ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บุปผา สายชล"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 44:
บุปผา สายชล เล่นลิเกในคณะสายพิณวัฒนา ของครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่จะรับบท กัณหา-ชาลี เล่นคู่กับพี่ชาย บุปผา สายชล ชื่นชอบการร้องเพลง เข้าสู่วงการด้วยการเป็นร้องร้องเชียร์รำวง ก่อนจะเข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งเต็มตัวเมื่ออายุ 14 ปี จากการชักชวนของ [[สุชาติ เทียนทอง]] โดยได้มาอยู่กับ[[วงจุฬารัตน์]] ของครู[[มงคล อมาตยกุล]] และได้มีโอกาสบันทึกเสียงเพลงแรกชื่อ “ แก้มนวล “ แก้กับเพลง “ หอมหวน “ ของ[[โฆษิต นพคุณ]] ที่แต่งโดย[[ชาย เมืองสิงห์]] ทั้งสองเพลง แต่อาชีพการงานของเธอในวงจุฬารัตน์นั้นไม่ค่อยเจริญรุ่งเรืองนัก เพราะการที่เธอไม่ค่อยมีโอกาสบันทึกเสียง ตอนที่ออกไปแสดงหน้าเวที ก็จึงต้องหยิบยืมเพลงของ ดวงใจ เมืองสิงห์ไปขับร้อง แต่ปรากฏว่าเธอร้องได้ดีกว่าเจ้าของเพลง ทำให้ชาย เมืองสิงห์ ไม่ค่อยกล้าป้อนเพลงให้มั่วไปหมด
=== โด่งดัง ===
ระหว่างนั้น เมื่อมีปัญหา เธอก็ได้หันหน้าไปปรึกษาหารือกับศรีไพร ใจพระ หรือ[[เก่งกาจ จงใจพระ]]ในปัจจุบันบัน ซึ่งตอนนั้นเป็นโฆษกของวง จนกลายเป็นคู่รักกันในที่สุด ในที่สุด ศรีไพร ใจพระ ก็หอบหิ้ว บุปผาออกมาตั้งวงเองในปี 2508 ชื่อวง กระดิ่งทอง และหาวิธีผลักดันบุปผา สายชล ด้วยการให้ บุปผา สายชล มีโอกาสเล่นลิเก กับชาย เมืองสิงห์ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีหวังได้เพลงจากชาย เมืองสิงห์ ศรีไพร ใจพระ ก็หันไปขอเพลงจากครู[[ไพบูลย์ บุตรขัน]]
 
จากที่เคยมีชื่อเสียงมาบ้างจากเพลงหวานอย่าง "แก้มนวล" ครูไพบูลย์ บุตรขัน เปลี่ยนทางให้บุปผา สายชล หันมาร้องเพลงแนวโฉบเฉี่ยวอย่างเพลง "รักคนแก่ดีกว่า" ซึ่งงานนี้ก็ไม่พลาดอีกเช่นกัน เมื่อเธอมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว จน [[รังสี ทัศนพยัคฆ์]] ต้องนำเธอไปร่วมแสดงในภาพยนตร์หลายสิบเรื่อง เริ่มจาก "[[ชาติลำชี]]​" และตามมาด้วย “ [[มนต์รักลูกทุ่ง]] “ อันลือลั่นในยุคขายนักร้องลูกทุ่ง และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้เธอโด่งดังมากขึ้นไปอีก เพราะได้บทดี และได้ร้องเพลงหลายเพลง