ฉบับร่าง:หลวงประชาภิบาล (นิแว)
นี่คือบทความฉบับร่างซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถแก้ไขได้ โปรดตรวจสอบว่าเนื้อหามีลักษณะเป็นสารานุกรมและมีความโดดเด่นควรแก่การรู้จักก่อนที่จะเผยแพร่เป็นบทความลงในวิกิพีเดีย กรุณาอดทนรอผู้เขียนคนอื่นมาช่วยตรวจให้ อย่าย้ายหน้าไปเป็นบทความเองโดยพลการ ค้นหาข้อมูล: Google (books · news · newspapers · scholar · free images · WP refs) · FENS · JSTOR · NYT · TWL สำคัญ: ถ้าลบป้ายนี้ออกจะทำให้บันทึกหน้าไม่ได้ ผู้แก้ไขหน้านี้คนล่าสุด คือ Sry85 (พูดคุย | เรื่องที่เขียน) เมื่อ 10 เดือนก่อน (ล้างแคช) |
หลวงประชาภิบาล (นิแว) (มลายู: Nik Wea) เป็นผู้ช่วยราชการเมืองยะหริ่ง ในสมัยพระยาพิบูลเสนานุกิจพิชิตเชษฐภักดี (นิเมาะ) เจ้าเมืองยะหริ่งผู้เป็นบิดา
หลวงประชาภิบาล (นิแว) | |
---|---|
เกิด | วังยะหริ่ง(นิเมาะ) |
สุสาน | ป่าหลวง ตำบลยามู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี |
สัญชาติ | มลายู |
ตำแหน่ง | ผู้ช่วยราชการเมืองยะหริ่ง กรรมการที่ปรึกษาเมืองยะหริ่ง |
บิดามารดา |
ประวัติ
แก้หลวงประชาภิบาล (นิแว) เป็นบุตรของพระยาพิบูลเสนานุกิจพิชิตเชษฐภักดี (นิเมาะ) เมื่อบิดาได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองยะหริ่งแล้ว จึงได้แต่งตั้งพระโยธานุประดิษฐ์ (นิโวะ) บุตรชายเป็น "รายามุดา" นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งบุตรชายเป็นผู้ช่วยราชการเมืองยะหริ่งและกรรมการที่ปรึกษาเมืองยะหริ่งดังนี้
1.พระสุนทรรายา (นิโซะ)
2.หลวงประชาภิบาล (นิแว)
3.หลวงบุรานุมัติการ (นิตีมุง)
4.ขุนอภิบาลบุรีรักษ์ (กูปัตตารอ)
5.ขุนสิริบำรุง (นิแม) และ
6.พระวิเศษวังศา (นิกูวง) บุตรพระยายะหริ่ง (นิตีมุง)
ในสมัยหลวงประชาภิบาล (นิแว) ปรากฏในพระราชหัตถเลขา เรื่องเสด็จประพาสแหลมมลายู คราว ร.ศ. ๑๐๘ ดังต่อไปนี้
" อนึ่งหลวงประชาภิบาล (นิแว) บุตรพระยาพิบูลเสนานุกิจพิชิตเชษฐภักดี (นิเมาะ) กับพระวิเศษวังศา (นิกูวง) บุตรพระยายะหริ่ง(นิตีมุง) กับราษฎรมาร้องฎีกากล่าวโทษพระยายะหริ่ง ว่ากระทำการคุมเหงตัว และราษฎรต่างๆ ฉันเห็นว่าควรจะยื่นเรื่องราวที่ผู้รักษาเมืองสงขลาก่อนจึงได้คืนเรื่องราวไป แต่ความเรื่องพระยายะหริ่งนี้ ว่ามีโจทก์มาร้องต่อพระยาวิเชียรคีรีชมถึง ๔๐ /๕๐ คน ร้องที่ พระยาสุนทราก็มีได้มีใบบอกเข้าไปที่กลาโหมสั่งให้หาตัวพระยายะหริ่งมาชำระ พระยายะหริ่งบิดพลิ้วเสียไม่มาเป็นช้านานจึงได้ได้ตัว ข้อความที่หานั้นหาว่าฆ่าคนไม่มีความผิดบ้าง เก็บริบทรัพย์สมบัติตามชอบใจบ้าง เดี๋ยวนี้ความก็ยังพิจารณาอยู่ แต่พระยายะหริ่ง บิดพลิ้วหลีกเลี่ยงไม่ใคร่ไปศาลจึงได้ช้าอยู่ ฉันก็ได้ตักเตือนพระยาสุนทราให้เร่งว่ากล่าวเสียให้เห็นผิดและชอบ ถ้ามีความผิดจริงก็ลงโทษได้ อย่าให้เป็นที่ติเตียนว่าหนัก หน่วงความไว้ด้วยการที่แกล้งให้เป็นที่หวาดของเมืองแขกทั้งปวง[1] (พระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, ๒๕๐๖: ๕๘ – ๕๙) "