คดีระหว่างนิการากัวกับสหรัฐ

คดีระหว่างสาธารณรัฐนิการากัวกับสหรัฐอเมริกา (ค.ศ. 1986) เป็นคดีซึ่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศวินิจฉัยว่าสหรัฐละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยการสนับสนุนคอนทราสในการกบฏต่อพรรคแซนดินิสตาและการวางทุ่นระเบิดท่าของนิการากัว

คดีว่าด้วยกิจกรรมทางทหารและกึ่งทหารในและต่อประเทศนิการากัว (คดีระหว่างนิการากัวกับสหรัฐอเมริกา)
Case Concerning the Military and Paramilitary Activities in and Against Nicaragua (Nicaragua v. United States of America)[1]
สาระแห่งคดี
คำฟ้อง ขอให้มีกระบวนพิจารณาต่อสหรัฐอเมริกา ร่วมกับขอสิ่งชี้บอกมาตรการชั่วคราวว่าด้วยการพิพาทที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบสำหรับกิจกรรมทางทหารและกึ่งทหารในและต่อนิการากัว
คู่ความ
โจทก์ นิการากัว
ผู้ร้องสอด เอลซัลวาดอร์
จำเลย สหรัฐ
ศาล
ศาล ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
ตุลาการ Nagendra Singh, Guy Ledreit de Lacharrière, Roberto Ago, Mohammed Bedjaoui, Taslim Olawale Elias, Manfred Lachs, Kéba Mbaye, Ni Zhengyu, Shigeru Oda, José María Ruda, Stephen Schwebel, José Sette-Camara, Robert Jennings, Claude-Albert Colliard (ad hoc)
พิพากษา
" ศาลมีอำนาจพิจารณาคดี และคำขอของนิการากัวรับไว้พิจารณาได้ "
เรื่อง เขตอำนาจของศาล
ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1984
กฎหมาย ปฏิญญาสหรัฐ ค.ศ. 1946
สั่ง
" ให้สหรัฐระงับและละเว้นการกระทำใด ๆ ที่จำกัดการเข้าถึงท่าของนิการากัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางทุ่นระเบิด "
ลงวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1986
วินิจฉัย
" สหรัฐมีหน้าที่ต้องระงับและละเว้นจากการกระทำทั้งหมดซึ่งประกอบเป็นการละเมิดข้อผูกมัดตามกฎหมายโดยทันที และต้องจ่ายค่าปฏิกรรมแก่ผู้บาดเจ็บที่เกิดแก่นิการากัว ปริมาณค่าปฏิกรรมจะกำหนดในกระบวนพิจารณาความในภายหลังหากคู่ความตกลงกันไม่ได้ "
ลงวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1986
กฎหมาย
  • กฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ
  • สนธิสัญญาไมตรี พาณิชย์และการเดินเรือทวิภาคี ค.ศ. 1956
เว็บไซต์
Military and Paramilitary Activities in and against Nicaragua (Nicaragua v. United States of America)
หมายเหตุ
ศาลจึงสั่งกำหนดจำกัดเวลาสำหรับยื่นคำให้การลายลักษณ์โดยคู่ความในประเด็นเรื่องรูปและปริมาณค่าปฏิกรรม
  • ยื่นคำฟ้องของนิการากัวในวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 1988
  • นิการากัวขอยุติกระบวนพิจารณาความในเดือนกันยายน ค.ศ. 1991
  • จำหน่ายคดีในวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 1991

ศาลฯ มีคำวินิจฉัยขั้นสุดท้าย 15 คำวินิจฉัยที่มีการลงมติ ในถ้อยแถลง 9 ศาลฯ ระบุว่าแม้สหรัฐสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยคอนทราสในคู่มือชื่อ ปฏิบัติการจิตวิทยาในการสงครามกองโจร แต่การกระทำดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเกิดจากน้ำมือของสหรัฐ[2]

ศาลฯ วินิจฉัยให้นิการากัวชนะคดี และให้สหรัฐจ่ายค่าปฏิกรรมแก่นิการากัว ศาลฯ ระบุในคำตัดสินว่า "ละเมิดข้อผูกมัดภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศประเพณีซึ่งห้ามใช้กำลังต่อรัฐอื่น", "ห้ามแทรกแซงกิจการของมัน [รัฐอื่น]", "ไม่ละเมิดอำนาจอธิปไตยของมัน [รัฐอื่น]", "ไม่ขัดขวางการพาณิชย์ทางทะเลอย่างสันติ" และ "ละเมิดข้อผูกมัดของตนภายใต้ข้อ 19 แห่งสนธิสัญญาไมตรี พาณิชย์และการเดินเรือระหว่างภาคีทั้งสองซึ่งลงนามที่กรุงมานากัว เมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1956"

สหรัฐปฏิเสธเข้าร่วมกระบวนพิจารณาความหลังศาลฯ ปฏิเสธการให้เหตุผลว่า ศาลฯ ไม่มีอำนาจไต่สวนคดี สหรัฐยังขัดขวางการบังคับคำพิพากษาโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ฉะนั้นนิการากัวจึงไม่ได้เงินชดเชยใด ๆ[3]

อ้างอิง แก้

  1. Official name: Military and Paramilitary Activities in and against Nicaragua (Nicaragua v. United States of America), Jurisdiction and Admissibility, 1984 ICJ REP. 392 June 27, 1986.
  2. "Military and Paramilitary Activities in and against Nicaragua (Nicaragua v. United States of America) Merits, Judgment, I.C.J. Reports 1986, p. 14". International Court of Justice. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-07-17. สืบค้นเมื่อ 2006-09-05.
    "Summary of the Judgment of 27 June 1986". International Court of Justice. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-22. สืบค้นเมื่อ 2006-09-05.
  3. Morrison, Fred L. (January 1987). "Legal Issues in The Nicaragua Opinion". American Journal of International Law. 81 (1): 160–166. doi:10.2307/2202146. JSTOR 2202146. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-05. "Appraisals of the ICJ's Decision. Nicaragua vs United State (Merits)"