ดนตรีบรรเลง บทเพลงชีวิต

แก้

เรื่องย่อ

แก้

ห้าสิบปีหลังเรื่องนี้เกิดขึ้น ในปี 1999 เปิดเรื่องเห็นชายคนหนึ่งกำลังกำกับวงออร์เคสตร้า ก่อนขึ้นโชว์เขาได้รับแจ้งว่าแม่ของเขาเสียชีวิตแล้ว หลังจากโชว์เขาได้กลับไปบ้านเพื่อพิธีศพ ไม่นานนักเพื่อนเก่าของเขาที่ชื่อเปปิโน่ได้มาที่บ้านพร้อมไดอารี่เล่มหนึ่ง มันเป็นไดอารี่ของครูของพวกเขา ครูมัททิเยอ แล้วพวกเขาก็อ่านมันด้วยกัน

ที่ประเทศฝรั่งเศสปี 1949 คเลมองต์ มัททิเยอ ผู้ซึ่งชอบพูดว่าตัวเองล้มเหลวไปซะทุกสิ่งได้มาถึงประตู "ฟงเดอเลตัง" โรงเรียนสำหรับเด็กมีปัญหา ที่ประตูรั้วเขาเห็นเด็กน้อยคนหนึ่ง "เปปิโน่" ที่กำลังรอวันเสาร์อยู่ เพราะเป็นที่พ่อบอกว่าจะมาหา พ่อแม่ของเปปิโน่ตายในสงครามโลกครั้งที่สอง ถึงจะมีคนบอกเปปิโน่แต่เขาก็ไม่ยอมรับและยังคงคิดว่าพ่อมากลับมาหาในวันเสาร์

ในสัปดาห์แรก มัททิเยอพบว่าเด็กชายที่นี่ถูกทำโทษหนักๆจากครูใหญ่ชื่อราแชง มัททิเยอพยายามใช้อารมณ์ขันและความใจดีเพื่อเอาชนะใจเด็กๆ วันหนึ่งแม๊กซองส์ภารโรงบาดเจ็บจากการกระทำของหัวโจก มัททิเยอกันเด็กจากครูใหญ่ และให้เด็กคนนั้นช่วยปฐมพยาบาลภารโรง

คืนหนึ่งเขาได้ยินเด็กๆร้องเพลงหยาบๆเกี่ยวกับเขา มัททิเยอผู้ซึ่งเป็นนักดนตรีและนักแต่งเพลงจึงคิดแผน เขาจะสอนพวกเด็กๆร้องเพลงและตั้งวงคอรัส ดังนั้นเขาจึงแบ่งกลุ่มเด็กๆเป็นโซปราโน่ แอลโต้ ฯลฯ แต่มีเด็กคนหนึ่งชื่อ มอรองช์ ปฏิเสธที่จะร้องเพลง วันหนึ่งเขาได้ยินมอรองช์ร้องเพลงเล่น เขาพบว่ามอรองช์มีเสียงร้องที่ไพเราะมาก มัททิเยอจึงให้เขาร้องในท่อนโซโล่

วันหนึ่งวิโอแลตแม่ของมอรองช์มาที่โรงเรียน มัททิเยอลงมาพบเพื่ออธิบายว่ามอรองช์เยี่ยมไม่ได้เพราะถูกทำโทษหลังจากเขียนด่าครูใหญ่ เขาก็รู้สึกดึงดูดใจจากแม่ของมอรองช์เลยกลับบอกว่ามอรองช์ไปหาหมอฟัน

ช่วงนั้นมีเด็กร้ายชื่อมงแดงมาอยู่ที่โรงเรียนและเริ่มสร้างปัญหา ไถเงินเพื่อน สูบบุหรี่ในห้องเรียน ไม่เชื่อฟังคำสั่ง หลังจากโขมยนาฬิกา เขาโดนขังสิบห้าวันในห้องมืดเป็นการทำโทษ

มัททิเยอพบว่าโรงเรียนเป็นไปในทางที่ดีขึ้น คอรัสดีขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมมอรองช์เป็นโซโล่หลัก เด็กๆมีความสุขขึ้น แม้แต่ครูใหญ่ราแชงยังผ่อนคลายขึ้น โดยมาเล่นฟุตบอลกับเด็กๆ หรือแอบเล่นเครื่องบินกระดาษ

มงแดงถูกปล่อยตัวและแอบหนีโรงเรียน เวลานั้นเงินของโรงเรียนหายไป ครูใหญ่จึงตีมงแดงและส่งตำรวจ และเขายังได้ยินเด็กๆร้องเพลงล้อเขา เขาจึงสั่งเลิกวงคอรัส วงเลยต้องแอบซ้อมเวลากลางคืน หลังจากนั้นจึงพบว่าเด็กอีกคนชื่อคอร์แบงโขมยเงินนั้นไปแต่ราแชงก็ไม่รับมงแดงกลับมาอีก มัททิเยอรู้สึกเสียใจในความอยุติธรรม ยิ่งไปกว่านั้นมงแดงก็เป็นเสียงแบริโทนคนเดียวของวง

มัททิเยอไปพบแม่ของมอรองช์เพื่อเล่าโครงการของเขาที่จะช่วยให้ลูกชายของเธอได้ทุนไปเรียนดนตรีที่เมืองลียง แต่แล้ววันหนึ่งเธอได้บอกเขาว่าเขานำโชคดีมาสู่เธอเพราะเธอได้เจอกับวิศวกรที่เธอหวังจะแต่งงานด้วย มัททิเยอรู้สึกผิดหวังแต่ก็ยังอวยพรให้เธอโชคดีและมองเธอจากไป

ต่อมาครูใหญ่ราแชงได้พบว่าเคาน์เทสผู้สนับสนุนหลักของโรงเรียนได้รับจดหมายเกี่ยวกับวงคอรัสจากภารโรงแม็กซองส์ เมื่อเธอถามเรื่องนี้ว่าใครเริ่มไอเดีย ราแชงตัดสินใจอ้างว่าเป็นไอเดียของเราเองไม่ใช่ครูมัททิเยอ วงคอรัสได้แสดงต่อหน้าเคาน์เทสและคนอื่นๆซึ่งเป็นที่ประทับใจมาก

เมื่อราแชงเดินทางไปรับรางวัลจากการปรับปรุงเด็กๆ มัททิเยอและแม๊กซองส์พาเด็กๆไปเที่ยวเล่นในป่า ในเวลานั้นมงแดงกลับมาและลงมือจุดไฟเผาโรงเรียน

มัททิเยอถูกไล่ออกเพราะฝ่าฝืนกฎแม้ว่าจะสามารถช่วยชีวิตเด็กๆไว้ได้ เมื่อมัททิเยอกำลังจากไป เด็กๆซึ่งโดยสั่งห้ามไม่ให้มาร่ำลาก็ร้องเพลงจากห้องของพวกเขา และโยนเครื่องบินกระดาษที่เขียนข้อความไว้ลงมาจากหน้าต่างและโบกมือลาแม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นมัททิเยอข้างล่าง เขาเก็บเครื่องบินกระดาษเหล่านั้นและโบกมือลาตอบ

กลับมาปัจจุบันวาทยากรคนนั้นซึ่งก็คือมอรองช์ อ่านไดอารี่จนจบและเล่าถึงเรื่องราวต่อมา มอรองช์ได้ทุนจากโรงเรียนดนตรี ส่วนครูใหญ่ราแชงโดนไล่ออกเนื่องจากการทำโทษเกินกว่าเหตุ

ฉากจบแสดงตอนที่มัททิเยอรอรถบัสหลังจากถูกไล่ออก เมื่อเขากำลังขึ้นรถบัสและมองกลับมาก็เห็นเปปิโน่วิ่งตามเขามาและขอไปด้วย มัททิเยอปฏิเสธและบอกเด็กน้อยว่าไม่ได้รับอนุญาตให้ไปด้วยและขึ้นบัสไปโดยทิ้งเปปิโน่ไว้ด้านหลัง และแล้วบัสก็หยุดกะทันหันและมัททิเยอก็ทำสัญญาณให้เปปิโน่ขึ้นรถมาด้วยกัน ในที่สุดเปปิโน่ก็ทำตามฝัน เขาและมัททิเยอจากมาในวันเสาร์