ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
YURi (คุย | ส่วนร่วม)
WP:FORUM: วิกิพีเดียไม่ใช่สถานที่ที่จะเผยแพร่ความคิดหรือการวิเคราะห์ของคุณเอง หรือเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารใหม่โดยที่ยังไม่เคยมีการเผยแพร่หรือการตีพิมพ์จากที่อื่นมาก่อน ตามนโยบายงดงานค้นคว้าต้นฉบับ
YURi (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 11:
| spouse-type = พระอัครมเหสี
| spouse = [[สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ]]
| issue = [[สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ]]<br /> [[เจ้าชายฟูมิฮิโตะ เจ้าอากิชิโนะ]]<br /> [[ซะยะซายาโกะ คุโระดะคูโรดะ]]
| house = [[ราชวงศ์ญี่ปุ่น]]
| religion = [[ชินโต]]
บรรทัด 37:
== พระราชประวัติ ==
[[ไฟล์:Crown Prince & Princess & Emperor Showa & Empress Kojun wedding 1959-4.jpg|thumb|right|250px|มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะ (ที่สองจากซ้าย) ในวันอภิเสกสมรส ค.ศ. 1959]]
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ปีโชวะที่ 8 (ค.ศ. 1933) ณ [[พระราชวังหลวงโตเกียว|พระราชวังหลวง]] กรุงโตเกียว พระองค์เป็นพระราชบุตรลำดับที่ 5 ใน 7 พระองค์ใน[[จักรพรรดิโชวะ]]กับ[[จักรพรรดินีโคจุง]] แต่เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ เมื่อแรกประสูติทรงพระยศและราชทินนามเป็น '''เจ้าชายสึงุ''' ({{ญี่ปุ่น|継宮|สึงุ-โนะ-มิยะ}}) พระองค์ยังทรงเป็นพระประยูรญาติของ[[เจ้าหญิงพังจา มกุฎราชกุมารีแห่งเกาหลี|เจ้าหญิงพังจา]] มกุฎราชกุมารีองค์สุดท้ายของราชวงศ์[[เกาหลี]]
 
ตามลำดับการสืบสันตติวงศ์ของญี่ปุ่น พระองค์ทรงเป็นรัชทายาทอันดับ 1 ของราชบัลลังก์เบญจมาศตั้งแต่ประสูติ และทรงเข้าพระราชพิธีสถาปนาเป็นมกุฎราชกุมาร ({{ญี่ปุ่น|立太子の礼|ริตไตชิ-โนะ-เร}}) ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1951
 
ในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1959 มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะทรงอภิเษกสมรสกับนางสาวมิจิโกะ โชดะ การอภิเษกสมรสครั้งนี้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้ญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นการอภิเษกของสตรีสามัญชนครั้งแรกกับ[[ราชวงศ์ญี่ปุ่น]] ทำให้นางสาวโชดะกลายเป็นมกุฎราชกุมารีมิจิโกะ
 
เมื่อจักรพรรดิโชวะเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1989 มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 125 ของญี่ปุ่นต่อทันที ตามโบราณราชประเพณี และมีการส่งต่อเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้งสาม ต่อมาในวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1989 ทรงรับราชาภิเษกเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ และทรงสถาปนามกุฎราชกุมารีมิจิโกะขึ้นเป็น[[สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ]]
 
ในปลาย[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] พระองค์และพระอนุชาเจ้าชายมาซาฮิโตะต้องเสด็จหนีการทิ้งระเบิดโดยสหรัฐไปประทับนอกกรุงโตเกียว และเมื่อสหรัฐเข้ายึดครองญี่ปุ่น พระองค์ได้รับการสอนภาษาอังกฤษและธรรมเนียมตะวันตกโดยครูชาวอเมริกัน เอลิซาเบธ เกรยเกรย์ วินนิง นอกจากนี้ ยังทรงเข้าศึกษาสั้น ๆ ที่คณะรัฐศาสตร์ [[มหาวิทยาลัยกากุชูอิง]] แต่ไม่ทรงได้รับปริญญา
 
== พระอัจฉริยภาพทางด้านมีนวิทยา ==
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง[[สัตว์น้ำ]]พระองค์หนึ่งของประเทศ ทรงศึกษาวิชา[[มีนวิทยา]] จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยกากุชูอิง กรุงโตเกียว เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็นมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังประเทศไทย และทรงทูลเกล้าฯ ถวาย[[ปลานิล]]จำนวน 50 ตัว แด่ [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]] เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1965 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชครั้งนั้นได้โปรดเกล้าฯ ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลในบ่อสวนจิตรลดา เป็นหนึ่งโครงการในโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ซึ่งการทดลองเลี้ยงนับว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง จนปัจจุบัน ปลานิลกลายเป็นหนึ่งในปลาเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของไทย โดยก่อนหน้านั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช [[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ]] ทรงนำเสด็จพระราชดำเนิน มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะและมกุฎราชกุมารีมิจิโกะ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรกิจการ[[คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์]] บางเขน เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 1964
 
นอกจากนี้แล้ว ในปี ค.ศ. 2005 ได้การค้นพบปลาใน[[วงศ์ปลาบู่|ตระกูลปลาบู่ทะเล]]ชนิดใหม่ ซึ่งได้มีการตั้ง[[ชื่อวิทยาศาสตร์]]ว่า ''Exyrias akihito'' และต่อมาก็ได้มีการค้นพบปลาบู่น้ำจืดสกุลใหม่ ซึ่งก็ได้มีการตั้งชื่อว่า ''Akihito'' เพื่อถวายเป็นพระเกียรติยศแด่พระองค์