คดีระหว่างบริษัท 303 ครีเอทีฟ จำกัดกับเอเลนิส

คดีระหว่างบริษัท 303 ครีเอทีฟ จำกัดกับเอเลนิส (อังกฤษ: 303 Creative LLC v. Elenis, รายการคดี 21–476[1]) เป็นคดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลสูงสุดสหรัฐ เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างสิทธิของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศในสถานที่สาธารณะและบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 1

คดีระหว่างบริษัท 303 ครีเอทีฟ จำกัดกับเอเลนิส
Seal of the United States Supreme Court
ถกเถียง 5 ธันวาคม, 2022
ชื่อเต็มคดีคดีระหว่างบริษัท 303 ครีเอทีฟ จำกัดและคณะกับออเบรย์ เอเลนิสและคณะ
รายการคดี21-476
อ้างอิง599 U.S. ___ (เพิ่มเติม)
การอ้างเหตุผลคำแถลงการณ์ด้วยวาจา
ประวัติคดี
ก่อนหน้าคดีระหว่างบริษัท 303 ครีเอทีฟ จำกัดกับเอเลนิส, 385 F. Supp. 3d 1147 (D. Colo. 2019), aff’d, 6 F.4th 1160 (10th Cir. 2021)
คำถามที่ถูกเสนอ
ไม่ว่าการใช้กฎหมายสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะในการบังคับศิลปินให้พูดหรือนิ่งเงียบก็ตาม ถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการพูดตามบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 1
คณะผู้พิพากษา
ประธานศาลสูงสุด
จอห์น รอเบิตส์
ตุลาการสมทบ
แคลเรนซ์ โธมัส · ซามูเอล อาลิโต
โซเนีย โซโตมายอร์ · เอเลน่า คากัน
นีล กอร์ซัช · เบรตต์ คาวานอห์
เอมี่ โคนีย์ บาร์เร็ตต์ · เคตันจิ บราวน์ แจ็คสัน
กฎหมายที่ใช้
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 1

ปูมหลัง แก้

ลอรี สมิธเป็นนักออกแบบเว็บไซต์ ดำเนินธุรกิจของเธอในชื่อบริษัท 303 ครีเอทีฟ จำกัด โดยจดทะเบียนในรัฐโคโลราโด สมิธได้พัฒนาเว็บไซต์ให้แก่ผู้อื่นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีความต้องการที่จะย้ายไปสร้างเว็บไซต์ประกาศงานแต่งงาน สมิธได้อ้างว่า การสร้างเว็บไซต์งานแต่งงานสำหรับคู่ที่ไม่ใช่เพศตรงข้ามจะขัดต่อความเชื่อในศาสนาคริสต์ของเธอ จึงมีความประสงค์ที่จะประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อแจ้งแก่ผู้ใช้ถึงความไม่ต้องการในการสร้างเว็บไซต์ที่ส่งเสริมการแต่งงานเพศเดียวกัน และแนะนำให้ลูกค้าที่เป็นเกย์ไปใช้บริการของนักออกแบบรายอื่นแทน[2]

ก่อนที่จะมีการประกาศ สมิธได้ค้นพบว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นการขัดต่อกฎหมายรัฐโคโลราโดแก้ไขปี ค.ศ. 2008 เกี่ยวกับการต่อต้านการเลือกปฏิบัติ นั่นเป็นการป้องกันไม่ให้ธุรกิจสาธารณะเลือกปฏิบัติต่อบุคคลที่เป็นเกย์ เช่นเดียวกับการแถลงการณ์ถึงผลกระทบดังกล่าว ในปี 2016 ทางพันธมิตรปกป้องอิสรภาพ (Alliance Defending Freedom) ในฐานะตัวแทนของสมิธ ได้ทำการฟ้องร้องรัฐโคโลราโดแก่ศาลแขวงสหรัฐในเขตโคโลราโด เพื่อพยายามสกัดกั้นการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ ทางศาลแขวงได้รอคำพิพากษาจากศาลสูงสุดในคดีระหว่าง Masterpiece Cakeshop กับคณะกรรมการสิทธิพลเมืองโคโลราโด ในปี 2018 ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการต่อต้านการเลือกปฏิบัติอันเดียวกัน ในขณะที่ Masterpiece ถูกตัดสินบนเหตุในทางวิธีสบัญญัติที่แคบ โดยพบว่าหน่วยงานของรัฐโคโลราโดที่ตัดสินไม่เห็นด้วยแก่ฟิลลิปส์ (เจ้าของร้านเค้ก) นั้นมีเจตนาเป็นปรปักษ์ต่อความเชื่อทางศาสนาของเขา ส่วนกรณีของสมิธ ศาลแขวงพิพากษาไม่เห็นด้วยในปี 2019 ซึ่ง ณ ขณะนั้น โคโลราโดไม่ได้มีการสอบสวนสมิธ รวมทั้งไม่มีหลักฐานว่าเธอมีส่วนร่วมในการเลือกปฏิบัติอีกด้วย[3][4][5]

สมิธได้ยื่นอุทธรณ์แก่ศาลอุทธรณ์สหรัฐเขตที่สิบ ท้ายสุด ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลแขวงด้วยคำตัดสิน 2 ต่อ 1 ในการถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ ศาลอุทธรณ์สหรัฐเขตที่สิบถือว่ากฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติสอดคล้องตามมาตรฐานขั้นสูงสุด (Strict scrutiny) ภายใต้บทการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 1[6] หัวหน้าผู้พิพากษา ทิโมธี ทิมโควิช ไม่เห็นด้วยในคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ เขียนไว้ว่า "คนส่วนใหญ่ใช้ท่าทีที่น่าทึ่งและแปลกใหม่ที่รัฐบาลอาจบังคับให้คุณสมิธ เขียนข้อความที่ละเมิดมโนธรรมของเธอ"[4]

ศาลสูงสุดสหรัฐ แก้

สมิธยื่นคำร้องเพื่อขอหมายเรียกสำนวนของศาลสูง ซึ่งศาลสูงสุดสหรัฐก็ได้รับคำร้องนั้นไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ในขณะที่คำร้องขอว่าควรจะตีกลับคดีระหว่างฝ่ายการจ้างงานกับสมิธหรือไม่นั้น ศาลสูงสุดได้จำกัดคดีไว้เหลือเพียงแค่ "กฎหมายของรัฐโคโลราโดได้ละเมิดข้อกำหนดในเสรีภาพในการพูดแห่งบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 1 หรือไม่" เท่านั้น[6] ต่างจากในกรณี Masterpiece ก่อนหน้าที่ศาลมีผู้พิพากษาส่วนมากเป็นพวกหัวอนุรักษ์นิยมเพียง 5 ต่อ 4 คน ในคราวนี้มีมากถึง 6 ต่อ 3 หลังจากการเกษียณของ แอนโทนี เคนเนดี และการเสียชีวิตของ รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก โดยถูกแทนที่ด้วยผู้พิพากษา เบรตต์ คาวานอห์ และ เอมี่ โคนี่ บาร์เร็ตต์ ตามลำดับ ศาลใหม่นี้ถูกมองว่ามักเอื้อประโยชน์ต่อสิทธิทางศาสนาจากคดีสำคัญหลายคดีที่ถูกตัดสินไปแล้วในวาระก่อนหน้า[4]

สำนวนราว 75 สำนวนได้ถูกยื่นก่อนการให้การทางวาจา ในบรรดาผู้สนับสนุนสมิธ ได้แก่ 20 รัฐอนุรักษนิยม อาจารย์นิติศาสตร์ องค์กรทางศาสนาหลายแห่ง และสถาบันคลังสมองเสรีนิยม เช่น มูลนิธิชาวอเมริกันเพื่อความเจริญรุ่งเรือง (Americans for Prosperity Foundation) และสถาบันคาโต ส่วนทางผู้สนับสนุนรัฐโคโลราโด อาทิ รัฐเสรีนิยมอีก 20 รัฐ, ฝ่ายบริหารของไบเดิน, อาจารย์นิติศาสตร์หลายคน และกลุ่มเสรีนิยม เช่น Public Citizen, สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน และกองทุนการต่อสู้คดี NAACP[4][7][8]

การให้การทางวาจาถูกจัดขึ้นในวันที่ 5 ธันวาคม 2022 ผู้สังเกตการณ์ในศาลเชื่อว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมส่วนใหญ่จะเห็นชอบในเรื่องที่สมิธไม่สมควรถูกบังคับให้เขียนคำปราศรัยที่ขัดต่อความเชื่อของเธอ แต่ก็มีความกังวลว่าศาลจะขีดเส้นแบ่งไว้ตรงไหนเพื่อที่กฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติอื่น ๆ จะไม่ได้รับผลกระทบจากคำตัดสินไปด้วย[9]

อ้างอิง แก้

  1. 21-476 303 CREATIVE LLC V. ELENIS
  2. Liptak, Adam (February 22, 2022). "Supreme Court to Hear Case of Web Designer Who Objects to Same-Sex Marriage". The New York Times. สืบค้นเมื่อ February 22, 2022.
  3. Hurley, Lawrence (February 22, 2022). "U.S. Supreme Court takes up clash between religion and LGBT rights". Reuters. สืบค้นเมื่อ February 22, 2022.
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 Liptak, Adam (December 4, 2022). "A New Clash Between Faith and Gay Rights Arrives at a Changed Supreme Court". The New York Times. สืบค้นเมื่อ December 5, 2022.
  5. "Colorado web designer's First Amendment challenge will test the scope of state anti-discrimination laws". SCOTUSblog (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2022-12-02. สืบค้นเมื่อ 2022-12-05.
  6. 6.0 6.1 Howe, Amy (February 22, 2022). "Justices will hear free-speech claim from website designer who opposes same-sex marriage". SCOTUSblog. สืบค้นเมื่อ February 22, 2022.
  7. Gresko, Jessica (December 2, 2022). "Both sides see high stakes in gay rights Supreme Court case". Associated Press. สืบค้นเมื่อ December 2, 2022.
  8. "303 Creative LLC v. Elenis". SCOTUSblog (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2022-12-05.
  9. Chung, Andrew; Raymond, Nate (November 5, 2022). "U.S. Supreme Court leans toward web designer with anti-gay marriage stance". Reuters. สืบค้นเมื่อ November 5, 2022.