สเตฟาน ฟ็อกซ์
สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) (เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2506 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี) เป็นแชมป์โลกมวยไทย ปีพ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) และบุคคลสำคัญในวงการกีฬา เขาดำรงตำแหน่งเป็น ประธานพันธมิตรสมาชิกอิสระองค์กรกีฬาโลก (Alliance of Independent Recognised Members of Sport (AIMS)), รองประธานสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (Global Association of International Sports Federations (GAISF)), เลขาธิการสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (International Federation of Muaythai Associations (IFMA)) และประธานองค์กรยูไนเต็ดธรูสปอร์ต (United Through Sports (UTS)[1][2]
สเตฟาน ฟ็อกซ์ | |
---|---|
เลขาธิการสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2538 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 14 กันยายน พ.ศ. 2506 เบอร์ลิน เยอรมนี |
ประวัติและอาชีพด้านกีฬา
แก้สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2506 ที่กรุงเบอร์ลิน ในวัยเด็ก เขา เริ่มฝึกฝนกีฬายูโด จากนั้นก็เปลี่ยนไปฝึกคาราเต้ มวยปล้ำ มวยสากล และยุนชุน (ศิลปะการต่อสู้ของจีน) เมื่อ เขาอายุครบ 18 ปี เขาเริ่มฝึกฝนมวยไทย สเตฟาน ฟ็อกซ์ ได้เข้าร่วมการแข่งขันและชนะเลิศในการแข่งขันชิง แชมป์แปซิฟิกใต้ แชมป์อินเตอร์คอนติเนนตัล และแชมป์โลก[3]
เขาได้รับรางวัลศิลปะการต่อสู้แห่ง ประเทศออสเตรเลีย และได้รับรางวัลในลักษณะเดียวกันในประเทศไทย
นอกจากนี้ เขายังได้รับรางวัลบุคคลกีฬายอดเยี่ยมแห่งรัฐควีนส์แลนด์ตอนเหนือ (North QLD Sports Personality Award) และได้เป็นตัวแทนแข่งขันให้กับทั้งประเทศเยอรมนีและออสเตรเลียในช่วงอาชีพนักกีฬา
อาชีพผู้บริหารด้านกีฬา
แก้ในปี พ.ศ. 2538 หลังจากเลิกแข่งขัน รัฐบาลไทยได้เชิญเขามาจัดการแข่งขันมวย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการมีส่วนร่วมในมวยไทยอย่างเป็นมืออาชีพ สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ยังได้ฝึกฝนวิชายูโด คาราเต้ และกังฟู แต่สุดท้ายเขาให้ความสำคัญกับมวยไทยเป็นหลัก
ในปี พ.ศ. 2538 พล.ต. วรายุทธ มีสมมนต์ได้เชิญเขาเข้าร่วมสภามวยไทยโลก (World Muaythai Council (WMC) และสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (International Federation of Muaythai Associations (IFMA) เพื่อช่วยเหลือในด้านกิจการระหว่างประเทศ
ในฐานะผู้นำกลุ่มศิลปะการต่อสู้ของสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (SportAccord) สเตฟาน ฟ็อกซ์ดูแลกีฬาต่อสู้ทั้งที่เป็นกีฬาโอลิมปิกและไม่ใช่กีฬาโอลิมปิกจำนวน 15 ประเภท เขาเป็นวิทยากรรับเชิญในงานการแข่งขันกีฬาการต่อสู้โลก(World Combat Games)ที่กรุงปักกิ่ง (World Combat Games2010) ในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครั้งแรกของสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ และในหลายเวทีการประชุมฟอรั่มสหพันธ์นานาชาติประจำปี(Annual International Federation (IF) ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือกับสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติโอลิมปิกฤดูร้อน (Association of Summer Olympic International Federations(ASOIF) และสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติโอลิมปิกฤดูหนาว (Association of International Olympic Winter Sports Federations (AIOWF)
ในปี พ.ศ. 2556 สเตฟาน ฟ็อกซ์มีบทบาทสำคัญในการเตรียมการและจัดงานการแข่งขันกีฬาการต่อสู้โลก (World Combat Games) ภายใต้การดูแลของสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (SportAccord)
เขาได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลกีฬาบนเวทีทั้งหมดในการแข่งขันปี พ.ศ. 2556 ที่จัดขึ้นในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) เป็นบุคคลสำคัญในการจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกมากกว่า 10 ครั้ง ซึ่งจัดขึ้นในประเทศต่าง ๆ เช่น ประเทศไทย ประเทศเกาหลีใต้ประเทศอุซเบกิสถาน ประเทศคาซัคสถาน ประเทศรัสเซีย และประเทศมาเลเซีย เขามักจะส่งเสริมมวยไทยโดยการจัดสัมมนาและเวิร์กชอปอย่างเป็นทางการอยู่บ่อยครั้ง
ในปี พ.ศ. 2558 เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานของพันธมิตรสมาชิกอิสระองค์กรกีฬาโลก(Alliance of Independent Recognised Members of Sport (AIMS) ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของสหพันธ์กีฬาที่ได้รับการยอมรับจากสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (Global Association of International Sports Federations (GAISF) แต่ยังไม่ได้รับสถานะจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee (IOC) ภายใต้การนำของเขา พันธมิตรสมาชิกอิสระองค์กรกีฬาโลก (AIMS) ได้รับการยอมรับชั่วคราวจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee (IOC) ในปี พ.ศ. 2559 และได้รับการยอมรับอย่างเต็มรูปแบบในเดือนมกราคม พ.ศ. 2563
ในปี พ.ศ. 2559 สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานที่จัดขึ้นโดย UN-Habitat และ Nexus Brazil ที่นครริโอเดจาเนโร ในหัวข้อ “เยาวชนและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ในสุนทรพจน์เขาได้เน้นย้ำถึงความรับผิดชอบของสหพันธ์กีฬาที่จะใช้พลังของกีฬาในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีในสังคม
ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เมืองคาซานได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมวยไทยเวิลด์คัพ (The Muaythai World Cup) โดยมีนักกีฬาชั้นนำจากทั่วโลกจำนวน 300 คนเข้าร่วมแข่งขัน สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันพร้อมกับบุคคลสำคัญ และได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของงานนี้ในการคัดเลือกนักกีฬาเข้าสู่สมาพันธ์เวิลด์เกมส์นานาชาติ (International World Games Association (IWGA)
ในปี พ.ศ. 2561 สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้เข้าร่วมฟอรั่มนานาชาติ “รัสเซีย – มหาอำนาจกีฬา” (Russia – a Sports Power) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองนิจนีนอฟโกรอด ในงานนี้เขาได้พบกับประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) และได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับการพัฒนากีฬาและการบูรณาการนานาชาติของมวยไทย
ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้พบกับตัวแทนของสหภาพศิลปะการต่อสู้รัสเซีย (The Russian Union of Martial Arts (RUMA) เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการร่วมระหว่างประเทศ รวมถึงการมีส่วนร่วมของนักมวยไทยในการแข่งขันเทศกาลศิลปะการต่อสู้โลกที่เมืองอุลยานอฟสค์ ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกันยายน พ.ศ. 2562
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้เรียกร้องต่อคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติของอิหร่านให้จัดตั้งสหพันธ์มวยไทยอิสระ[4]
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2563 สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox)ได้จัดประชุมทำงานร่วมกับรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย พิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่เมืองโลซานประเทศสวิตเซอร์ แลนด์[5]
ในปี พ.ศ. 2563 สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้ช่วยจัดงานเทศกาลเยาวชนยูไนเต็ดธรูสปอร์ต (United Through Sports (UTS) ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีเอกลักษณ์ในช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 Pandemic)
ในปี พ.ศ. 2566 เขาได้ช่วยจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกเยาวชนที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจาก 112 ประเทศ ผู้ชนะในการแข่งขันนี้ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานการแข่งขันกีฬาการต่อสู้โลก (World Combat Games2023)
สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้สอนและบรรยายในมากกว่า 80 ประเทศเกี่ยวกับประโยชน์ทางร่างกายและจิตใจของการออกกำลังกาย รวมถึงบทบาทของกีฬาในการเป็นเครื่องมือเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสันติภาพ
ในฐานะเลขาธิการทั่วไปของสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (International Federation of Muaythai Association (IFMA) และรองประธานของสภามวยไทยโลก (World Muaythai Council (WMC) สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้มีบทบาทสำคัญในการทำให้มวยไทยเป็นที่รู้จักในระดับสากล ซึ่งได้รับการยอมรับจากสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (SportAccord), สมาพันธ์เวิลด์เกมส์นานาชาติ (International World Games Association (IWGA), สหพันธ์กีฬามหาวิทยาลัยนานาชาติ (International University Sports Federation (FISU) และการเข้าร่วมในหลายกิจกรรมกีฬาหลายประเภททั้งที่เป็นกีฬาโอลิมปิกและไม่ใช่กีฬาโอลิมปิก
ความสำเร็จที่สำคัญ
แก้- การได้รับการรับรองจากพันธมิตรสมาชิกอิสระองค์กรกีฬาโลก (Alliance of Independent Recognised Members of Sport (AIMS) โดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล(International Olympic Committee (IOC): ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ได้ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้การรับรองสมาชิกอิสระองค์กรกีฬาโลก (AIMS) อย่างเต็มรูปแบบ ยืนยันถึงมาตรฐานการบริหารจัดการที่สูงขององค์กร ความยุติธรรมในการแข่งขัน และการคุ้มครองนักกีฬา
- การรวมกันระหว่างสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (International Federation of Muaythai Association (IFMA) กับสภามวยไทยโลก(World Muaythai Council (WMC):ในปี พ.ศ. 2562สหพันธ์มวยไทยนานาชาติ(IFMA) ได้รวมเข้ากับสภามวยไทยโลก (WMC) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการบูรณาการระหว่างมวยไทยสมัครเล่นและมวยไทยอาชีพ และส่งเสริมการพัฒนาของกีฬา[6]
- การจัดงานเทศกาลเยาวชนเสมือนจริงยูไนเต็ดธรูสปอร์ตประจำปี พ.ศ. 2563(United Through Sports Virtual Youth Festival 2020):ในช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 Pandemic) สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้เป็นผู้นำในการจัดงานเทศกาลเยาวชนเสมือนจริงที่รวมกีฬาทั้งกีฬาโอลิมปิกและกีฬาไม่ใช่โอลิมปิก ภายใต้การสนับสนุนของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) คณะกรรมการพาราลิมปิกสากล(IPC)สเปเชียลโอลิมปิก(Special Olympics)สมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (SportAccord), และสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (GAISF) งานนี้สร้างประวัติศาสตร์โดยการนำเด็กและเยาวชนจากค่ายผู้ลี้ภัยและกลุ่มเปราะบางอื่นๆ มารวมกันบนแพลตฟอร์มออนไลน์
- ยูไนเต็ดธรูสปอร์ต (United Through Sports (UTS) ภายใต้การนำของสเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการรวมกลุ่ม ความเป็นหนึ่งเดียว และการสนับสนุนเยาวชนที่มีภูมิหลังอันหลาก
- สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) เป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นของขบวนการโอลิมปิก โดยทำงานเพื่อบูรณาการมวยไทยเข้ากับโปรแกรมกีฬาโอลิมปิกและสนับสนุนการพัฒนากีฬานี้ในระดับโลก
- มวยไทยจะได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการโอลิมปิกและพาราลิมปิก ในประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม ปีพ.ศ.2566
- มวยไทยได้รับการรับรองจากองค์กรต่างๆ เช่น สมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (SportAccord)สมาพันธ์เวิลด์เกมส์นานาชาติ (IWGA) และสหพันธ์กีฬามหาวิทยาลัยนานาชาติ (FISU) กีฬาได้รับการบรรจุเข้าร่วมในหลายการแข่งขันกีฬาหลายประเภททั้งในระดับโอลิมปิกและไม่ใช่โอลิมปิก ซึ่งช่วยเพิ่มสถานะระดับนานาชาติของกีฬาอย่างมีนัยสำคัญ
งานโทรทัศน์
แก้ในปีพ.ศ. 2551สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้เป็นโปรดิวเซอร์และพิธีกรของรายการเรียลลิตี้โชว์เดอะคอนเทนเดอร์ (The Contender)ซึ่งออกอากาศในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 50 ประเทศเดอะคอนเทนเดอร์ (The Contender) ถือเป็นหนึ่งในรายการเรียลลิตี้โชว์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยมีงบประมาณมากกว่า 7,000,000 ดอลลาร์สหรัฐสเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) เชื่อว่าเดอะคอนเทนเดอร์ (The Contender) ช่วยเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับมวยไทย โดยนำเสนอให้เห็นว่าเป็นกีฬาที่ซับซ้อนและมีความสำคัญทางวัฒนธรรม
งานการกุศล
แก้สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้มีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาเยาวชนผ่านโครงการมวยไทยต้านภัยยาเสพติด (Muaythai Against Drugs (MAD) ซึ่งก่อตั้งโดยพล.อ. พิจิตร กุลละวณิชย์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งประเทศไทย สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) ได้ช่วยก่อตั้งแคมเปญกีฬาคือแก๊งของคุณ (Sport is Your Gang) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เปลี่ยนแปลง และเพิ่มการรับรู้ในหมู่เยาวชนเกี่ยวกับอันตรายของการเป็นสมาชิกแก๊ง และแคมเปญทำดีรู้สึกดี(Do Good, Feel Good)ที่นำนักกีฬามวยไทยชั้นนำนะดับโลกมาร่วมงานการกุศลและทำงานกับเยาวชนที่มีความเสี่ยง เพื่อช่วยพวกเขาหาแนวทางที่ดีในชีวิตโดยได้รับการสนับสนุนของหน่วยงานสันติภาพและกีฬา(Peace and Sport)และคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC)
ในปีพ.ศ.2557ที่การประชุมสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (SportAccord) ในเมืองเบเลค ประเทศตุรกี แคมเปญกีฬาคือแก๊งของคุณ(Sport is Your Gang) ได้รับรางวัลจิตวิญญาณแห่งกีฬา (Spirit of Sport Award) ซึ่งเป็นรางวัลที่มีเกียรติสูงสุดสำหรับการใช้พลังของกีฬาเพื่อสร้างความแตกต่าง
สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มความร่วมมือระหว่างองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ(UN Women) กับองค์กรมวยไทยเพื่อทำแคมเปญ “ร่วมกันยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง” (Unite to End Violence Against Women)[7]
ชีวิตส่วนตัว
แก้สเตฟาน ฟ็อกซ์ (Stephan Fox) อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทยซึ่งเขาทำงานอยู่ ส่วนครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย
รางวัลและตำแหน่ง
แก้- ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ด้านศิลปะการต่อสู้จากมหาวิทยาลัยยงอิน (ประเทศเกาหลีใต้)[8]
- รางวัลบุคลิกภาพกีฬาแห่งนอร์ทควีนส์แลนด์สำหรับบุคลิกภาพด้านกีฬาของนอร์ทควีนส์แลนด์
- รางวัลจิตวิญญาณแห่งกีฬา (2014) ที่การประชุมสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (SportAccord) ในเมืองเบเลค (ประเทศตุรกี)[9]
- การเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอมมี่ในฐานะพิธีกรของรายการเรียลลิตี้โชว์เดอะคอนเทนเดอร์ (The Contender)
- ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ด้านศิลปะการต่อสู้จากมหาวิทยาลัยยงอิน (สาธารณรัฐเกาหลี) ในปีพ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019)[10]
อ้างอิง
แก้- ↑ "IFMA General Secretary Stephan Fox Elected as President of AIMS". muaythai.sport. 2015-04-23. สืบค้นเมื่อ 2024-10-07.
- ↑ "Stephan Fox Re-elected as AIMS President". aims.sport. 2021-11-10. สืบค้นเมื่อ 2024-10-07.
- ↑ "Muay Thai goes Deutsche". bangkokpost.com. 2012-09-06. สืบค้นเมื่อ 2024-10-07.
- ↑ "IFMA president urges Iran to establish an independent federation for Muaythai". en.mehrnews.com. 2019-08-06. สืบค้นเมื่อ 2024-10-07.
- ↑ "Генеральный секретарь IFMA Стефан Фокс провел рабочую встречу с Министром спорта Таиланда в Лозанне". Российский союз боевых искусств. 2020-01-25. สืบค้นเมื่อ 2024-10-07.
- ↑ "Oбъединение IFMA с организацией WMC (профессиональный Муай Тай)". ftb35.ru. 2019-07-26. สืบค้นเมื่อ 2024-10-07.
- ↑ "Для Федерации каждый день - оранжевый день: вопросы и ответы со Стефаном Фоксом". unwomen.org. 2016-07-27. สืบค้นเมื่อ 2024-10-07.
- ↑ "The Highest Honour Given to IFMA General Secretary AIMS President". muaythai.sport. สืบค้นเมื่อ 2024-10-07.
- ↑ "Stephan Fox". alchetron.com. 2023-12-10. สืบค้นเมื่อ 2024-10-07.
- ↑ "The Highest Honour Given to AIMS President". aims.sport. 2019-10-16. สืบค้นเมื่อ 2024-10-07.