ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คมพยัคฆ์ ป.ประมุข"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 25:
คมพยัคฆ์เริ่มชกมวยไทยตั้งแต่อายุ 10 ปี ในชื่อ "เพชรน้อย ศักดิ์ธีรยุทธ" โดยมี ธีรยุทธ กิติสุบรรณ เป็นผู้ฝึกสอน หันมาชกมวยสากลเมื่ออายุ 16 ปี ขึ้นชกมวยสากลครั้งแรกเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2543 ชนะน็อก พยัคฆ์น้อย วงศ์ประเสริฐ ยก 1 จนได้แชมป์เวทีลุมพินีรุ่นมินิมั่มเวทเมื่อ 30 มีนาคม พ.ศ. 2544 ชนะน็อก ฤทธิเดช แสงหิรัญ ยก 10 "กำนันแก๊" ประมุข โรจนตัน จึงดึงตัวไปอยู่ที่ค่าย ให้ใช้ชื่อว่า "คมพยัคฆ์ ป.ประมุข" และขึ้นชกมวยสากลเรื่อยมา จนได้ครองแชมป์ PABA รุ่นไลท์ฟลายเวทเมื่อ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2546 ชนะคะแนน เบนจี้ โซโรนา
ต่อมาในช่วง พ.ศ. 2548 – พ.ศ. 2549 คมพยัคฆ์เริ่มไม่มีรายการชก จึงไปเป็นเด็กเสิร์ฟอาหารที่ 13 เหรียญ และเป็นคนล่อเป้าให้กับชาวต่างชาติที่มาฝึกมวยไทยที่ค่ายมวย 13 เหรียญ เมื่อ "กำนันแก๊" ประมุข โรจนตัณฑ์ เลิกจัดมวยสากลอาชีพ คมพยัคฆ์ จึงย้ายมาอยู่ในสังกัดเพชรยินดีบ็อกซิ่งโปรโมชั่น ของ "เสี่ยเน้า" [[วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์]] ขึ้นชกต่อเนื่องมาตลอด จนได้เป็นแชมป์สภามวยโลกเอเชียรุ่นไลท์ฟลายเวทเมื่อ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ชนะน็อก ลาร์รี เมเด ยก 3 และต่อมาได้ชิงแชมป์โลกของสภามวยโลก รุ่นไลท์ฟลายเวท เมื่อ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ซึ่งคมพยัคฆ์เป็นฝ่ายชนะน็อก
หลังจากได้ครองแชมป์โลกคมพยัคฆ์ได้รับรางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม[[สยามกีฬา|สยามกีฬา อวอร์ดส]] (ครั้งที่ 6)<ref>[http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9550000029939&#Comment "ชัชวาล-คมพยัคฆ์-รัชนก" คว้ายอดเยี่ยมสยามกีฬา จาก[[ผู้จัดการออนไลน์]]]</ref>และนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2554<ref>หน้า 23, [[เดลินิวส์]]ฉบับที่ 22,854: [[วันพุธ|พุธ]]ที่ [[9 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2555]]</ref> นอกจากนั้น การชกระหว่างคมพยัคฆ์กับเอร์นันเดซยังได้รับการยกย่องให้เป็นไฟต์ที่ตื่นเต้นที่สุดแห่งปี<ref>[http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=334031&Mbrowse=4 เจ้ากรซิว ยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษWBC คมพยัคฆ์ไฟต์ดุเดือดยอดเยี่ยมแห่งปี 2011 จาก[[ผู้จัดการออนไลน์]]]</ref>
คมพยัคฆ์ป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้เพียงครั้งเดียว เมื่อเป็นฝ่ายชนะคะแนน โจนาธาน ทากูนิง นักมวยชาวฟิลิปปินส์ไปแบบไม่ประทับใจ เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุหัวชนกันแล้วเกิดแผลแตก คมพยัคฆ์ชกต่อไม่ได้ในยกที่ 6<ref>[http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek5qQTBOREkxT0E9PQ== "คมพยัคฆ์"ทำเสียวชนะแตกดูคะแนน จาก[[ข่าวสด]]]</ref> ในวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 จากนั้นเมื่อป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2 คมพยัคฆ์ก็เป็นฝ่ายแพ้[[ทีเคโอ]]ให้แก่
ต่อมาในวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556 ได้เลื่อนรุ่นขึ้นไปชกในรุ่นฟลายเวท และได้มีโอกาสขึ้นชิงแชมป์เฉพาะกาลของสมาคมมวยโลก กับ เฮอัน ปิเอโร เปเรซ นักมวยชาวเวเนซุเอลา ที่จังหวัดขอนแก่น ปรากฏว่าคมพยัคฆ์เป็นฝ่ายชนะทีเคโอไปได้ในต้นยกที่ 6<ref>[http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1366972736&grpid=03&catid=07&subcatid=0702 ′คมพยัคฆ์′ สอย ′เปเรซ′ ร่วงยก 6 คว้าแชมป์โลก WBA จากมติชน]</ref> แต่เมื่อป้องกันแชมป์เพียงครั้งแรกกับ [[โคกิ เอโตะ]] นักมวยชาวญี่ปุ่น ในวันที่ 1 สิงหาคม ปีเดียวกัน ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นสถานที่ ๆ คมพยัคฆ์เคยเป็นฝ่ายชนะน็อกอาดริอัน เอร์นันเดซ มาก่อน ปรากฏว่าคมพยัคฆ์เป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปแบบเอกฉันท์ 113-114, 113-114 และ 111-116 เสียแชมป์ไปในการป้องกันตำแหน่งครั้งแรกเท่านั้นเอง โดยในยกที่ 12 ซึ่งเป็นยกสุดท้ายคมพยัคฆ์ถูกนับ 8 อีกด้วย<ref>[http://www.siamsport.co.th/Sport_Boxing/130801_214.html คมพยัคฆ์พ่ายคะแนนเอโตะป้องกันแชมป์WBAไม่อยู่ จากสยามสปอร์ต]</ref>
| |||