ธนากร ศรีแก้ว
ประวัติความเป็นมาวัดสระศรีสำราญ (ที่พักสงฆ์บ้านเหล่าแขม) ความเป็นมา
ที่ดินผืนนี้เจ้าของคนแรก คือ นาย นวน สร้างบ้านอาศัยอยู่ก่อน ต่อมานาย นวน ได้ขายให้ นายชอบ สุพร ชาวบ้านนาคำ ตำบลผึ่งแดด อำเภอมุกดาหาร จังหวัดนครพนม (ในสมัยนั้น พ.ศ.2510)ที่ดินแห่งนี้เป็นพื้นที่มีต้นไม้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเช่นต้นไม้ยาง ต้นไม้แดง เป็นต้น ปัจจุบันนี้ ส่วนมากจะเป็นต้นไม้ที่เจ้าอาวาสแต่ละท่านได้ปลูกเอาไว้ พื้นที่แห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ 1 งาน 52 ตารางวา ชาวบ้านเหล่าแขมมีความต้องการพื้นที่แห่งนี้เพื่อสร้างวัด เพราะที่ดินผืนนี้อยู่ใกล้เคียงกับหมู่บ้าน จึงได้มีการติดต่อชื้อที่ดินผืนนี้จากนายชอบ สุพร เป็นจำนวนเงิน 3,500 บาทโดยมีครูแสงว่องไว เป็นผู้ประสานงานในการชื้อขายเพราะคนอื่นนั้นนายชอบ สุพร ไม่ขายให้ หลังจากชื้อที่ดินผืนนี้ได้แล้ว เมื่อ พ.ศ. 2514 ชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างรั้วไม้รอบบริเวณวัด ยังไม่มีพระภิกษุมาอยู่จำพรรษาชาวบ้านจึงได้มีมติให้ชาวบ้านที่มีควายเข้ามาเลี้ยงเก็บตัวละ 1 บาท เมื่อ พ.ศ.2516 ชาวบ้านเริ่มได้สร้างกุฏิหลังไม้มุงด้วยสังกะสี ยกพื้นสูง 1 เมตร 80 เซนติเมตร
จำนวน 1 หลัง มี 2 ห้อง กว้าง 12 เมตร ยาว 8 เมตร และห้องน้ำ 1 หลัง มี 2 ห้อง เมื่อ พ.ศ.2526 กรมที่ดินได้มาขึ้นทะเบียนที่แห่งนี้ เป็นที่สาธารณประโยชน์ของชาวบ้านเหล่าแขม ทำเนียบพระภิกษุสามเณรที่มาอยู่จำพรรษาในวัดสระศรีสำราญ
เมื่อพ.ศ. 2516 – 2518 ได้มีหลวงตามา ซึ่งท่านมาจากบ้านบางทรายใหญ่ ตำบลบางทราย อำเภอเมืองมุกดาหาร อยู่จำพรรษา 2 พรรษา เมื่อ พ.ศ.2518 – 2519 ไม่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา เมื่อ พ.ศ.2519 – 2526 หลวงพ่อคำใส อายุวฑฺฒโก อยู่บ้านแข้ ตำบลบางค้อ อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ท่านจำพรรษาได้ 8 พรรษา ท่านได้ปลูกต้นไม้หลายพันธุ์ชนิดเช่น ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นมะขาม ต้นตาล และต้นมะพร้าว รอบบริเวณกำแพงวัดด้านทิศตะวันออก ทิศเหนือ และทิศตะวันตก เมื่อท่านป่วยลูกหลานของท่านจึงพาไปรักษาที่บ้านหัววัว อำเภอกระนวน จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มรณภาพที่บ้านเกิดและไม่กลับมา และมีสามเณรฐม ภูมิลา เด็กวัด 1 คน คือ ด.ช. ชม ปัญญาวงค์ และมีสามเณรสัน สาธุชาติ มาอยู่จำพรรษาด้วย พ.ศ.2525
พ.ศ.2526 – 2527 หลวงพ่อจาม มาอยู่จำพรรษา 1 พรรษา
พ.ศ.2527 – 2529 หลวงพ่อคำสิงห์ ชาคโร อยู่จำพรรษา 2 พรรษา พ.ศ.2529 – 2531 ไม่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พ.ศ.2531 – 2532 พระอธิการสมาน ภูริปญฺโญ อยู่จำพรรษา 1 พรรษา พ.ศ.2539 – 2540 พระอำนาจ ปัญญาวงศ์ อยู่จำพรรษา 1 พรรษา พ.ศ.2540- 2547 พระอธิการสมาน ภูริปญฺโญ (อุปคุณ) ได้มาอยู่จำพรรษา 8 พรรษา เมื่อวันที่ ๑ เดือนมีนาคม พ.ศ.2547 - ปัจจุบัน พระมหาอุทัย วชิรเมธี (อุปคุณ) วุฒิการศึกษา น.ธ.เอก,ป.ธ.7,ปริญญาตรีรัฐประศาสนศาตร์ (รปบ.มสธ.) มาอยู่วัดสระศรีสำราญ ได้เคยมีพระภิกษุสงฆ์ที่บวชจำพรรษา รวมทั้งหมดจำนวน 23 รูป และสามเณรบวชภาคฤดูร้อนปีละ 10 รูป
พ.ศ.2547 – 2551 มีพระมหาอุทัย วชิรเมธี อยู่จำพรรษารูปเดียว พ.ศ.2552 มีพระภิกษุจำพรรษา 1 รูป สามเณร 1 รูป พ.ศ.2553 มีพระภิกษุบวช 9 วัน จำนวน 3 รูป อยู่จำพรรษา 3 รูป พ.ศ.2554 มีพระภิกษุจำพรรษา 6 รูป พ.ศ.2555 มีพระภิกษุจำพรรษา 2 รูป พ.ศ.2556 มีพระภิกษุจำพรรษา 2 รูป
สิ่งก่อสร้างภายในวัด พ.ศ.2514 ชาวบ้านสร้างรั้วไม้ มีหลักฐานรั้วไม้ที่เก็บเอาไว้ พ.ศ.2516 ชาวบ้านเริ่มได้สร้างกุฏิหลังไม้มุงด้วยสังกระสียกพื้นสูง 1 เมตร 80 เซนติเมตร จำนวน 1 หลัง มี 2 ห้อง กว้าง 12 เมตร ยาว 8 เมตร และห้องน้ำ 1 หลัง มี 2 ห้อง พ.ศ.2523 เริ่มสร้างศาลาไม้ 1 หลัง กว้าง 12 เมตร ยาว 9 เมตร เสาสูง 80 เซนติเมตร แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.2524 พ.ศ.2531 ยกศาลาไม้หลังเก่าเปลี่ยนเสาใหม่สูง 3 เมตร และห้องน้ำ 1 หลัง มี 3 ห้อง กว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร อยู่ทางทิศเหนือ บริเวณประปาผิวดิน พ.ศ.2532 สร้างศาลาประชาคม ปัจจุบันใช้เป็นโรงครัว กว้าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร พ.ศ.2535 สร้างกุฏิปูนเสริมเหล็ก 2 ชั้น กว้าง 6 เมตร ยาว 9 เมตร พ.ศ.2543 สร้างหอฉัน 1 หลัง กว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร พ.ศ.2547 ตกแต่งชั้นล่าง เทคอนกรีตพื้นศาลาการเปรียญหลังเก่า พ.ศ.2549 สร้างห้องน้ำจำนวน 10 ห้อง กว้าง 2 เมตร ยาว 10 เมตร พ.ศ.2551 สร้างกำแพงวัดกึ่งปูนกึ่งไม้ พ.ศ.2552 ย้ายศาลาการเปรียญหลังเก่าไปตั้งอยู่ทิศตะวันตก และประปาผิวดิน พ.ศ.2553 เทถนนคอนกรีต งบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลดงมอน พ.ศ.2555 วันที่ 4 เดือนเมษายน เททองพระประธาน พ.ศ.2555 วันที่ 30 เดือนสิงหาคม เริ่มขุดหลุมตอหม้อเทคานเพื่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรม กว้าง 16 เมตร ยาว 28 เมตร พ.ศ.2556 วันที่ 29 เดือนสิงหาคม ยกเสาไม้ยาว 7 เมตร จำนวน 21 ต้น เพื่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรม