สัตว์หาง (尾獣, Bijū) ปีศาจที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ตำนานของญี่ปุ่นมาเป็นต้นแบบ ซึ่งในเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ มีความแตกต่างจากตำนานดั้งเดิมเกี่ยวกับสัตว์หางอยู่มาก

ต้น แก้

ในเรื่องนารูโตะมีสัตว์หางทั้งหมดอยู่ 9 ตัว แต่จุดกำเนิดคือ

ต้นไม้ปีศาจที่พระเจ้า(ตระกูลโอสึสึกิ) ส่งเมล็ดไปทั่วจักรวาล ดวงละ 1 เม็ด พอเมล็ดตกสู่ดาวดวงนั้นจะดูดซับความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่รอบๆ จนดาวทั้งดวงเหือดแห้ง ออกผลไม้จักระ ที่ออกมา 1 พันปี ต่อผล ตระกูลโอสึสึกิ นำผลมาทำยายืดอายุกับเพิ่มพลัง กับจับสิ่งมีชีวิตบนดาวมาสร้างทัพเซ็ตสึสีขาวไปรุกรานดาวดวงอื่นต่อ พอเมล็ดโตเต็มที่ คือต้นไม้เทพเจ้า แต่ถ้าผลถูกใครกิน ต้นไม้จะคลั่งเป็นสัตว์ประหลาดคือ 10 หาง

แต่ในโลกของนารูโตะ พอออกผลมา ถ้าใครไม่ไปยุ่งก็ไม่เกิดอะไร แต่โอสึสึกิ คางูยะที่เป็นแม่ทัพฝ่ายนึงที่ชนะสงคราม ชิงผลไม้มากิน กลายเป็นตัวตนที่มีจักระกับขีดจำกัดสายเลือดคนแรกจนมีพลังมหาศาล หลอมเป็นส่วนหนึ่งกับต้นไม้เทพเจ้า(สิบหาง) ให้กำเนิดลูกแฝด 2 คน คือโอสึสึกิ ฮาโกโรโมะ กับ ฮามูระ พอลูกชายทั้ง 2 รู้ว่าแม่ลุ่มหลงในพลัง จับคนจำนวนมากสร้างทัพ ทั้งคู่จึงทรพีสู้ผนึกแม่ เพื่อปกป้องมวลมนุษย์สำเร็จ คนพี่คือเซียน 6 วิถี นำ 10 หาง ใส่ร่างเป็นพลังสถิตร่าง เกรงว่าหากตนตายผลึกคลาย 10 หางจะเป็นภัยต่อโลกอีก จึงดึงจักระแบ่งออกเป็น 9 ส่วน ทุกส่วน ถูกสร้างรูปลักษณ์กับชื่อแตกต่างกันไป จึงมีความนึกคิดแยกออกจากกัน คือ สัตว์หางทั้ง 9 เซียน 6 วิถีที่อ่อนแรง ได้บอกกับเหล่าสัตว์หางว่าต้องอยู่รวมกันเหมือนพี่น้องหรือถ้าเกิดแยกกันจะต้องใช้พลังร่วมกันในทางสันติเท่านั้น ตามคำทำนายที่ว่า วันหนึ่งสัตว์หางทั้ง 9 จะพบกับเด็กคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้กอบกู้โลกนินจา ส่วนร่างหลักของ 10 หางนั้น หลังถูกแยกจักระเป็นสัตว์หางกลายเป็นเทวรูปมารนอกรีต ถูกหินจำนวนมากมากลบฝังพร้อมกับส่งให้ลอยขึ้นฟ้ากลายเป็นดวงจันทร์ พร้อมกับฝากฝังให้ฮามูระ คนน้องคอยดูแลผนึกไป พี่น้องจึงบอกลากัน เซียน 6 วิถีได้สร้างครอบครัวมีลูก กับลัทธินินชู ทำการแบ่งจักระของตนให้ลูกๆ แต่พวกนินจาเข้าใจผิดว่าเป็นวิถีนินจา

สัตว์หางมีพลังมากไป กระจัดกระจายไปสร้างตำนานไปทั่วโลกหลายยุคสมัย นินจาได้คิดค้นวิธีควบคุมมากมาย สุดท้ายคือการสะกด แต่ทางที่ได้ผลที่สุดคือ ผนึกในตัวนินจาเอง คือสร้างพลังสถิตร่าง แต่เมื่อพลังสถิตร่างกับสัตว์หางถูกแยกออกจากกัน พลังสถิตร่างก็จะตายทันที หรือเมื่อพลังสถิตร่างตาย ผนึกคลาย สัตว์หางหลุดออกมาจากผนึก แต่ยากว่าตอนพลังสถิตร่างมีชีวิต

เซนจู ฮาชิรามะ หรือโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ได้จับสัตว์หางทั้งหมดมา แล้วแบ่งให้ 3 แคว้นนินจายักษ์ใหญ่ในการประชุม 5 คาเงะครั้งแรก ยกเว้นหมู่บ้านซึนะ เพราะมี 1 หางชูคาคุอยู่แล้ว เพื่อสมดุล

เมื่อนำสัตว์หางทั้ง 9 จับใส่เทวรูปมารนอกรีตจะทำให้เทวรูปกลายเป็น 10 หางได้ ความจริงใช้แค่เศษเสี้ยวของทุกตัวก็ได้ แต่จะเสียเวลา

สัตว์หางทุกตัว มวลสารร่างเป็นกลุ่มก้อนจักระที่มีชีวิต ที่มีอารมณ์นึกคิดเหมือนมนุษย์ ถึงบาดเจ็บก็ฟื้นตัว หลังจบสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 สัตว์หาง 7 ตัว ก็กระจัดกระจายกันไปในที่ลับแลไม่มีใครรู้อีกครั้ง เพื่อไม่ให้ใครใช้ในทางที่ผิด มีเพียงกิวคิกับคุรามะเท่านั้นที่คิดกลับไปสิงในร่างสถิตคือคิลเลอร์บีกับนารูโตะอีกครั้ง แม้เหล่าสัตว์หางจะอยู่ห่างกัน สื่อสารผ่านจิตโดยใช้นารูโตะเป็นสื่อกลาง

ศาสตร์การรวบรวมวิญญาณสัตว์หางทั้งหมด แก้

โดยตอนที่กลุ่มแสงอุษาได้เริ่มรวมตัวเพื่อรวบรวมสัตว์หางลงใน ไรบิ เทพเจ้าสูงสุดผู้มีดวงตาดุจพลังเทพทั้งหมด 9 ดวงตาโดยการดึงสัตว์หางออกจากสถิตร่าง ทำให้สถิตร่างถูกดึงวิญญาณและพลังชีวิตออกไป ต้องสูญเสียชีวิตในที่สุด โดยปัจจุบันสัตว์หางทั้ง 7 ตัวได้ถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ ( 8 และ 9 หาง ยังคงเป็นสถิตร่าง)

รายนามสัตว์หาง แก้

อิจิบิ โนะ ชูคาคุ
(一尾の守鶴, Ichibi No Shukaku)
[ชื่อเล่น : ชูคาคุ]

1 หาง แก้

ภาพวาดผู้สถิตร่าง
ภาพวาดผู้สถิตร่าง
ร่างสถิต บุนพุคุ ร่างสถิตคนแรกของชูคาคุ เป็นพระรูปหนึ่งของซึนะงาคุเระ ถูกบังคับให้เป็นสถิตร่างตั้งแต่เกิด มีคำว่า 薆(แปลว่า หัวใจ) อยู่ที่มือข้างซ้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจารย์ของเขาได้สอนไว้ เขาเชื่อว่าจะต้องมีวันหนึ่งที่มีคนพร้อมที่จะยอมรับและเข้าใจชูคาคุ โดยไม่แบ่งแยกสัตว์หาง

ร่างสถิตคนที่ 2 ไม่มีการบอกในเนื้อเรื่อง มีแต่การกล่าวถึงของย่าจิโยะเท่านั้น

กาอาระแห่งหมู่บ้านซึนะงาคุเระ ถูกแสงอุษาใช้วิชาผนึก ผนึกเก้าวิถีมังกรมายาแล้ว แต่ยังไม่เสียชีวิต เพราะได้ย่าจิโยะใช้วิชาย้ายชีวิตช่วยชีวิตของกาอาระไว้ มีคำว่า 愛(อ่านว่า ไอ Ái แปลว่า ความรัก)อยู่ที่หน้าผากซ้าย เกิดขึ้นเพราะเหตุการณ์การตายของยาชามารุ(น้าชาย)ของกาอาระ

พลังธรรมชาติ ลม ดิน แม่เหล็ก
รูปแบบ มีอีกชื่อหนึ่งว่าภูตทราย มีความสามารถในการควบคุมทราย มีปริมาณจักระอยู่ในลำดับที่ 9 และมีวิชาคาถาเป็นลำดับที่ 8 เป็นเจ้าแห่งทะเลทราย ในบรรดาสัตว์หางเชี่ยวชาญพวกคาถาสะกดและคาถาผนึกเป็นที่สุด ก่อนหน้าที่จะถูกแสงอุษาแย่งชิงไปเคยสถิตอยู่ในร่างของ กาอาระ ก่อนที่จะถูกจับมาผนึกในร่างคน เคยอาศัยในทะเลทรายในแคว้นคาเสะโนะคุนิ ถูกจับโดยเดอิดาระและอากาสึนะ โนะ ซาโซริ(จับตอนเป็นร่างสถิต)

นิบิ โนะ เนโกะมาตะ
(ニ尾の猫俣, Nibi no Nekomata)
[ชื่อเล่น : มาทาทาบิ]

2 หาง แก้

ภาพวาดผู้สถิตร่าง
ภาพวาดผู้สถิตร่าง
ร่างสถิต นิอิ ยูกิโตะ แห่งหมู่บ้านคุโมะงาคุเระ ถูกแสงอุษาสะกดแล้ว เสียชีวิตแล้ว
พลังธรรมชาติ ไฟ
รูปแบบ สัตว์หางเจ้าแห่งวิญญาณ รูปแบบแมว มี 2 หาง พลังโจมตีแบบไฟกับโจมตีในที่มืด จักระอยู่อันดับ 8 และมีวิชาคาถาอยู่ในลำดับที่ 9

ถูกจับโดยคาคุซึและฮิดัน(จับตอนเป็นร่างสถิต)

ซานบิ โนะ อิโซนาเดะ
(三尾, Sanbi)
[ชื่อเล่น : อิโซบุ]

3 หาง แก้

ซัมบิ
ซัมบิ
ร่างสถิต มิซึคาเงะรุ่น ที่ 4 หมู่บ้านคิริงาคุเระ ท่านคาราตาชิ ยางุระ ถูกแสงอุษาสะกดแล้ว เสียชีวิต
พลังธรรมชาติ น้ำ หยิน
รูปแบบ สัตว์สามหาง ปีศาจหอยมีเกาะเป็นกระดองเต่าและหอยเม่น มีพลังในการควบคุมพื้นน้ำและสร้างม่านพิษ จักระอยู่อันดับ 7 กับมีเกราะป้องกันกับเน้นสู้แบบในน้ำเป็นหลัก ถูกจับโดยโทบิและเดอิดาระ
ยอนบิ โนะ โซโค
(四尾, Yonbi)
[ชื่อเล่น : ซุน โกคู]

4 หาง แก้

ภาพวาดผู้สถิต ร่าง
ภาพวาดผู้สถิต ร่าง
ร่างสถิต โรชิแห่งหมู่บ้านอิวะงาคุเระ ถูกแสงอุษาสะกดแล้ว เสียชีวิต
พลังธรรมชาติ ดิน ไฟ หลอมเหลว พิษ
รูปแบบ ในเรื่องมีรูปร่างเป็นกอริลายักษ์สี่หางสีแดง โรชิได้ออกเดินทางเที่ยวทั่วโลกเพื่อแสวงหาพลังที่แท้จริงของตนเอง เป็นสัตว์หางที่ร้อนแรงที่สุด จักระอยู่อันกับ 6
ถูกแสงอุษาใช้วิชาผนึก ผนึกเก้าวิถีมังกรมายาแล้ว เสียชีวิต

ผู้จับกุม อิทาจิและคิซาเมะ(จับตอนเป็นร่างสถิต)

โกบิ โนะ โฮโก
(五尾, gobi)
[ชื่อเล่น : โคคุโอ]

5 หาง แก้

ภาพวาดผู้สถิต ร่าง
ภาพวาดผู้สถิต ร่าง
ร่างสถิต ฮานแห่งหมู่บ้านอิวะงาคุเระ ถูกแสงอุษาใช้วิชาผนึก ผนึกเก้าวิถีมังกรมายาแล้ว เสียชีวิต
พลังธรรมชาติ ธาตุทั้ง 5 เดือดพล่าน
รูปแบบ ม้าที่มีเขาขนาดเล็กเป็นเทพแห่งการสร้างภาพลวงตาและมีความสามารถในการใช้พฤกษาในการต่อสู้ จักระอยู่อันดับ 5 ไม่ปรากฏบอกว่าถูกจับโดยใคร(จับตอนเป็นร่างสถิต)
โรคุบิ โนะ ไรจู
(六尾, rokubi)
[ชื่อเล่น : ไซเคน]

6 หาง แก้

0 ร่างสถิต อูทาคาตะ แห่งหมู่บ้านคิริงาคุเระ ถูกแสงอุษาใช้วิชาผนึก ผนึกเก้าวิถีมังกรมายาแล้ว เสียชีวิต
พลังธรรมชาติ น้ำ
รูปแบบ ตัวทากยักษ์ที่มีแขนขา สามารถดำดินและดึงพลังธรรมชาติมาใช้ในการลอกตัวและเดินกลางอากาศจากฟองอากาศ รวมทั้งมีความสามารถในการดูดจักระของผู้ที่ต่อสู้ด้วย จักระอยู่อันดับที่ 4

ผู้จับกุม เพน6วิธีและโคนัน(จับตอนเป็นร่างสถิต)

ชิจิบิ โนะ คาคุ
(七尾, shichibi)
[ชื่อเล่น : โจวเมย์]

7 หาง แก้

ภาพวาดผู้สถิต ร่าง
ภาพวาดผู้สถิต ร่าง
ร่างสถิต ฟู แห่งหมู่บ้านทากิงาคุเระ ถูกสะกดแล้ว เสียชีวิต
พลังธรรมชาติ ดิน สภาพอากาศ
รูปแบบ สัตว์หางรูปร่างด้วงกว่างญี่ปุ่น มีเกราะเป็นเหล็ก ผลิตพิษและควบคุมลมฟ้าอากาศ เน้นสู้กลางอากาศที่สุด จักระอยู่อันดับ 3

ผู้จับกุม คาคุซึและฮิดัน(จับตอนเป็นร่างสถิต)

ฮัจจิบิ โนะ ยามาตะ
(八尾, Hachibi)
[ชื่อเล่น : กิวคิ]

8 หาง แก้

ภาพวาดผู้สถิต ร่าง
ภาพวาดผู้สถิต ร่าง
ร่างสถิต คิลเลอร์ บี แห่งหมู่บ้านคุโมะงาคุเระ ตราสถิตไหมรกต หลบหนีจากการจับกุมของแสงอุสาได้ ทำให้ถูกแสงอุษาสะกดเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของจักระแปดหาง
พลังธรรมชาติ หยาง น้ำ
รูปแบบ อสูรวัวหางปลาหมึก ตามตำนานญี่ปุ่นมีอีกชื่อว่า ยามาตะ โนะ โอโรจิมารุ (แปลว่า งูขาว) ซึ่งเป็นงูที่มีแปดหัวแปดหาง แตกต่างจากในเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ ยามาตะเป็นผู้ที่มีพลังในการทำลายและสามารถควบคุมได้ง่ายที่สุด
คิวบิ โนะ โยโค
(九尾の妖狐, Kyuubi)
[ชื่อเล่น : คุรามะ]

9 หาง แก้

ภาพวาดผู้สถิต ร่าง
ภาพวาดผู้สถิต ร่าง
ร่างสถิต อุซึมากิ มิโตะ (ภรรยาโฮคาเงะรุ่นที่1) ปัจจุบันเสียชีวิต

อุซึมากิ คุชินะ (ภรรยาโฮคาเงะรุ่นที่4) ปัจจุบันเสียชีวิต

นามิคาเสะ มินาโตะ (โฮคาเงะรุ่นที่ 4) ได้แค่ส่วนหยินจากผนึก ค่ายผนึกสี่ทิศ ปัจจุบันเสียชีวิต

โทบิ (อุจิวะ โอบิโตะ) ได้ส่วนหยิน และได้คืนส่วนหยินให้นารูโตะในมังงะตอนที่ 664 ปัจจุบันโอบิโตะได้สลายในโลกของคางูยะแล้ว

อุซึมากิ นารุโตะ (โฮคาเงะรุ่นที่7 / ลูกชายของโฮคาเงะรุ่นที่ 4 (นามิคาเสะ มินาโตะ) และคุชินะ) ได้แค่ส่วนหยางจากผนึก แต่ในมังงะตอนที่ 699 โอบิโตะได้ให้ส่วนหยินมา ทำให้ทั้ง 2 ส่วนกลับมารวมกันอีกครั้ง

พลังธรรมชาติ ไฟ ลม หยาง
รูปแบบ สัตว์หางรูปแบบจิ้งจอก มีความเชื่อกันว่ามีพลังมากที่สุดในบรรดาสัตว์หาง หมายถึงปริมาณจักระและระดับของวิชาคาถาอยู่ในระดับสูงสุด (ร่างครึ่งหนึ่งของคุรามะมีพลังมากกว่า กิวคิ)
โจบิ 十尾 Jūbi

10 หาง แก้

0 ร่างสถิต ในอดีตร่างสถิตของสิบหางคนแรกก็คือเซียนหกวิถีฮาโกโรโมะ ในสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 พลังสถิตร่างคนที่ 2 คือ อุจิวะ โอบิโตะ และคนที่ 3 คือ อุจิวะ มาดาระ
พลังธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟ หยิน หยาง สายฟ้า ไม้
รูปแบบ พระจันทร์และหินจันทรา (ผนึกสะกดมนตรา เซียนหกวิถี)

นำสัตว์หางทั้งหมดนำมารวมกับเทวรูปมารนอกรีต และสั่งการด้วยพระจันทร์ ด้วยการอ่านจันทรานิรันดร์

ความเป็นมาของ 10 หาง : แท้จริง 10 หางเป็นต้นไม้ยักษ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนบูชาเป็นต้นไม้เทพเจ้า วันหนึ่งต้นไม้นั้นออกผลไม้ที่ว่ากับว่าจะออกผลใน พันปีมีครั้งหนึ่ง ในตอนนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อ โอซึซึกิ คางูยะ ที่ชนะในสงครามใช้ชิงผลไม้นั้นมาแล้วใช้พลังนั้นทำให้สงครามลดน้อยลง ลูกชายที่เกิดจากผู้หญิงคนนั้นได้มีจักระเกิดขึ้นมา มีชื่อว่า โอซึซึกิ ฮาโกโรโมะ หลังจากนั้นต้นไม้ก็โกรธเกรี้ยวที่มีคนชิงผลไม้ ต้องการคืน จนกลายร่างเป็น 10 หาง โอซึซึกิ ฮาโกโรโมะ ได้ต่อสู้และสามารถหยุด 10 หางโดยผนึก 10 หางไว้ในร่างได้สำเร็จ จนหลังจากนั้นทุกคน้รียกชายคนนั้นว่าเซียนหกวิถี แต่เซียนหกวิถีเกรงกลัวว่า ถ้าตนตายผนึกจะคลายแล้วสิบหางออกมา จึงได้ทำการแยกส่วน 10 หาง เป็นสัตว์หาง ทั้ง 9 ตัว โดย 9 ตัวมีหาง ตั้งแต่ 1-9 หาง พร้อมกับร่างและชื่อที่แตกต่างกัน โดยสัตว์หางทุกตัวต่างก็กระจัดกระจายกันไป ทั่วโลก โดยมีชีวิตที่เป็นอมตะ โดยร่างหลักของสิบหางได้กลายเป็นเทวรูปมารนอกรีต เซียนหกวิถีได้สะกดไว้ด้วยหินทรงกลมขนาดยักษ์แล้วปล่อยขึ้นฟ้าในโคจรอยู่ใกล้โลก ก็ คือดวงจันทร์จนถึงทุกวันนี้
เรอิบิ
หาง ร่างสถิต อามารุ (ในภาคมูฟวี่)
0 พลังธรรมชาติ เงา หมอก
รูปแบบ สัตว์รูปแบบปลิงหรืองูใส่หน้ากาก ไม่นับเป็นสัตว์หางที่แยกตัวออกมาจาก 10 หาง แต่เรียกตัวเองว่าสัตว์หาง จะแกร่งขึ้นถ้ามีร่างสถิตที่แข็งแกร่งและได้ดูดความสิ้นหวังมาจากผู้คน

ดูเพิ่ม แก้