ผู้ใช้:โกศล สีสังข์/กระบะทราย

สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอสหัสขันธ์ที่น่าสนใจ

*วัดภูค่าว หรือวัดพุทธนิมิต

วัดพุทธนิมิต อยู่บนยอดเขาภูค่าว บริเวณยอดเขาด้านทิศตะวันตกมีพระนอนแกะสลักบนแผ่นผาผายุนับพันปี เป็นที่เคารพสักการะของชาวกาฬสินธุ์ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีโบสถ์ที่ประดับตกแต่งสวยงามและวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและพระเครื่องจำนวนมาก

ที่ตั้งและการเดินทาง บ้านนาสีนวล ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ รถยนต์ส่วนตัว จาก อ.สหัสขันธ์ใช้ทางหลวงหมายเลข 227 ไปทาง อ.คำม่วง ผ่าน ร.ร.บ้านสิงห์สะอาดไปประมาณ 4.5 กม. พบสี่แยกที่มีสถานีอนามัยคำลือชาตั้งอยู่ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 1 กม. พบสามแยกให้เลี้ยวซ้ายไปอีก 300 ม. วัดอยู่ทางซ้ายมือ

รถประจำทาง ขึ้นรถสายกาฬสินธุ์-สหัสขันธ์ ประวัติ ตำนานท้องถิ่นเล่าว่า พระนอนที่สลักบนแผ่นผานี้สร้างขึ้นหลังการสมโภชองค์พระธาตุพนมเล็กน้อย ประมาณปี พ.ศ.8 โดยกลุ่มคนที่จะเดินทางไปร่วมสร้างพระธาตุพนมแต่ไปไม่ทันองค์พระธาตุสร้างเสร็จก่อน จึงร่วมกันสร้างพระนอนองค์นี้ ปี พ.ศ.2484 พระคุณเจ้าสมเด็จพระมหาวีระวงศ์ได้ขึ้นไปตรวจสังฆมณฑลภาคอีสาน และแวะจำวัดกลางมาลัยในเมืองสหัสขันธ์ซึ่งอยู่ห่างจากภูค่าวไปทางตะวันตกราว 8 กม. ในครั้งนั้นท่านได้ไปนมัสการพระนอนที่เพิงผานี้ด้วย เมื่อเสร็จสังฆกิจเสด็จกลับกรุงเทพฯ จึงบัญชาให้อธิบดีกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นปูชนียวัตถุโบราณแห่งแรกใน จ.กาฬสินธุ์

สิ่งน่าสนใจ พระนอนสลักบนแผ่นผา หรือพระพุทธไสยาสน์ภูค่าว มีพุทธลักษณะเป็นพระนอนปางไสยาสน์ คือ พระเศียรหนุนทับต้นแขน โดยท่อนแขนที่หนุนพระเศียรไม่ได้ตั้งขึ้นและพระหัตถ์ไม่ได้รองรับพระเศียร องค์พระมีลักษณะพิเศษคือ นอนตะแคงซ้ายไม่มีเกตุมาลา ตำนานว่าเป็นลักษณะของพระโมคคัลลานะ พระสาวกองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้า ความยาวตลอดองค์ 2 ม. สูง 0.5 ม. มีทองำเปลวปิดอยู่ทั่วองค์

วิหารสังฆนิมิต อยู่บนยอดเขาใกล้ทางไปชมพระนอนภายในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดเล็กจำนวนมาก และบริเวณผนังเรื่อยขึ้นไปถึงเพดานมีพระเครื่องต่าง ๆ นับพันองค์ติดประดับอยู่ดูสวยงามตื่นตา นอกจากนี้บริเวณลานโล่งนอกตัววิหารยังมีหอพระธาตุซึ่งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ทางวัดได้มาจากที่ต่างๆ ในภาชนะแก้วใส และรอยพระพุทธบาทจำลองเก่าแก่สลักบนหินก็อยู่ในบริเวณเดียวกัน

โบสถ์ไม้ อยู่บนเนินเขาด้านซ้ายของถนนก่อนถึงบริเวณวัด เป็นอาคารไม้ทรงไทยตั้งบนฐานลวดบัวปูนปั้น หลังคาจั่วซ้อนกันสามชั้น มีชายคาปีกนกทั้งสี่ด้าน หน้าบันเป็นไม้แกะสลักรูปพระพุทธเจ้าประทับในป่าทึบแวดล้อมด้วยสิงสาราสัตว์ บานประตูหน้าต่างแกะสลักเรื่องพุทธชาดก และมีการประดับไม้ฉลุลายพรรณพฤกษาทั่วโบสถ์ ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระมงคลชัยสิทธิ์โรจนฤทธิประสิทธิพร เป็นพระประธานปางตรัสรู้หรือปางสมาธิสีทองสุกอร่าม บริเวณโดมเพดานเหนือองค์พระตกแต่งด้วยประติมากรรมไม้แกะสลักนูนต่ำเรื่องพุทธประวัติ ทาสีทอง


*พิพิธภัณฑ์สิรินธร

เดิมคือศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติงานศึกษาวิจัย อนุรักษ์เก็บรวบรวมตัวอย่างอ้างอิงซากไดโนเสาร์และ สัตว์ร่วมสมัยและนำข้อมูลเหล่านี้ไปเผยแพร่แก่นักท่องเที่ยวในรูปของพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวปีละกว่า 2 -3 00 , 000 คน มีความเป็นมาและรายละเอียดของการจัดการ ดังนี้ ปี 2521 คณะสำรวจธรณีวิทยา โดยนายวราวุธ สุธีธร พบซากกระดูกไดโนเสาร์ที่เก็บไว้โดย พระครูวิจิตรสหัสคุณ เจ้าอาวาสวัดสักกะวัน ปี พ.ศ. 2537 และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ 9 ธันวาคม 2551 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด


* สะพานเทพสุดา

สะพานเทพสุดา เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ จากบริเวณแหลมโนนวิเศษ ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ ถึงบริเวณเกาะมหาราช ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี บนสะพานเทพสุดายังสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามบริเวณพื้นที่อ่างเก็บน้ำลำปาวได้อย่างชัดเจน