ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าหญิงชามส์ ปาห์ลาวี"

เจ้าหญิงชามส์ได้เสกสมรสครั้งแรกกับนายเฟเรย์ดัน แจม (Fereydoun Jam) บุตรของนายมะห์มุด แจม (Mahmood Jam) อดีตนายกรัฐมนตรีของอิหร่าน ภายใต้การคลุมถุงชนของพระราชบิดา แต่ภายหลังจากการสวรรคตของพระราชบิดา เจ้าหญิงชามส์ และพระสวามีจึงได้หย่าขาดจากกัน

 

 

เจ้าหญิงชามส์ที่ปราศจากพระยศได้เสกสมรสอีกครั้งกับนายเมหร์ดาด ปาหร์บอด และเจ้าหญิงได้เสด็จไปประทับในสหรัฐอเมริกาในปี [[ค.ศ. 1945]] จนถึง [[ค.ศ. 1947]] อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหญิงชามส์ และพระสวามีได้เสด็จนิวัตประเทศอิหร่านในกรุงเตหะราน ก่อนที่จะเกิดเหตุความวุ่ยวายที่เมืองอะบาดาน เจ้าหญิงชามส์มีพระโอรส-ธิดากับนายเมหร์ดาด จำนวน 3 องค์ คือ เจ้าชายชาห์บอซ ปาหร์บอด (ประสูติ ธันวาคม [[ค.ศ. 1946]]), เจ้าชายชาห์ยาร์ ปาหร์บอด (ประสูติ [[21 กรกฎาคม]] [[ค.ศ. 1949]]) และเจ้าหญิงชาห์ราซาด ปาหร์บอด (ประสูติ [[12 กันยายน]] [[ค.ศ. 1952]])<ref>[http://uqconnect.net/~zzhsoszy/states/islamic/iran_pahlavi.html IRAN]</ref> ต่อมาเจ้าหญิงชามส์ได้เปลี่ยนไปนับถือ[[ศาสนาคริสต์]][[นิกายโรมันคาทอลิก]] ในปี [[ค.ศ. 1940]] และได้สร้างโบสถ์ส่วนพระองค์ที่พระตำหนักในเมืองเมหร์ชาหร์ โดยพระสวามี และพระโอรสธิดาก็หันมานับถือศาสนาคริสต์ตามพระองค์ และพระองค์เสด็จไปยัง[[ประเทศอิตาลี]] และ[[นครรัฐวาติกัน]]หลายครั้ง เพื่อเข้าเฝ้า[[สมเด็จพระสันตะปาปา]] ซึ่งถือเป็นประมุขแห่งคริสตจักร<ref>[http://www.iichs.org/index_en.asp?img_cat=110&img_type=0 Institute for Iranian Contemporary Historical Study]</ref>