ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โชเซ มูรีนโย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
เดปอร์ตีโบ→เดปอร์ติโบ
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
ลาลีกา→ลาลิกา
บรรทัด 32:
มูรีนโยเริ่มงานสั้น ๆ โดยเป็นผู้จัดการให้กับ[[สปอร์ลิชบัวอีไบฟีกา|ไบฟีกา]]และ[[:en:U.D. Leiria|อูนีเอาดือไลรีอา]]ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยสามารถพาไลรีอาไปอยู่อันดับที่ 5 ของลีกซึ่งเป็นอันดับสูงสุดที่ทีมเคยทำได้ มูรีนโยกลับไปอยู่กับโปร์ตูช่วงต้นปี ค.ศ. 2002 ในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกและนำทีมชนะ[[ปรีไมราลีกา]] [[:en:Taça de Portugal|โปรตุเกสลีกคัพ]] และ[[ยูฟ่ายูโรปาลีก]]ในปี ค.ศ. 2003 ในฤดูกาลถัดมาเขาสามารถนำทีมชนะ[[:en:Supertaça Cândido de Oliveira|โปรตุเกสซูเปอร์คัพ]] พาโปร์ตูถึงยอดของลีกเป็นครั้งที่สอง และได้รับรางวัลเกียรติยศสูงสุดของฟุตบอลสโมสรยุโรปซึ่งก็คือการครองตำแหน่งแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก หลังจากย้ายไป[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]]ในปีถัดมาเขายังส่งให้เชลซีเป็นแชมป์[[พรีเมียร์ลีก]]เป็นครั้งที่สองในรอบ 50 ปีด้วยคะแนนสูงถึง 95 คะแนน ร่วมกับการครองแชมป์[[ฟุตบอลลีกคัพ|ลีกคัพ]]ในฤดูกาลเดียวกัน ในปีที่สองมูรีนโยยังคงพาเชลซีไปถึงจุดสูงสุดของพรีเมียร์ลีก และสามารถพาสโมสรไปชนะ[[เอฟเอคัพ]]และลีกคัพในช่วงฤดูกาล 2006-07 มูรีนโยออกจากเชลซีในเดือนกันยายน ค.ศ. 2007 ท่ามกลางข่าวปัญหาความแตกแยกระหว่างตัวเองกับ[[โรมัน อับราโมวิช]] เจ้าของสโมสร<ref name="chelsea exit">{{cite news |title=Mourinho makes shock Chelsea exit|publisher=BBC Sport |date=20 September 2007 |url=http://news.bbc.co.uk/sport1/hi/football/teams/c/chelsea/7003912.stm|accessdate=24 May 2012}}</ref>
 
หลังจากย้ายไป[[สโมสรฟุตบอลอินแตร์นาซีโอนาเลมีลาโน|อินเตอร์มิลาน]]ซึ่งเป็นสโมสรในลีก[[เซเรียอา]]ในปี ค.ศ. 2008 ภายในสามเดือนมูรีนโยก็ได้สร้างเกียรติให้กับสโมสรอิตาลีแห่งนี้โดยพาทีมชนะการแข่งขัน[[ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา|อิตาเลียนซูเปอร์คัพ]] และจบฤดูกาลด้วยการครอง[[:en:List of Italian football champions|แชมป์ลีกเซเรียอา]] ในฤดูกาล 2009-10 อินเตอร์มิลานกลายเป็นสโมสรแรกของอิตาลีที่สามารถทำ[[:en:Treble (association football)|เทรบเบิล]] โดยชนะเซเรียอา [[โกปปาอีตาเลีย|อิตาลีคัพ]] และ[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]] ซึ่งอินเตอร์มิลานไม่สามารถชนะการแข่งขันหลังสุดนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 เขาเป็นหนึ่งในผู้ฝึกห้าคนที่สามารถทำให้สโมสรฟุตบอลสองทีมสามารถครอง[[:en:European Cup and UEFA Champions League history|ถ้วยยุโรป]]<ref>Harrold, Michael. [http://www.uefa.com/uefachampionsleague/history/season=2010/index.html 2009/10: Inter back on top at last]. UEFA. Retrieved 15 September 2010. {{wayback|url=http://www.uefa.com/uefachampionsleague/history/season=2010/index.html |date=20100904142341 |df=y }}</ref> โดยอีกสี่คนที่เหลือคือ [[:en:Ernst Happel|แอนสท์ ฮัพเพิล]], [[:en:Ottmar Hitzfeld|อ็อทท์มาร์ ฮิทซ์เฟ็ลท์]], [[ยุพพ์ ไฮน์เคส]] และ[[การ์โล อันเชลอตตี]] และได้รับรางวัล[[:en:FIFA World Coach of the Year|ผู้ฝึกยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า]]ในปี ค.ศ. 2010<ref name="Goal">{{cite web |url=http://www.goal.com/en-gb/news/3277/la-liga/2011/01/13/2304386/jose-mourinho-congratulated-by-spanish-coaches-committee |title=Jose Mourinho congratulated by Spanish Coaches Committee after being named Fifa World Coach of the Year Award |author= |date=13 January 2011 |work= |publisher=Goal.com |accessdate=6 February 2016}}</ref> จากนั้นเขาเซ็นสัญญากับ[[สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด|เรอัลมาดริด]]ในปี ค.ศ. 2010 และนำทีมชนะ[[โกปาเดลเรย์]]ในฤดูกาลแรก ในปีต่อมาเขายังพาทีมครองแชมป์[[ลาลีลิกา]] ซึ่งทำให้เขากลายเป็นผู้ฝึกคนที่ห้าถัดจาก[[:en:Tomislav Ivić|ทอมิสลัฟ อีวิช]], แอนสท์ ฮัพเพิล, [[:en:Giovanni Trapattoni|โจวันนี ตราปัตโตนี]] และ[[:en:Eric Gerets|เอริก เคเริตส์]] ที่ได้สามารถเอาชนะลีกฟุตบอลได้อย่างน้อยในสี่ประเทศคือ โปรตุเกส อังกฤษ อิตาลี และสเปน<ref>[http://www.guardian.co.uk/football/2012/may/03/real-madrid-jose-mourinho-title José Mourinho's mission accomplished as Real Madrid seal title]. ''The Guardian''. Retrieved 3 May 2012.</ref><ref>{{cite web|title=Eric Gerets champion|url=http://www.lequipe.fr/Football/Actualites/Eric-gerets-champion/85694|work=l'Equipe.fr}}</ref> หลังจากออกจากเรอัลมาดริดในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2013 มูรีนโยกลับไปอังกฤษเพื่อจัดการเชลซีเป็นครั้งที่สองซึ่งในระหว่างนั้นก็สามารถพาทีมชนะลีกคัพได้อีกครั้ง แต่การทำงานกับเชลซีก็มาถึงจุดสิ้นสุดในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2015 หลังจากมีผลงานย่ำแย่ทำให้เชลซีเกือบตกชั้น<ref name="sacking">{{cite web|url=http://www.bbc.co.uk/sport/0/football/34670192|title=Jose Mourinho sacked as Chelsea manager|date=17 December 2015|accessdate=17 December 2015|work=BBC}}</ref>
 
ความรู้ทางยุทธวิธี บุคลิกที่มีลักษณะเฉพาะ (ซึ่งเต็มไปด้วยข้อพิพาท) และลักษณะการจัดการทีมซึ่งฝ่ายตรงข้ามมองว่าให้ความสำคัญกับผลงานมากกว่าการเล่นฟุตบอลที่สวยงาม ทำให้มูรีนโยถูกมองจากทั้งผู้ชื่นชอบและนักวิจารณ์ว่าเป็นทายาทของ[[:en:Helenio Herrera|เอเลนิโอ เอร์เรรา]] ผู้จัดการชาวอาร์เจนตินา<ref>{{cite news |url=http://www.theguardian.com/football/blog/2010/apr/29/jose-mourinho-internazionale-helenio-herrera-barcelona |title=In José Mourinho Inter finally have a true heir to Helenio Herrera |author=Williams, Richard |date=29 April 2010 |work=The Guardian |location=London}}</ref><ref>{{cite web |url=http://www.serieaddicted.com/article/helenio-herrera-or-jose-mourinho-40-years-before.php |title=Helenio Herrera, or Josè Mourinho 40 years before |author=Formica, Federico |work=SerieAddicted}}</ref>
บรรทัด 54:
 
 
หลังจากร็อบสันออกจาก[[กัมนอว์]]เพื่อไปคุม[[เปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน]] (พีเอสวี) ใน[[ประเทศเนเธอร์แลนด์]] มูรีนโยยังคงอยู่ที่ถิ่นอ่างยักษ์นี้ต่อไปโดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของ[[ลูวี ฟัน คาล]] ผู้จัดการทีม[[ชาวดัตช์]]ที่เข้ามาแทน ทำให้เขาได้เรียนรู้รูปแบบการวางแผนที่ละเอียดอ่อนของชาวดัตช์ผู้นี้ กลยุทธ์ที่เน้นความรอบคอบและรายละเอียดของเกมของคนทั้งสองทำให้บาร์เซโลนาครองแชมป์[[ลาลีลิกา]]ได้สองสมัยในช่วงที่ฟัน คาล เป็นหัวหน้าผู้ฝึก<ref name=Feature/> ฟัน คาล มองเห็นว่ามูรีนโยมีสัญญาณที่จะเป็นได้มากกว่าผู้ช่วยผู้จัดการจึงปล่อยให้มูรีนโยพัฒนารูปแบบการเป็นผู้ฝึกด้วยตัวเองและมอบหมายหน้าที่ในการเป็นผู้ฝึก[[:en:FC Barcelona B|ทีมบาร์เซโลนา ชุดเบ]] ให้กับมูรีนโย<ref name=TDT1/> นอกจากนั้นเขายังปล่อยให้มูรีนโยคุมทีมหลัก (โดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการของมูรีนโยเอง) ในการแข่งขันบางประเภท เช่น [[:en:Copa Catalunya|โกปากาตาลุญญา]] ซึ่งมูรีนโยนำทีมชนะในปี ค.ศ. 2000<ref>{{cite news |last=Hawkley |first=Ian |title= Battle of the Bernabeu |publisher=BBC News |date=21 May 2004 |accessdate=22 May 2004|url=http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/europe/8695530.stm }}</ref>
 
== การทำงานในฐานะผู้จัดการ ==
บรรทัด 156:
 
=== เรอัลมาดริด ===
ในปี [[ค.ศ. 2010]] เขาย้ายมาเป็นผู้จัดการทีม[[สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด|เรอัลมาดริด]]และต่อมาเขาก็ได้แชมป์[[โกปาเดลเรย์]] ด้วยการชนะ[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา|บาร์เซโลนา]]ในช่วงต่อเวลาพิเศษไป 1–0 ต่อมาในปี [[ค.ศ. 2012]] หรือในช่วงฤดูกาล 2011–12 ใน[[ลาลีลิกา]] มูรีนโยนำทีมเรอัลมาดริด คว้าแชมป์[[ลาลีลิกา]]ได้สำเร็จโดยมีคะแนนทั้งหมด 100 คะแนน ซึ่งนำห่าง[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา|บาร์เซโลนา]] แชมป์เก่าไปถึง 9 แต้ม
ในช่วงต้นฤดูกาลสุดท้ายของเขากับเรอัลมาดริด มูรีนโยนำทีมโค่นบาร์เซโลนาในศึกสแปนิชซูเปอร์คัพ โดยเป็นการเตะ 2 นัด เหย้า-เยือน นั่นเท่ากับว่า มูรีนโยได้คว้าทุกแชมป์ในสเปนภายในระยะเพียง 3 ปี และทั้งหมดคือการโค่นบาร์เซโลนา ไม่ว่าจะเป็นลาลีลิกา โกปาเดลเรย์ และสแปนิชซูเปอร์คัพ และเป็นการบ่งบอกว่านับตั้งแต่เริ่มทำงานกับสโมสรโปร์ตู ไม่มีปีไหนที่มูรีนโยมือเปล่า และจากไปอย่างยิ่งใหญ่สู่สโมสรเชลซี
 
=== เชลซี ===
เป็นการกลับมาบ้านเก่าอีกครั้งของมูรีนโย โดยเซ็นสัญญาระยะเวลา 4 ปี พร้อมประเดิมนักเตะคนแรก [[อันเดร เชือร์เลอ]] ในงานแถลงข่าว นักข่าวถามมูรีนโยว่ารู้สึกอย่างไรที่อันเดรส อีเนียสตา กล่าวว่าเขาทำให้วงการฟุตบอลในสเปนเสื่อมเสีย มูรีนโยตอบว่า เรอัลมาดริดคว้าแชมป์ลาลีลิกาเหนือบาร์เซโลนาด้วยการทำแต้มสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่กำเนิดวงการฟุตบอลสเปนขึ้นมาร้อยกว่าปี ทำประตู 121 ประตู สูงที่สุดในประวัติศาสตร์อีกเช่นกัน เรอัลมาดริดล้มบาร์เซโลนาในโกปาเดลเรย์ เรอัลมาดริดล้มบาร์เซโลนาในกัมนอว์ ถิ่นของพวกเขา เรอัลมาดริดล้มบาร์เซโลนาในสแปนิชซูเปอร์คัพ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกเจ็บสุด ๆ (They hurted) มูรีนโยบอกว่าการคุมทีมระดับเชลซีโดยทำได้เพียงคว้าแชมป์[[ยูฟ่ายูโรปาลีก]] ถือเป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง เพราะถ้วยนี้ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขา เป็นการเหน็บแนม[[ราฟาเอล เบนีเตซ]] ตามสไตล์ของเขา ปี 2015 เขาพาเชลซี คว้าแชมป์ลีกคัพ และพรีเมียร์ลีก
 
แต่ผลงานของเชลซี ใน[[พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015–16|ฤดูกาล 2015–16]] ไม่ดีเสียเลย แม้จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมใน[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2015–16|ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]] เป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มก็ตาม แต่ผลงานในพรีเมียร์ลีกเมื่อผ่านไป 16 นัด เชลซีแพ้ไปแล้วถึง 9 นัด โดยอยู่ในอันดับที่ 16 ของตารางคะแนน มีคะแนนเหนือทีมที่อยู่ในอันดับ 17 ซึ่งเป็นกลุ่มตกชั้น คือ [[Swansea City F.C.|สวอนซีซิตี]] เพียงคะแนนเดียว ทำให้ในปลายปี 2015 ทางผู้บริหารเชลซีจึงได้ตัดสินใจปลดมูรีนโยออกจากตำแหน่ง <ref>{{cite news|title=เชลซีไล่ "มู" สังเวยฟอร์มบู่ เหล่ "เป๊ป-อันเช" คุมถาวร|url=http://manager.co.th/sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000138530|accessdate=18 December 2015|work=ผู้จัดการออนไลน์|date=17 December 2015}}</ref> ทั้งนี้มีการเปิดเผยถึงสาเหตุของการปลดครั้งนี้ นอกจากผลงานไม่ดีแล้ว มูรีนโยยังมีเหตุทะเลาะกับผู้เล่นหลายคนในทีมอีกด้วย <ref>{{cite news|title=เหตุปลด'มูรินโญ'พ้นเชลซี ขัดแย้งนักเตะ-ผลงานห่วย|url=http://www.dailynews.co.th/sports/367792|accessdate=20 December 2015|work=เดลินิวส์|date=18 December 2015}}</ref>
บรรทัด 217:
[[หมวดหมู่:ผู้จัดการทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก]]
[[หมวดหมู่:ผู้จัดการทีมฟุตบอลในเซเรียอา]]
[[หมวดหมู่:ผู้จัดการทีมฟุตบอลในลาลีลิกา]]
[[หมวดหมู่:กองกลางฟุตบอล]]
[[หมวดหมู่:ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]]