ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เกษตรกรรม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 180:
==ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม==
[[ไฟล์:Water pollution in the Wairarapa.JPG|right|thumb|200px|มลภาวะน้ำในสายธารชนบทแห่งหนึ่งเนื่องจากน้ำที่ล้นออกมาจากการทำกิจกรรมทางการเกษตรในนิวซีแลนด์]]
{{บทความหลัก: [[|ประเด็นสิ่งแวดล้อมกับการเกษตร]]}}
 
บทความหลัก: [[ประเด็นสิ่งแวดล้อมกับการเกษตร]]
 
เกษตรกรรมสร้าง'ค่าใช้จ่ายภายนอก'ต่อสังคมผ่านสารกำจัดศัตรูพืช สารอาหารที่ล้นออกไป การใช้น้ำมากเกินไป, การสูญเสียสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และปัญหาอื่นๆสารพัด การประเมินของการเกษตรปี 2000 ในสหราชอาณาจักรพิจารณาค่าใช้จ่ายภายนอกทั้งหมดสำหรับ ปี 1996 อยู่ที่ £ 2,343 ล้านหรือ £ 208 ต่อเฮกตาร์<ref name=Pretty2000>{{cite journal |last1= Pretty |year= 2000 |title= An assessment of the total external costs of UK agriculture |journal= Agricultural Systems |volume= 65 |issue= 2 |pages= 113–136 |doi= 10.1016/S0308-521X(00)00031-7 |first1= J |display-authors= 1 |last2= Brett |first2= C. |last3= Gee |first3= D. |last4= Hine |first4= R.E. |last5= Mason |first5= C.F. |last6= Morison |first6= J.I.L. |last7= Raven |first7= H. |last8= Rayment |first8= M.D. |last9= Van Der Bijl |first9= G.}}</ref> การวิเคราะห์ปี 2005 ของค่าใช้จ่ายเหล่านี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ข้อสรุปว่าพื้นที่เพาะปลูกสร้างประมาณ $ 5-16 พันล้าน ($ 30 ถึง $ 96 ต่อเฮกตาร์) ในขณะที่การผลิตปศุสัตว์สร้าง $ 714 ล้าน<ref name=Tegtmeier2005>{{cite journal |last1= Tegtmeier |first1= E.M. |last2= Duffy |first2= M. |year= 2005 |title= External Costs of Agricultural Production in the United States |journal= The Earthscan Reader in Sustainable Agriculture |url= http://www.organicvalley.coop/fileadmin/pdf/ag_costs_IJAS2004.pdf}}</ref> การศึกษาทั้งสองที่มุ่งเน้นแต่เพียงอย่างเดียวเกี่ยวกับผลกระทบทางการคลังสรุปว่าควรจะทำค่าใช้จ่ายภายนอกให้เป็น'ค่าใช้จ่ายภายใน' ไม่รวมเงินอุดหนุนในการวิเคราะห์ของพวกเขา แต่พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าเงินอุดหนุนยังมีอิทธิพลต่อค่าใช้จ่ายในการเกษตรเพื่อสังคม<ref name=Pretty2000/><ref name=Tegtmeier2005/> ในปี 2010 คณะทรัพยากรระหว่างประเทศของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติได้เผยแพร่รายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของการบริโภคและการผลิต จากการศึกษาพบว่าการเกษตรและการบริโภคอาหารเป็นสองตัวขับที่สำคัญที่สุดของแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้น้ำและการปล่อยสารพิษ<ref>{{cite web|url=http://www.unep.org/resourcepanel/Publications/PriorityProducts/tabid/56053/Default.aspx |title=Priority products and materials: assessing the environmental impacts of consumption and production|author=International Resource Panel|publisher=United Nations Environment Programme|year=2010|accessdate=7 May 2013}}</ref> รายงานเศรษฐกิจสีเขียวปี 2011 ของ UNEP กล่าวว่า "การดำเนินงานด้านเกษตรกรรม, ไม่รวมการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน มีการผลิตประมาณร้อยละ 13 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก ซึ่งรวมถึงก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากการใช้ปุ๋ยอนินทรี สารกำจัดศัตรูพืชเกษตรเคมีและสารเคมีกำจัดวัชพืช (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตของปัจจัยการผลิตเหล่านี้จะรวมอยู่ในการปล่อยมลพิษอุตสาหกรรม) และปัจจัยการผลิตเชื้อเพลิงพลังงานฟอสซิล<ref>UNEP, 2011, Towards a Green Economy: Pathways to Sustainable Development and Poverty Eradication, www.unep.org/greeneconomy</ref> "โดยเฉลี่ยแล้วเราจะพบว่าจำนวนทั้งหมดของสารตกค้างสดจากการผลิตทางการเกษตรและการป่าไม้สำหรับปริมาณการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพรุ่นที่สองเป็น 3.8 พันล้านตันต่อปีระหว่างปี 2011 ถึงปี 2050 (ที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 11 ตลอดระยะเวลาการวิเคราะห์, คิดเป็นการเจริญเติบโตที่สูงขึ้นในช่วงปีแรกๆร้อยละ 48 สำหรับปี 2011-2020 และขยายตัวโดยเฉลี่ยร้อยละ 2 ต่อปีหลังจากปี 2020)"<ref>UNEP, 2011, Towards a Green Economy: Pathways to Sustainable Development and Poverty Eradication, www.unep.org/greeneconomy </ref>