ทินกร เจือจันทร์
ประวัติวัดศาลาลอย (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
ที่ตั้ง
วัดศาลาลอย ตั้งอยู่เลขที่ ๔๙๐ ถนนหลักเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เนื้อที่ตั้งวัด ๑๒ ไร่ ๓ งาน ๘๓ ตารางวา โฉนดที่ดินเลขที่ ๓๐๓๙ ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองชั้นนอกด้านตะวันออก ปัจจุบันมี “ พระธรรมโมลี “ (ดร.พระมหาทองอยู่ ญาณวิสุทฺโธ พิศลืม น.ธ.เอก,ป.ธ. ๙, พ.ม.,พธ.บ. , M.A.,Ph.D.) เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ เป็นเจ้าอาวาส
อาณาเขต
- ทิศเหนือติดกับถนนวิภัชนุสรณ์
- ทิศไต้ติดกับที่ดินเอกชน หนองโตนดและถนนหลักเมือง
- ทิศตะวันออกติดกับถนนเทศบาล ๔
- ทิศตะวันตกติดกับถนนเทศบาล ๒
ความเป็นมา
วัดศาลาลอย เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดสุรินทร์ ก่อสร้างเมื่อใด ใครสร้างปรารภอะไรจึงสร้างไว้ ไม่มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่พอเป็นหลักฐานได้ แต่จากการบอกเล่าของคนรุ่นก่อน ๆ และเล่าสืบทอดกันต่อ ๆมา พอเรียบเรียงความได้ดังนี้ วัดศาลาลอยเป็นวัดโบราณ สร้างมานานแล้ว อายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี จากประวัติเมืองสุรินทร์บันทึกไว้ว่า พระยาสุรินทร์ภักดีศรีไผทสมันต์ (สุ่น) เจ้าเมืองคนที่ ๔ ครองเมืองสุรินทร์เมื่อปีมะแม จุลศักราช ๑๑๗๒ พุทธศักราช ๒๓๔๕ รัตนโกสินทร์ศก ๓๐ ถึงปีกุน จุลศักราช ๑๒๑๓ พุทธศักราช ๒๓๙๔ รัตนโกสินทร์ศก ๗๐ ภรรยาของท่านเจ้าเมืองคือนางดาม พร้อมบุตรธิดาและบริวารประกอบอาชีพเกษตรกรรมบริเวณที่เรียกภาษาถิ่นว่า เวียลเวง (เวียล แปลว่า ทุ่ง, เวง แปลว่า ยาว, เวียลเวง แปลว่า ทุ่งยาว) ซึ่งอยู่นอกกำแพงเมืองด้านตะวันออกของวัด ในปัจจุบันนี้คือบริเวณที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษา โรงเรียนสิรินธร โรงเรียนสุรวิทยาคาร โรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ โรงเรียนเมืองสุรินทร์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ โรงพยาบาลสุรินทร์ และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนอกจากนี้นางดามพร้อมด้วยบุตรธิดาและบริวารยังประกอบอาชีพเกษตรกรรมประเภทไร่ ณ บริเวณสนามบิน แถวสนามกีฬาศรีณรงค์ในปัจจุบัน นางดามเป็นคนใจบุญ ค้ำจุนอุปถัมภ์วัดและถวายความอุปการะพระภิกษุสามเณรวัดศาลาลอยเป็นประจำ พร้อมกันนั้นก็ได้ฝากบุตรหลานและบริวารให้ดูแลบำรุงวัดตลอดมา
การปกครอง
วัดศาลาลอย มีเจ้าอาวาสปกครองดูแลพระภิกษุสามเณรติดต่อกันมาหลายรูป เท่าที่จดจำจากการเล่าสืบต่อกันมา มีดังนี้
- พระอธิการยุง ระหว่างปี ๒๔๔๕
- พระอธิการเขมา ระหว่างปี ๒๔๘๔
- พระอธิการมี (กิม) ระหว่างปี ๒๔๖๐
- พระครูธรรมธัชวิมล (ดัน เจริญสุข) เจ้าคณะอำเภอ ระหว่างปี ๒๔๖๑ – ๒๔๘๕
- พระครูวิภัชกัลยาณธรรม (จันทร์ กลฺยาณมุตฺโต) เผยแผ่จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปี ๒๕๘๖ – ๒๕๑๘
- พระมหาสุรพงษ์ เตมิโย ป.ธ.๕, นักธรรมชั้นเอก ระหว่างปี ๒๕๑๙ – ๒๕๒๒
- พระธรรมโมลี (ดร.พระมหาทองอยู่ ญาณวิสุทฺโธ (พิศลืม) น.ธ. เอก, ป.ธ.๙ พ.ม, พ.ธ.บ, M.A,Ph.D.) ระหว่างปี ๒๕๒๓ - ๒๕๓๓ (ในขณะสมณะศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ “ พระศรีธีรพงศ์ ” และ “ พระศรีธีรพงศ์ ” รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระอารามหลวง เมื่อวันที่ ๑ เดือนตุลาคม ปี ๒๕๓๓
- เมื่อวันที่ ๔ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกทรงมีพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส พระอารามหลวง โดยเจ้าประคุณ สมเด็จพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระสังฆราชมอบพระบัญชาแต่งตั้ง( ปัจจุบัน “ พระศรีธีรพงศ์ “ ได้เลื่อนสมณะศักดิ์พระราชาคณะชั้นธรรม เป็น “ พระธรรมโมลี ” เมื่อวันที่ ๕ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘)
การจัดการศึกษา
ก. การศึกษาพระปริยัติธรรม
วัดศาลาลอยได้เริ่มดำเนินการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมมาช้านานแล้ว สำหรับแผนกบาลีได้เริ่มทำการเรียนการสอนเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๒ เป็นต้นมา การศึกษาทั้งสองแผนกคือธรรมกับบาลี ได้รับการสืบต่อกันเป็นช่วง ๆ ปรากฏว่ามีพระภิกษุสามเณรมีความรู้เข้าสอบนักธรรมได้ทั้งตรี โท เอก แผนกบาลีได้ส่งเข้าสอบสนามหลวงตั้งแต่ประโยค ๑ - ๒ ถึงประโยค ป.ธ.๙ รวมกันแล้วปีหนึ่ง ๆ ไม่ต่ำกว่า ๗๐ รูป และเป็นสำนักศาสนศึกษาแห่งเดียวที่มีนักเรียนสามารถสอบเปรียญธรรม ๙ ประโยคได้ในสนามหลวงเป็นรูปแรกของสำนักเรียนคณะจังหวัดสุรินทร์ ๓ การที่มีนักเรียนจำนวนมากเช่นนี้ และสอบได้มากทุกปี กรมการศาสนาจึงยกย่อง ตั้งเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมประจำจังหวัดสุรินทร์ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๕
ข. แผนกสามัญ
นอกจากจะให้บริการการเรียนการสอนแก่พระภิกษุสามเณรในด้านพระปริยัติธรรมแผนกธรรมและบาลีแล้ว วัดศาลาลอยได้เปิดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมสายสามัญขึ้นโดยมีนักเรียนที่เป็นพระภิกษูสามเณรเรียนตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนต้น ถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๖ และในระดับอุดมศึกษา ได้ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์และทางราชการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์ เปิดทำการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี ๒ คณะ คือ คณะสังคมศาสตร์และคณะครุศาสตร์
ค. การศึกษาสงเคราะห์
การศึกษาสงเคราะห์เป็นกิจกรรมที่วัดให้บริการทางการศึกษาปริยัติธรรมรูปแบบหนึ่งโดยวิธีการให้เปล่าคือ การศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์ภายในวัด และธรรมศึกษาตรี โท และเอก การศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ได้ดำเนินกิจกรรมมาตั้งแต่ปี ๒๕๒๓ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์ได้เปิดทำการเมื่อปี ๒๕๓๔ ในปัจจุบันมีครูพี่เลี้ยง ๕ คน เด็กเล็ก ๑๒๗ คน ปริยัติธรรมแผนกธรรมศึกษา ได้ส่งครูไปช่วยสอนในโรงเรียนต่าง ๆ แล้วนำนักเรียนเหล่านั้นเข้าสอบธรรสนามหลวง ในนามของสำนักศาสนศึกษาวัดศาลาลอย เริ่มดำเนินการเมื่อปี ๒๕๓๙ ในปัจจุบันมีนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ เช่น สุรวิทยาคาร ส่งชื่อเข้าสอบธรรมสนามหลวงในนามวัดศาลาลอยปีละประมาณ ๓๐๐ - ๕๐๐ คน
วิธีส่งเสริมการศึกษา
- มอบรางวัลแก่ผู้ที่สอบได้บาลีในสนามหลวงตามความเหมาะสม
- ยกย่องผู้ที่สอบได้ในสนามหลวงให้ปรากฏ
- มอบหมายผู้ที่สอบได้เป็นเปรียญธรรมให้สอนนักเรียนรุ่นน้องต่อไป
- ส่งพระภิกษุผู้ทรงคุณวุฒิไปช่วยสอนในโรงเรียนที่ขอความร่วมมือ
- ส่งพระเปรียญ สามเณรเปรียญไปช่วยสอนในสำนักศาสนศึกษาที่ขาดครูสอนทั้งนักธรรมและบาลี
การเผยแผ่
- วัดศาลาลอยเป็นที่ตั้งศูนย์ครูปริยัตินิเทศจังหวัดสุรินทร์เป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่ในปัจจุบัน
- การจัดการแสดงธรรม
ได้จัดวาระให้พระภิกษุสามเณรแสดงธรรมและฝึกสมาธิแก่ผู้สองอายุเป็นประจำทุกวันพระตลอดปี
- จัดพระธรรมกถึกแสดงธรรมทางสถานีวิทยุ
- โทรทัศน์ตลอดปี
- จัดส่งพระวิทยากรไปอบรมข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียนนักศึกษาและผู้บริหารแผนกต่าง ๆ ตลอดปี
- จัดพิธีรับเด็กและเยาวชนแสดงตนเป็นพุทธมามกะทุกปี ตั้งแต่ระดับบริบาล อนุบาล จนถึงระดับอุดมศึกษา ปีละประมาณ ๑,๒๐๐ คน
- จัดพิธีมาฆบูชา วิสาขบูชาและวันอาสาฬหบูชา เป็นประจำทุกปีไม่มีขาด แต่ละครั้งจะมีผู้เข้าร่วมพิธีเป็นพระภิกษุสามเณรให้สังกัดไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ รูป และสาธุชน ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทั่วไปประมาณ ๒๐๐ - ๒๕๐ ท่าน
- ตั้งศูนย์พุทธมามกะผู้เยาว์จังหวัดสุรินทร์
การสาธารณูปการ
ตั้งแต่ปี ๒๕๒๒ เป็นต้นมา โดยเจ้าอาวาสเป็นประธานในการจัดการ และจัดระเบียบวัด
ทั้งจัดสร้างใหม่และบูรณะปฏิสังขรณ์ของเดิมให้อยุ่ในสภาพที่ใช้การได้ วัดศาลาลอยจึงมีอาคารเสนาสนะและถาวรวัตถุ เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ของการใช้งานดังนี้
- ศาลาร้อยปี บูรณปฏิสังขรณ์จากเดิมเป็นเรือนไม้ทั้งหลัง รื้อออกแล้วสร้างใหม่ให้ทรงเดิม ย้ายไปทางฝั่งตะวันตกติดถนนสายเทศบาล ๒ ติดกำแพง ชั้นล่างก่ออิฐถือปูนกั้นห้องใช้เป็นศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัดร้อยกว่าคน ครูพี่เลี้ยง ๕ คน ใช้เป็นสถานที่เรียนดนตรีไทยแผนกปี่พาทย์
- ศาลาการเปรียญ ในอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดา-มาตุ เริ่มต้นโดยกองทุนของนางกานดา เตชะไพบูลย์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปัจจุบันใช้เป้นห้องประชุมพระสังฆาธิการ เจ้าคณะอำเภอ, รองเจ้าคณะอำเภอ, ระดับเจ้าคณะตำบล, รองเจ้าคณะตำบลและพระเลขานุการเจ้าคณะอำเภอ และหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนขอใช้บางโอกาส
- กุฏีพรหมคุปต์ ทุนนางปลั่งศรี มูลศาสตร์ และญาติ (กุฏิเจ้าอาวาส)
- ศาลาเกตุสิริ ทุนนายดนัย นางพูนรัตน์ เกตุสิริ ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่เรียนดนตรีไทย แผนกอังกะลุง, เป็นสถานที่รับรองพระสังฆาธิการที่เข้าร่วมประชุม ณ วัดศาลาลอย, เป็นห้องประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอ, รองเจ้าคณะอำเภอ และเลขานุการเจ้าคณะอำเภอ
- ศาลาสุนทร เปลี่ยน รัตนสุวรรณ สร้างโดยทุนนายสุนทร นางเปลี่ยน รัตนสุวรรณ ใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศล
- ศาลาพิน แผ้ว มูลศาสตร์ ทุนนายแผ้ว นางพิน มูลศาสตร์ ใช้เป็นศาลาบำเพ็ญกุศล
- ห้องสมุดทวีศรี มนูรังสรรค์ ทุนของตระกูลมนูรังสรรค์ ห้องสมุดประจำวัดศาลาลอย
- กุฏีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี ทุนของอุบาสกอุบาสิกาคุ้มวัดศาลาลอย ใช้เป็นที่พักพิงของพระภิกษุสามเณร
- ที่พักสงฆ์เรือนยาว ทุนของอุบาสกอุบาสิกาคุ้มวัดศาลาลอย ใช้เป็นที่พักสำหรับพระภิกษุสามเณร ประมาณ ๓๐ รูป
- กุฏีสองประสาน ทุนนายประมวล นางวิไล วิเชียรรังสรรค์ ใช้เป็นเรือนรับรองพระผู้ใหญ่ตั้งแต่เจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาคและสมเด็จราชาคณะ
- กุฏีเผยเมย นิยมตรง ทุนของนายเผย นางเมย นิยมตรง ปัจจุบันใช้เป็นอาคารรวมงานคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ ในด้านข้อมูล, สถิติ เป็นต้น
- กุฏีเจ้าคุณ ทุนของนายโสร์ นางปริก แก้วปลั่ง ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่พักของพระภิกษุและสามเณร ๑๗ รูป
- กุฏิกัมมัฏฐาน ๓ หลัง ทุนของนายนคร ๒ หลัง และตระกูลเภสัชชา ๑ หลัง ปัจจุบันใช้เป็นเรือนพักพระภิกษุสามเณรหลังละ ๑ รูป
- อาคารเรียนปริยัติธรรม ทุนของเทศบาลเมืองสุรินทร์ ปัจจุบันใช้เป็นอาคารเรียนปริยัติธรรมแผนกธรรม, แผนกบาลี, แผนกสามัญศึกษา ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๖ และงานสารบัญเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์
- พระอุโบสถ ทุนของพุทธศาสนิกชน เป็นสถานที่ทำวัตรสวดมนต์ บำเพ็ญสมาธิภาวนาประจำวัน และใช้ทำสังฆกรรมของพระสงฆ์
- มณฑปพระพุทธบาทจำลอง ทุนของนายซอติก นางงัก แซ่เตีย
- ห้องน้ำรวม ๓ แห่ง รวม ๑๘ ห้อง ทุนของวัดศาลาลอย
- หอระฆัง ทุนของตระกูลดีล้อม
- กูฏีประสพกฤชทอง ทุนนางประสพ กฤชทอง ใช้เป็นอาคารรับรองพระสังฆาธิการและอาคันตุกะทั่วไป
- ศาลาบัวแย้ม ทุนนางบัวแย้ม เทศไธสง ใช้เป็นสถานที่สันทนาการประจำวันของพระภิกษุสามเณร เป็นศาลาธรรมสากัจฉา
- ศาลาธวัช สงวนเสริมศรี ทุนนางอุทัยพันธ์ นางวรรณพร สงวนเสริมศรี ใช้เป็นอาคารสันทนาการประจำวันของพระภิกษุสามเณร เป็นศาลาธรรมสากัจฉา
- อาคารเรียนบาลีสาธิตวัดศาลาลอยสุรินทร์ ทุนของวัดและพุทธศาสนิกชนร่วมสร้าง
การศึกษาสงเคราะห์
วัดศาลาลอยได้บริการการศึกษาไม่เฉพาะแต่พระภิกษุสามเณรเท่านั้น เพราะจากบันทึกปรากฏว่ามีงานบริการด้านการศึกษาดังนี้
- ตั้งแต่ปี ๒๕๒๓ เป็นต้นมา ได้จัดกิจกรรมกวดวิชาภาษาบาลี, ธรรม ก่อนสอบสนามหลวง ๑๕ วันทุกปี มีนักเรียนที่เป็นพระภิกษุสามเณรเข้ารับการกวดทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า ๔๐๐ รูป
- จัดส่งครูช่วยสอนพระปริยัติธรรมทั้งนักธรรมและบาลีไปช่วยสอนในสำนักศาสนศึกษาที่ขาดครูสอน
- จัดส่งพระวิทยากรไปช่วยสอนศีลธรรมในโรงเรียนเสมอมา ตั้งแต่ระดับบริบาล อนุบาล ประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย กระทั่งถึงระดับอุดมศึกษา
- ตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ เป็นต้นมา ได้จัดตั้งศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ มีนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมถึงมัธยมตอนปลายเข้าเรียนโดยเฉลี่ยปีละ ๒๕๐ - ๓๐๐ คน
- เป็นศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ชื่อ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์วัดศาลาลอย ในความอุปถัมภ์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ
- จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมปีละไม่ต่ำกว่า ๓ ครั้ง เช่น การตอบปัญหาธรรมบาลีชิงความเป็นหนึ่งของสำนักศาสนศึกษาที่สังกัดสำนักเรียนคณะจังหวัดสุรินทร์ โดยจัดในวันที่ ๑๒ สิงหาคม , ๕ ธันวาคม เป็นต้น
- จัดอภิปราย สัมมนาทางวิชาการทั้งภายในวัดและนอกวัด ทั้งในส่วนภูมิภาคและส่วนกลาง
- จัดอบรมครูสอนพระปริยัติธรรมของสำนักเรียนคณะจังหวัดสุรินทร์ ปีละ ๑ ครั้ง
- จัดทำหลักสูตรอบรมสามเณรฤดูร้อน
- ดำเนินการสอนพระนวกะที่เป็นราชภัฏลาบวช ทั้งในระยะยาว ๓ เดือน และระยะสั้น ๑๕ วัน หรือ ๑ เดือน
การสาธารณสงเคราะห์
วัดศาลาลอย โดยเจ้าอาวาสเป็นประธาน
- ตั้งชมรมเปรียญธรรมเพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์
- จัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนของทุกปี
- ร่วมบำเพ็ญกุศลอุทิศผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ สงเคราะห์ผู้เจ็บป่วย
- ตั้งกองทุนสงเคราะห์เด็กยากจน
- ตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์
- ตั้งกองทุนพระศรีอริยะเมตไตรย์
เกียรติฐานะของวัด
การจัดการวัดเป็นส่วนที่ทำให้เกิดผล ดังต่อไปนี้
พ.ศ. ๒๕๓๒ กรมการศาสนาประกาศให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง
พ.ศ. ๒๕๓๓ กรมการศาสนาประกาศยกย่องให้เป็นวัดพัฒนาดีเด่น สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานเกียรติบัตรและพัดพัฒนาดีเด่น
พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้รับเสาเสมาธรรมจักรทองคำ สาขาการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมดีเด่น จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกวัดราษฎร์เป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ
จำนวนผู้อาศัยในปัจจุบัน (๒๕๕๒)
๑. พระภิกษุจำนวน ๒๕ รูป สามเณร ๗๕ รูป
- พระเปรียญ ๑๔ รูป
- สามเณรเปรียญ ๑ รูป
- พระภิกษุทรงปาติโมกข์ ๓ รูป
- พระธรรมกถึก ๕ รูป
- พระระดับดุษฎีบัณฑิต (ปริญญาเอก) ๑ รูป
- พระมหาบัณฑิต (ปริญญาโทอักษรศาสตรมหาบัณฑิต) ๒ รูป
- พระบัณฑิต (ปริญญาตรีพุทธศาสตรบัณฑิต) ๗ รูป
- ครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม ๓ รูป
- ครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ๓ รูป
- ครูสอนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ๑ รูป
- อาจารย์สอนมหาวิทยาลัย ๓ รูป
- พระครูสัญญาบัตร
- พระครูฐานานุกรม ๑ รูป
๒. อุบาสกอุบาสิกาจำศีลในวันพระเฉลี่ยวันพระละ ๙ - ๑๓ ท่าน
๓. เด็กก่อนเกณฑ์ ๑๒๗ คน
๔. เด็กวัด ๑๕ คน
เหตุการณ์ครั้งสำคัญ
พ.ศ. ๒๕๒๔ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสนมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ เสด็จเยี่ยมและประทานโอวาทแก่คณะสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกาวัดศาลาลอย
พ.ศ. ๒๕๒๔ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณณกมหาเถร) วัดจักรวรรดิราชวาส เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เยี่ยมคณะสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกาวัดศาลาลอย
พ.ศ. ๒๕๓๑ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร ป.ธ. ๘) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชประกอบพิธีเปิดป้ายมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วิทยาเขตสุรินทร์ ณ วัดศาลาลอย
พ.ศ. ๒๕๓๒ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สนิธ ป.ธ. ๙) วัดปทุมคงคา กรุงเทพมหานคร แสดงพระธรรมเทศนาโปรดชาวสุรินทร์ ณ วัดศาลาลอย
พ.ศ. ๒๕๓๒ สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ ป.ธ. ๖) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานเจริญพระพุทะมนต์ในพิธีสมโภชสมณศักดิ์ ณ วัดศาลาลอย
พ.ศ. ๒๕๓๔ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จประทานสัญญาบัติพัดยศแก่พระสังฆาธิการ ภาค ๑๐ - ๑๑ รวม ๙ จังหวัด ณ วัดศาลาลอย
พ.ศ. ๒๕๓๔ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร ป.ธ. ๙) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นประธานอัญเชิญกฐินพระราชทานของบริษัทเซนทรัล ทอดถวาย ณ วัดศาลาลอย
พ.ศ. ๒๕๓๕ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร ป.ธ. ๙) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นประธานในพิธีเททองหล่อพระประธาน
พ.ศ. ๒๕๓๖ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร ป.ธ. ๙) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นประธานสงฆ์ในพิธีสมโภชชนมายุครบ ๕ รอบ และสมโภชสมณะศักดิ์พระราชาคณะชั้นราช “พระราชวิสุทธิเมธี”
พ.ศ. ๒๕๓๗ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นประธานทอดผ้าป่า ณ วัดศาลาลอย
พ.ศ. ๒๕๓๘ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร ป.ธ. ๙) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชในพิธีประทานประกาศนียบัตรพัดยศเปรียญธรรม ๓ ประโยค ณ วัดศาลาลอย
พ.ศ. ๒๕๔๐ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร ป.ธ. ๙) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นประธานเปิดการประชุมพระสัง
พ.ศ. ๒๕๔๑ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร ป.ธ. ๙) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นประธานในพิธีผูกพัทธสีมา ณ วัดสาริกาแก้ว ตำบลบึง กิ่งอำเภอเขวาสินรินทร์ แวะพักอิริยาบถ ณ วัดศาลาลอย
พ.ศ. ๒๕๔๓ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร ป.ธ. ๙) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นประธานในพิธีสมโภชสมณศักดิ์ พระราชาคณะชั้นเทพ “พระเทพปัญญาเมธี”
พ.ศ. ๒๕๕๒ ทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค ที่จังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๒ ณ วัดศาลาลอยพระอารามหลวง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระบรมราชานุญาตถวายสมเด็จพระสังฆราช ทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค ประเพณีสืบมา ในปี ๒๕๕๒ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้มีบัญชากำหนดพิธีทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค ในเขตปกครองสงฆ์หนตะวันออก ภาค ๑๐-๑๑-๑๒ รวม ๑๔ จังหวัด ในวันพุธที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๒ ณ วัดศาลาลอย พระอารามหลวง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีพระภิกษุสามเณร ได้รับทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค จำนวน ๒๐๕ รูป และรับประกาศนียบัตรบาลีประโยค ๑-๒ จำนวน ๔๐๔ รูป รวมทั้งสิ้น ๖๐๙ รูป ซึ่งในวันดังกล่าวเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เมตตามาปฏิบัติศาสนกิจในจังหวัดสุรินทร์ ดังนี้ ในช่วงเช้า เวลา ๑๐.๑๙ เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารสำนักงานวิทยาเขตสุรินทร์ และเปิดป้ายอาคารหอสมุด "สมเด็จพระพุฒาจารย์" มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์ และในช่วงบ่ายเวลา ๑๓.๒๐ น. เป็นประธานทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค ณ วัดศาลาลอย พระอารามหลวง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์