ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จอห์นนี เดปป์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Ethan2345678 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
Ethan2345678 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 69:
 
== ชีวิตในวงการบันเทิง ==
ในตอนที่จอห์นนี่ เดปป์เป็นมือกีต้าร์ให้กับวง ''The Kids'' เขาได้คบหาดูใจกับ '''Lori Anne Allison''' พี่สะใภ้ของ '''Bruce Witkin''' มือเบสและนักร้องนำของวง จนกระทั่งวันที่ 24 ธันวาคม ค.ศ. 1983 ทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน จอห์นนี่ เดปป์ได้เปลี่ยนอาชีพหลักจากการเป็นนักดนตรีมาเป็นเซลล์แมนขายปากกาทางโทรศัพท์ ซึ่งเขาบอกว่านั่นเป็นครั้งแรกที่ถือเป็น ''การแสดง'' สำหรับเขา เพราะเขาต้องเปลี่ยนเสียงไปเรื่อย ๆ ในการโทรศัพท์หาลูกค้าแต่ละคน
 
หลังจากที่ใช้ชีวิตร่วมกันได้เพียง 2 ปี ทั้งคู่ก็หย่าร้างกันในปี ค.ศ. 1985 แต่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่ ลอรี่เชื่อว่าจอห์นนี่ เดปป์มีพรสวรรค์ เธอจึงได้แนะนำเขาให้รู้จักกับ[[นิโคลัส เคจ]] ผู้ที่กำลังมีผลงานการแสดงในเรื่อง [[Rumble Fish]] และเป็นผู้ที่ผลักดันให้จอห์นนี่ เดปป์เข้าสู่วงการบันเทิง
 
=== ค.ศ. 1984 - 1994 ===
[[นิโคลัส เคจ]] ได้พาจอห์นนี่เดปป์ไปทำความรู้จักกับ '''Tracey Jacobs''' ซึ่งเป็นเอเย่นส์ที่เขารู้จัก เมื่อเทรซี่เห็นจอห์นนีเป็นครั้งแรก เธอก็เกิดความเอ็นดูเขาทันที ประจวบเหมาะกับที่ผู้กำกับอย่าง [[Wes Craven]] กำลังจะถ่ายทำหนังเรื่องใหม่โดยที่กำลังแคสติ้งนักแสดงนำ เทรซี่จึงได้ชักชวนจอห์นนี่ให้ลองไปแคสบทนำ ทั้ง ๆ ที่บุคลิกของเขาในตอนนั้นไม่ได้ตรงกับตัวละครเลย แต่โชคเข้าข้างเขาเมื่อลูกสาวของ [[Wes Craven]] และเพื่อน ๆ ของเธอ ต่างถูกใจในตัวเขา ทำให้เขาได้รับบทนำในหนังสยองขวัญปี 1984 เรื่อง [[A Nightmare on Elm Street]] และถือเป็นหนังเรื่องแรกของจอห์นนี่ เดปป์
จากนั้นจอห์นนี่เดปป์ก็ได้รับบทเล็ก ๆ ในหนังหลายเรื่อง จนกระทั่งเขาถูกอ้อนวอนให้รับบท [[Officer Tom Hanson]] นายตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบที่ปลอมตัวเป็นนักเรียนไฮสคูลในซีรีส์เรื่อง [[21 Jump Street]] (ออกอากาศในปี 1987 - 1991) ซึ่งทำให้เขาโด่งดังและเป็นขวัญใจวัยรุ่นในอเมริกาเพียงชั่วข้ามคืน
 
จอห์นนี่ตัดสินใจสลัดคราบขวัญใจวัยรุ่น โดยการเลือกรับบทนำในเรื่อง [[Cry-Baby]] (ปีค.ศ. 1990) และในปีเดียวกันนั้นเขาก็ได้ร่วมงานกับ [[ทิม เบอร์ตัน]] ในเรื่อง [[Edward Scissorhands]] ซึ่งเป็นบทบาทที่ทำให้ชื่อเสียงของจอห์นนี เดปป์เริ่มโด่งดังมากขึ้นในต่างประเทศ หลังจากนั้นเขาก็รับบทในหนังเล็ก ๆ อีกหลายเรื่องซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่หนังทำเงิน แต่ก็ได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาในแง่บวกเป็นส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น [[Arizona Dream]] (ปีค.ศ. 1992) , [[Benny & Joon]] และ [[What's Eating Gilbert Grape]] (ปีค.ศ. 1993) ก่อนจะกลับมาร่วมงานกับ [[ทิม เบอร์ตัน]] อีกครั้งในเรื่อง [[Ed Wood (film)]] ในปี 1994 รวมถึงรับบทนำในเรื่อง Don Juan DeMarco อีกด้วย
=== ค.ศ. 1995 - 2004 ===
ในปี ค.ศ. 1995 เขาเดปป์ได้ร่วมงานกับ '''จิม จาร์มุช''' ผู้กำกับหนังอินดี้ ในหนังขาวดำเรื่อง [[Dead Man]] และได้รับบทนำในหนังอาชญากรรมระทึกขวัญเรื่อง [[Nick of Time]] ที่มีรายได้และคำวิจารณ์ออกมาไม่ดีนัก จอห์นนี่ไม่มีผลงานออกมาในปี ค.ศ. 1996 ต่อมาในปี 1997 เขาก็ได้รับบทนำในเรื่อง [[Donnie Brasco]] ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของ FBI ที่ปลอมตัวไปอยู่ในแก๊งค์มาเฟียนานถึง 6 ปี ผลงานอีกเรื่องในปี 1997 ของจอห์นนี่คือเรื่องเดปป์คือเรื่อง [[The Brave]] ผลงานที่เขาร่วมเขียนบทกับพี่ชาย และกำกับภาพยนตร์ด้วยตัวเอง [[The Brave]] เป็นหนึ่งในหนังที่ถูกคัดเลือกให้ฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ในปีนั้น แต่กลับได้รับกระแสตอบรับไม่ดีจากนักวิจารณ์ในอเมริกา ทำให้เขาตัดสินใจไม่นำหนังเรื่องนี้เข้าฉายในอเมริกา
 
ปีใน 1998ค.ศ. จอห์นนี่1998 เดปป์ได้รับบทบาทที่น่าสนใจอีกเรื่อง นั่นคือเรื่อง [[Fear and Loathing in Las Vegas (film)]] จากนิยายในชื่อเรื่องเดียวกันของนักเขียนชื่อดังอย่าง [[Hunter S. Thompson]] ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเขียนที่จอห์นนี่โปรดปรานมากที่สุด และในปี 1999 จอห์นนีก็รับบทนำในภาพยนตร์ถึง 3 เรื่องซึ่งเป็นหนังแนวสยองขวัญทั้งหมด คือ [[The Ninth Gate]] , [[The Astronaunt's Wife]] และการกลับมาร่วมงานกับ[[ทิม เบอร์ตัน]] อีกครั้งใน [[Sleepy Hollow]]
 
ปีใน ค.ศ. 2000 มีภาพยนตร์ที่เขาแสดงออกฉาย 3 เรื่อง แต่แต่ละเรื่องก็เป็นแค่บทเล็ก ๆ เท่านั้น คือบทยิปซีใน [[The Man Who Cried]] , บทสาวประเภทสองใน [[Before Night Falls]] และนักแสดงสมทบใน [[Chocolat]] ซึ่งเป็นหนังที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนั้นด้วย นอกจากนั้นเขายังเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์เรื่อง [[The Fast Show]] ในตอนที่มีชื่อว่า ''The Last Ever Fast Show'' ก่อนที่จะรับบทนำในหนังปี 2001 อีกสองเรื่อง [[Blow]] ซึ่งเป็นเรื่องจริงของพ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติ และอีกเรื่องคือ [[From Hell]] ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาชญากรชื่อดังอย่าง [[Jack the Ripper]]
 
[[ไฟล์:Jack_sparrow.jpg|thumb|จอห์นนี เดปป์ ในบท แจ็ค สแปร์โรว์]]
จอห์นนี เดปป์ไม่มีผลงานออกมาในปี ค.ศ. 2002 แต่ในปี 2003 กลับกลายเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตนักแสดงของเขาเมื่อจอห์นนี่ เดปป์ตัดสินใจรับบท'''กัปตันแจ็ก สแปร์โรว''' ในเรื่อง [[Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl]] ซึ่งกลายเป็นบทบาทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวิตการแสดงของเขา และทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในฐานะ ''นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม'' เป็นครั้งแรก รวมถึงยังเป็นหนังคนแสดงเรื่องแรกของค่ายดิสนีย์ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์อีกด้วย นอกจากเรื่อง [[Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl]] แล้ว จอห์นนี่ เดปป์ก็มีผลงานแอ็กชั่นอีกเรื่องในปี 2003 นั่นคือ [[Once Upon A Time in Mexico]]
 
ในปี 2004ค.ศ. จอห์นนี่2004 เดปป์มีผลงานสยองขวัญเรื่อง [[Secret Window]] และได้ให้เสียงตัวละครในการ์ตูนซีรีส์ที่ฉายทางโทรทัศน์เรื่อง [[King of the Hill]] ก่อนจะเป็นนักแสดงรับเชิญในหนังฝรั่งเศสเรื่อง [[Ils se marièrent et eurent beaucoup d'enfants]] รวมถึงรับบทนำในเรื่อง [[Finding Neverland]] และ [[The Libertine]] และบทบาทใน [[Finding Neverland]] ก็ทำให้เขาได้เข้าชิงออสการ์เป็นครั้งที่ 2 อีกด้วย
 
=== ค.ศ. 2005 - ปัจจุบัน ===
ในปี ค.ศ. 2005 จอห์นนี่เดปป์กลับมาร่วมงานกับ[[ทิม เบอร์ตัน]]อีกครั้ง ในภาพยนตร์เรื่อง [[Charlie and the Chocolate Factory]] ซึ่งถือเป็นหนังอีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในอาชีพการแสดง นอกจากนั้น เขาก็ยังได้ให้เสียงพากย์ในแอนิเมชั่นเรื่อง [[Corpse Bride]] ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่กำกับโดย[[ทิม เบอร์ตัน]]เช่นเดียวกัน
 
ปีใน ค.ศ. 2006 และ 2007 จอห์นนี เดปป์กลับมารับบท'''กัปตันแจ็ก สแปร์โรว''' อีกครั้งในภาพยนตร์ภาคต่อของ [[Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl]] โดยภาค 2 ที่ออกฉายในปี 2006 ใช้ชื่อว่า [[Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest]] ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของจอห์นนี่ที่ทำรายได้ถึงพันล้านเหรียญทั่วโลกและภาคที่ออกฉายในปี 2007 ใช้ชื่อภาคว่า [[Pirates of the Caribbean: At World's End]] และในปี 2007 เขาก็กลับไปร่วมงานกับ[[ทิม เบอร์ตัน]]เป็นครั้งที่ 6 ในภาพยนตร์เพลงเรื่อง [[Sweeney Todd: The Demon Barber of Fleet Street]] ซึ่งทำให้เขาได้รับ''รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สาขาภาพยนตร์เพลงหรือตลก''ได้เป็นครั้งแรก
 
จอห์นนี เดปป์เว้นวรรคการแสดงไปหนึ่งปี ต่อมาในปี 2009 เขาได้ให้เสียงพากย์ในแอนิเมชั่นชื่อดังที่ฉายทางโทรทัศน์อย่าง [[SpongeBob SquarePants]] ในตอนพิเศษที่ใช้ชื่อตอนว่า ''SpongeBob SquarePants vs. The Big One'' ก่อนที่จะเป็นนักแสดงรับเชิญในภาพยนตร์เรื่อง [[The Imaginarium of Doctor Parnassus]] แทนที่[[ฮีธ เลดเจอร์]]ที่เสียชีวิตในขณะที่ภาพยนตร์ยังถ่ายทำไม่เสร็จ และในปีเดียวกันนั้นจอห์นนีก็ได้รับบทนำในภาพยนตร์แนวอาชญากรรมที่สร้างจากเรื่องจริงอย่าง [[Public Enemies]] อีกด้วย
 
ปีใน 2010ค.ศ. จอห์นนี2010 เดปป์รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง [[Alice in Wonderland]] ซึ่งถือเป็นการร่วมงานกับ[[ทิม เบอร์ตัน]]เป็นครั้งที่ 7 ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้อย่างสูงและทำรายได้กว่าพันล้านเหรียญทั่วโลก ในปีเดียวกันนั้นจอห์นนีก็ได้แสดงในหนังแอ็กชั่นเรื่อง [[The Tourist]] ซึ่งทำให้ในปีนั้นเขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในภาพยนตร์เพลงหรือตลกจาก 2 บทบาทคือบท ''Mad Hatter'' จาก [[Alice in Wonderland]] และบท ''Frank Tupelo'' จาก [[The Tourist]]
 
จอห์นนี่ เดปป์ได้ให้เสียงพากย์ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ออกฉายปี ค.ศ. 2011 เรื่อง [[Rango]] ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ได้รางวัลออสการ์ในสาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยม และเขายังกลับมารับบท''กัปตันแจ็ก สแปร์โร่ว'' อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง [[Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides]] ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สามของจอห์นนี เดปป์ที่ทำรายได้มากกว่าพันล้านเหรียญทั่วโลก และทำให้ในตอนนี้เขายังคงเป็นนักแสดงเพียงคนแรกและคนเดียวที่มีภาพยนตร์ที่แสดงนำทำรายได้ถึงพันล้านเหรียญมากที่สุดในโลก และจอห์นนีก็มีภาพยนตร์อีกเรื่องของเขาที่ออกฉายในปี 2011 ถึงแม้จะถ่ายทำมาตั้งแต่ปี 2009 ก็คือ [[The Rum Diary]] ซึ่งเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่สร้างมาจากนิยายของ[[Hunter S. Thompson]] นอกจากนั้นเขายังเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์เรื่อง ''Life's Too Short'' อีกด้วย
 
ปีใน 2012ค.ศ. จอห์นนี2012 เดปป์ได้กลับไปรับบทเป็น ''Tom Hanson'' ในภาพยนตร์เรื่อง [[21 Jump Street]] ซึ่งดัดแปลงมาจากซีรีส์ที่เขาเคยแสดงนำไว้เมื่อนานมาแล้ว ก่อนที่จะกลับไปร่วมงานกับ[[ทิม เบอร์ตัน]]เป็นครั้งที่ 8 ในภาพยนตร์เรื่อง [[Dark Shadows]] และเขาได้ให้เสียงพากย์เป็นตัวละครชื่อ ''Edward Scissorhands'' ในแอนิเมชั่นทางโทรทัศน์เรื่อง [[Family Guy]] ซึ่งมีคาแร็กเตอร์ตรงกับตัวละครที่เขาเคยแสดงเอาไว้ในภาพยนตร์ปี 1990
 
ปีใน ค.ศ. 2013 มีภาพยนตร์ของจอห์นนี เดปป์ออกฉายเพียงสองเรื่องคือ [[The Lone Ranger]] ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งทางรายได้และคำวิจารณ์ และเรื่อง [[Lucky Them]] หนังอินดี้ซึ่งเขาเป็นนักแสดงรับเชิญโดยที่ไม่คิดค่าตัวในการแสดง
 
ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดในปี ค.ศ. 2014 ของจอห์นนี เดปป์คือภาพยนตร์แนวปรัชญา-ไซไฟเรื่อง [[Transcendence]] ที่ถือเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องของเขาที่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของรายได้และคำวิจารณ์ ส่วนผลงานอื่น ๆ ที่มีคิวเข้าฉายในปี 2014 ก็คือเรื่อง ''Tusk'' และ ''London Fields'' ที่เขาเป็นนักแสดงรับเชิญ และภาพยนตร์เพลงแนวแฟนตาซีผจญภัยฟอร์มยักษ์จากดิสนีย์ซึ่งเขารับบทเป็นหมาป่าในตอนของหนูน้อยหมวกแดงอย่างเรื่อง [[Into the Woods]]
 
ภาพยนตร์ที่เข้าฉายในปี ค.ศ. 2015 ของเขาคือเรื่องเดปป์คือเรื่อง [[Mortdecai]] และภาพยนตร์อีกเรื่องที่จะเข้าฉายในเดือนกันยายน ค.ศ. 2015 คือภาพยนตร์อาชญากรรมที่สร้างจากเรื่องจริงของ [[Whitey Bulger]] เรื่อง ''Black Mass''
 
ภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในปี ค.ศ. 2016 คือ [[Through the Looking Glass]] ซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง [[Alice in Wonderland]] ในปี 2010
 
และภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในปี 2017 คือเรื่อง [[Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales]] ซึ่งกำลังถ่ายทำที่ออสเตรเลีย จอห์นนีได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่านี่อาจจะเป็นการรับบทบาทเป็น''กัปตันแจ็ก สแปร์โร่ว''เป็นครั้งสุดท้ายของเขา
 
ส่วนผลงานอื่น ๆ ของเขานอกจากในด้านภาพยนตร์และดนตรีแล้ว จอห์นนี่ก็ได้เซ็นสัญญาเป็น Brand Ambassador คนใหม่ให้กับ [[Parfums Christian Dior]] ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน ค.ศ. 2015 อีกด้วย
 
== ดนตรี ==