ผู้ใช้:จิรัชชัย เจริญสุข/ทดลองเขียน

เเตกกวา

เป็นผักชนิดหนึ่งที่คนไทยรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตากันดี มักนิยมนำไปเป็นเครื่องจิ้ม น้ำพริกต่างๆ เต้าเจี้ยวหลน ฯลฯ หรือเครื่องเคียงอาหารจานเดียว เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง นอกจากเสริมรสชาติอาหารจานหลักแล้วยังช่วยแก้เลี่ยนได้ด้วย นอกจากนี้แตงกวายังมีประโยชน์อื่นๆ 

รู้จักกับแตงกวา แตงกวา (Cucumber) เป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดียจัดว่า เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับน้ำเต้า ฟักทอง แตงโม บวบ มะระ แตงกวาเป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตรวดเร็ว มีรากแก้วและรากแขนงจำนวนมาก ลำต้นมีลักษณะเป็นเถาเลื้อยยาวประมาณ 2-3 เมตร ใบมีมุม 3-5 มุม มีขนหยาบ ปลายมีลักษณะแหลมยาว ดอกมีกลีบ 5 กลีบ สีเหลือง ส่วนผล มีลักษณะรูปทรงกระบอกยาวตั้งแต่ 5-40 เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดอยู่ตรงกลางสามารถนำมารับประทานได้ทั้งผล คุณค่าทางโภชนาการของแตงกวา แตงกวา 1 ผล มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 96.4% คาร์โบไฮเดรต 2.8% โปรตีน 0.4% ไขมัน 0.1% และแร่ธาตุต่างๆ เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี และบี นอกจากนี้ผลของแตงกวายังมีสารเอนไซม์อยู่หลายชนิด เช่น เอนไซม์ที่ย่อยโปรตีน ซักซินิก มาลิก ดีไฮโดรจีเนส (succinic malic dehydrogenase) แอสคอร์บิก แอซิด ออกซิเดส (Ascorbic acid oxidase) ในส่วนของเถาและเมล็ดจะมีฟอสฟอรัสในปริมาณสูง ประโยชน์ของแตงกวา ช่วยลดอุณหภูมิ หรือความร้อนภายในร่างกาย ในช่วงฤดูร้อนจึงเหมาะที่จะรับประทานแตงกวามาก ช่วยรักษาสมดุลภายในร่างกาย เช่น รักษาระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมยิ่งขึ้น ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ช่วยในเรื่องการฆ่าเชื้อโรค ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวสะอาดกระจ่างใสขึ้น และรูขุมขนกระชับขึ้น ช่วยป้องกันสภาวะร่างกายขาดน้ำได้ เนื่องจากในแตงกวามีส่วนประกอบที่เป็นน้ำถึง 90กว่าเปอร์เซ็นต์ ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร มีสารแอนโทรแซนทินซึ่งจะช่วยลดอาการอักเสบและอาการปวด มีการทดลองพบว่า สารสกัดของแตงกวาสามารถบรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้ในระดับปานกลาง ช่วยกำจัดของเสียที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกายและยังช่วยละลายก้อนแข็งที่อยู่ภายในไตได้ด้วย ช่วยเสริมสร้างความจำ ส่งเสริมการทำงานของสมอง และยังช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ มีการทดลองพบว่า สารสกัดจากเมล็ดแตงกวาสามารถช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือดได้ สรรพคุณทางยาของแตงกวา ผล: เมื่อนำมารับประทานจะมีสรรพคุณเป็นยาเย็น ช่วยลดความร้อนภายในร่างกาย ขับปัสสาวะ ลดไข้ แก้อาการกระหายน้ำ ใช้รักษาอาการเจ็บคอ ตาแดง ไฟลวก และผดผื่นคัน หรือจะใช้รับประทานเป็นเครื่องเคียงกับน้ำพริก หรือนำมาประกอบอาหารก็สามารถนำมาทำได้ ใบ: เมื่อนำมารับประทานสดๆ จะให้รสขม มีพิษเล็กน้อย สามารถนำมาใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย หรือบิดได้ เมล็ด หรือเนื้อในเมล็ด: ให้รสมัน เย็น เมื่อนำมารับประทาน จะช่วยในเรื่องของการถ่ายพยาธิได้เป็นอย่างดี เถา: จะให้รสขม มีพิษเล็กน้อย ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต โรคผิวหนังเป็นฝีเล็กๆ มีหนอง รักษาอาการหนองในได้ ราก: จะให้รสเย็น ช่วยป้องกันการขาดวิตามินบี 1 และช่วยขับปัสสาวะ ไอเดียการรับประทานแตงกวาเพื่อสุขภาพ 1.แตงกวาผัดไข่ เตรียมส่วนผสมด้วยการนำแตงกวาลูกเล็กประมาณ 5 ผล ไปล้างน้ำให้สะอาด นำมาผ่าออกให้เป็น 2 ซีก จากนั้นหั่นแบบเฉียงๆ เตรียมไข่ไก่ 2 ฟอง น้ำมัน 2-3 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา และเต้าเจี้ยวดำ 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำเริ่มด้วยการตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปพอร้อน ตามด้วยกระเทียมสับผัดให้พอหอม ใส่แตงกวาลงไปผัดให้พอร้อน ตามด้วยไข่ไก่ ผัดให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำตาลทรายและเต้าเจี้ยว ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จานรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ

2.แตงกวาสลัดโยเกิร์ต นำแตงกวาขนาดปานกลาง 1 ลูก ไปล้างน้ำให้สะอาด นำมาหั่นเป็นแว่นๆ แล้วหั่นครึ่งอีกให้เป็นชิ้นพอดีคำ เติมผักสลัดชนิดอื่นๆ ตามชอบ 2 ถ้วย กรีกโยเกิร์ต 1/4 ถ้วย ถั่ววอลนัต หรือถั่วชนิดอื่นๆ 30 กรัม ใช้สำหรับโรยหน้าสลัด เกลือ และพริกไทย ขั้

ขั้นตอนการทำเริ่มด้วยการเตรียมผักสลัดวางไว้บนจาน จากนั้นนำแตงกวา โยเกิร์ต และถั่วที่ชอบ พริกไทย หรือเกลือเล็กน้อย มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำมาราดลงบนผักสลัดที่เตรียมไว้ในจาน โรยหน้าด้วยถั่ววอลนัท เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ก็จะได้เมนูง่ายๆ เพื่อสุขภาพแล้ว

3.ต้มจืดแตงกวายัดไส้ เตรียมส่วนผสมด้วยการนำแตงกวาขนาดเล็ก 4-5 ลูก ไปล้างน้ำให้สะอาด นำมาปอกเปลือก ผ่าขวางเป็น 2 ท่อน ใช้มีดคว้านไส้ออก นำหมูสับ 200 กรัม รากผักชี กระเทียม พริกไทย มาโขลกรวมกัน 1 ช้อนโต๊ะ แป้งมัน/แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1/4 ช้อนชา มาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ขั้นตอนการทำเริ่มด้วยการนำรากผักชี 2 ราก กระเทียม 2 กลีบ มาบุบทิ้งไว้ ตั้งหม้อใส่น้ำลงไปพอประมาณ ใส่รากผักชี กระเทียมที่บุบไว้ลงไป ระหว่างรอน้ำเดือดนั้นให้นำหมูสับที่หมักไว้ มายัดใส่แตงกวาที่คว้านไส้ออกแล้ว พอน้ำเดือดให้ใส่แตงกวายัดไส้ที่เตรียมไว้ลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาวตามชอบ ต้มต่อประมาณ 15-20 นาที ปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาวตามชอบ พอเดือดตักใส่ชาม รับประทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อีกหนึ่งเมนูง่ายๆ สำรับคนรักสุขภาพ ไอเดียการใช้แตงกวาเพื่อความงาม 1.ลดอาการผิวหน้าแห้ง นำเนื้อแตงกวาขูดฝอยมาพอกที่บริเวณหน้าและและคอ 15-20 นาที จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว สามารถทำได้บ่อยตามที่ต้องการ

2.บำรุงผิวหน้า นำผลของแตงกวามาคั้นเอาน้ำและนำมาผสมกับนมสดในปริมาณที่เท่าๆ กัน จากนั้นให้เติมน้ำลอยกลีบกุหลาบ 2-3 หยด ทาใบหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาที จะช่วยให้ผิวหน้าขาวและนุ่มขึ้น

3.ลบถุงดำใต้ตา ส่วนผสมประกอบด้วย น้ำแตงกวา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันฝรั่งคั้น 1 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมให้เข้ากัน จากนั้นทาบริเวณขอบตาโดยรอบ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด

4.ลดรอยดำใต้รักแร้ ส่วนผสมประกอบไปด้วยน้ำแตงกวา 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนชา น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ ผงขมิ้น 1/2 ช้อนชา หลังจากอาบน้ำเสร็จเช็ดตัวให้แห้งแล้วนำสำลีชุบน้ำมันมะพร้าว เช็ดใต้รักแร้ให้แห้ง จากนั้นให้นำน้ำแตงกวา น้ำมะนาว และผงขมิ้นมาผสมให้เข้ากัน ทาบริเวณใต้รักแร้ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดและใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

5.ทรีตเม้นท์แก้ผมเสีย ส่วนผสมจะประกอบด้วยไข่ไก่ 1 ฟอง แตงกวาปอกเปลือก 1/4 ผล และน้ำมันมะกอก 3 ช้อนชา ให้นำทั้ง 3 อย่างมาผสมรวมกัน แล้วชโลมลงไปบนเส้นผมให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด 6.ลดรอยคล้ำใต้ดวงตา นำแตงกวามาล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำไปหั่นเป็นแว่นๆ จากนั้นให้นำมาวางทับลงบนเปลือกตา ทิ้งไว้ 15-20 นาที ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ไอเดียการใช้แตงกวาเพื่อสุขภาพ 1.นำมาทำน้ำแตงกวาดื่มรักษาโรค แตงกวาสามารถนำมาใช้ทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อรักษาโรคและอาการป่วยได้หลากหลายชนิด เช่น แก้อาการหวัด ช่วยขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน ดับกระหาย และเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย โดยการทำน้ำแตงกวาดื่มเพื่อสุขภาพนั้นก็ไม่ยากเลย ให้นำแตงกวามาฝานเป็นแว่นขนาดพอเหมาะ ใส่ลงในเหยือกน้ำแล้วเทน้ำลงไป จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน ก็จะได้น้ำแตงกวาที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว

2.นำมาใช้รักษาโรคเหงือก เป็นการนำน้ำแตงกวามารักษาโรคเหงือกและฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากซึ่งจะช่วยลดกลิ่นปากได้เป็นอย่างดี เริ่มจากทำน้ำแตงกวาเช่นเดียวกับวิธีแรก จากนั้นอมน้ำแตงกวาไว้ในปากสักพักแล้วจึงบ้วนทิ้ง หรืออีกวิธีหนึ่งคือ ให้ฝานแตงกวาเป็นแว่นขนาดพอเหมาะ แล้วใช้ลิ้นดันให้ติดเพดานปากไว้ประมาณครึ่งนาทีจะช่วยแก้ปัญหาในช่องปากได้

3.แก้อาการเมาค้าง สำหรับผู้ที่ชอบดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ ปาร์ตี้สังสรรค์กันบ่อยๆ จนเมาค้างกลับมาทุกวัน แตงกวาก็ช่วยแก้อาการเมาค้างได้อย่างดีเยี่ยม โดยการรับประทานแตงกวาสดๆ ก่อนเข้านอนหลังจากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มา เพียงเท่านี้ก็ไม่ตื่นมาพร้อมกับอาการปวดหัว หรือเมาค้างแล้ว

4.ช่วยลดอาการอักเสบ แตงกวามีคุณสมบัติในการช่วยลดอาการอักเสบได้ดี โดยให้นำแตงกวามาฝานเป็นแว่น จากนั้นนำแตงกวามาวางไว้บริเวณที่อักเสบ ทิ้งไว้สักพักจะช่วยลดอาการบวมจากการอักเสบได้ดี ด้วยฤทธิ์เย็นของแตงกวายังสามารถบรรเทาอาการปวดได้อีกด้วย ข้อควรระวัง ผู้ที่เป็นโรคเกาต์ไม่ควรรับประทานแตงกวาในปริมาณมาก เนื่องจากในแตงกวาจะมีกรดยูริค หากรับประทานในปริมาณมากเกินไปจะส่งผลให้กรดยูริคในเลือดสูงขึ้นซึ่งเป็นอันตรายต่อโรค แตงกวาเป็นผักที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสารตกค้าง เนื่องจากเป็นผักที่ศัตรูพืชสามารถกัดกินได้ง่าย ผู้ปลูกส่วนใหญ่จึงมักใช้ยากำจัดศัตรูพืชช่วย หากรับประทานแตงกวาติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจก่อให้เกิดการสะสมของสารตกเคมีค้างได้ ฉะนั้นก่อนนำแตงกวามารับประทานควรล้างน้ำให้สะอาดทุกครั้ง แตงกวาเป็นผักที่หารับประทานได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไปแถมยังมีราคาถูกอีกด้วย แต่คุณประโยชน์ที่ได้รับกลับมากมายเกินราคา ประโยชน์หลักๆ ของแตงกวา จะเห็นได้ว่า แตงกวาจะช่วยในเรื่องของการปรับสมดุลให้กับร่างกาย ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณให้ดูดีขึ้น หากมีอาการไอ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแตงกวาเนื่องจากมีฤทธิ์เย็นจะยิ่งทำให้อาการไอแย่ลง แตงกวาจึงเป็นผักที่ควรรับประทานเป็นอย่างมากและสามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบ แบบสุก หรือแปรรูป อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานแตงกวาในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรบริโภคมากจนเกินไป เพราะทุกอย่างล้วนมีทั้งคุณและโทษผสมกันไป