ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ความดันโลหิตสูง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Cuteystudio (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Cuteystudio (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 128:
การวินิจฉัยความดันโลหิตสูงต้องมีภาวะที่ความดันเลือดสูงอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไป<ref name="NICE127 full"/>ต้องวัดความดันเลือดด้วยเครื่องวัดความดันโลหิตได้สูง 3 ครั้งในระยะเวลาห่างกัน 1 เดือน<ref>{{cite book| author=North of England Hypertension Guideline Development Group |chapter=Frequency of measurements |page=53| title=Essential hypertension (NICE CG18) |publisher=[[National Institute for Health and Clinical Excellence]] |date=1 August 2004 |url=http://guidance.nice.org.uk/index.jsp?action=download&o=48384 |accessdate=2011-12-22}}</ref> การประเมินผู้ป่วยความดันโลหิตสูงเบื้องต้นต้องมีการซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างครบถ้วน เนื่องจากในปัจจุบันมีการใช้เครื่องวัดความดันโลหิตต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง (24-hour ambulatory blood pressure monitors; ABPM) และเครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติที่บ้าน (home blood pressure machines; HBPM) ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การวินิจฉัยภาวะความดันโลหิตสูง โดยอุปกรณ์ดังกล่าวมีประโยชน์เพื่อป้องกันการวินิจฉัยผิดจากภาวะความดันโลหิตสูงปลอมเฉพาะเวลาพบบุคลากรทางการแพทย์ (white coat hypertension) เวชปฏิบัติในสหราชอาณาจักรในปัจจุบันอาศัยการอ่านค่าความดันโลหิตจากเครื่องวัดความดันโลหิตต่อเนื่อง หรืออาจใช้การอ่านค่าความดันโลหิตจากเครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติที่บ้านเป็นเวลาต่อเนื่องกัน 7 วัน<ref name="NICE127 full">{{cite book |author=National Clinical Guideline Centre |title=Hypertension (NICE CG 127) |publisher=[[National Institute for Health and Clinical Excellence]] |chapter=7 Diagnosis of Hypertension, 7.5 Link from evidence to recommendations |page=102 |date=August 2011|url=http://www.nice.org.uk/nicemedia/live/13561/56007/56007.pdf |accessdate=2011-12-22}}</ref> อีกภาวะหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือภาวะความดันโลหิตสูงเทียมในผู้สูงอายุ (Pseudohypertension in the elderly) เชื่อว่าเกิดจากมีหินปูนเกาะตามหลอดเลือดแดง ทำให้อ่านค่าความดันเลือดจากการวัดได้สูงในขณะที่ความดันที่แท้จริงในหลอดเลือดนั้นปกติ<ref>{{cite journal|last=Franklin|first=SS|coauthors=Wilkinson, IB; McEniery, CM|title=Unusual hypertensive phenotypes: what is their significance?|journal=Hypertension|date=February 2012|volume=59|issue=2|pages=173–8|pmid=22184330|doi=10.1161/HYPERTENSIONAHA.111.182956}}</ref>
 
เมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเป็นความดันโลหิตสูง แพทย์จะต้องค้นหาสาเหตุโดยต้องอาศัยปัจจัยเสี่ยงและอาการอื่นๆอื่น ๆ ของผู้ป่วย [[ความดันโลหิตสูงทุติยภูมิ]]มักพบได้ในเด็กอายุก่อนวัยรุ่น โดยสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ[[โรคไต]] ในขณะที่[[ความดันโลหิตสูงไม่ทราบสาเหตุ]]หรือแบบปฐมภูมินั้นมักพบในวัยรุ่นและผู้ใหญ่และมักจะมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง เช่น โรคอ้วน และมีประวัติครอบครัวเป็นความดันโลหิตสูง<ref name="pmid16719248">{{cite journal | author = Luma GB, Spiotta RT | title = Hypertension in children and adolescents | journal = Am Fam Physician | volume = 73 | issue = 9 | pages = 1558–68 | month = May | year = 2006 | pmid = 16719248}}</ref> การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อค้นหาสาเหตุของความดันโลหิตสูงทุติยภูมิ รวมทั้งเพื่อประเมินความเสียหายของอวัยวะต่างๆต่าง ๆ จากความดันโลหิต เช่น [[หัวใจ]] [[ตา]] และ[[ไต]] การตรวจเพิ่มเติมสำหรับโรค[[เบาหวาน]]และระดับ[[ไขมันในเลือดสูง]]เนื่องจากทั้งสองโรคดังกล่าวเป็นปัจจัยเสี่ยงร่วมในการเกิด[[โรคหัวใจ]]และต้องรับการรักษาหากตรวจพบ<ref name="pmid10645931"/>
 
โรคไตอาจเป็นทั้งเหตุหรือผลของความดันโลหิตสูงก็ได้ การประเมินภาวะการทำงานของไตใช้การตรวจระดับ[[ครีแอทินิน]]ในซีรัม แต่การใช้ค่าครีแอทินินในซีรัมอย่างเดียวอาจทำให้คำนวณค่า[[อัตราการกรองของโกลเมอรูลัส]] (glomerular filtration rate) ได้มากเกินไป ในแนวทางเวชปฏิบัติใหม่ๆใหม่ ๆ แนะนำให้ใช้สมการคำนวณอัตราการกรองโกลเมอรูลัสโดยประมาณ (estimate glomerular filtration rate (eGFR)) เช่นสูตร Modification of Diet in Renal Disease (MDRD) <ref name = JNC7 /> ดังนี้
 
<center><math>{\text{Glomerular filtration rate (GFR)}} = 186 \times {(S_{\text{Cr}})} ^{-1.154} \times {\text{age}}^{-0.203} \times (\text{0.742 in female}) </math></center>
บรรทัด 227:
ในผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ความดันโลหิตสูงหมายถึงภาวะที่มีผลการวัดความดันเลือดช่วงหัวใจบีบ และ/หรือความดันเลือดช่วงหัวใจคลาย มากกว่าค่าความดันเลือดปกติอย่างต่อเนื่อง (ในปัจจุบันถือเอาค่าความดันเลือดปกติคือ ความดันเลือดช่วงหัวใจบีบไม่เกิน 139 มิลลิเมตรปรอท และความดันเลือดช่วงหัวใจคลายไม่เกิน 89 มิลลิเมตรปรอท: ''ดูตาราง — การจำแนกประเภทความดันเลือดโดย JNC7'') หากวัดความดันเลือดโดยใช้เครื่องวัดความดันโลหิตต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง หรือเครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติที่บ้าน ให้ถือเกณฑ์ความดันเลือดช่วงหัวใจบีบที่ตั้งแต่ 135 มิลลิเมตรขึ้นไป หรือความดันเลือดช่วงหัวใจคลายที่ตั้งแต่ 85 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไปเป็นภาวะความดันโลหิตสูง<ref name="NICE127 full"/>
 
แนวทางการรักษาความดันโลหิตสูงในปัจจุบันจัดกลุ่มผู้ที่มีความดันเลือดสูงแต่ไม่ถึงเกณฑ์เป็นความดันโลหิตสูงเพื่อบอกถึงความเสี่ยงต่อเนื่องในผู้ที่ความดันโลหิตค่อนข้างสูงแต่ยังอยู่ในค่าปกติ โดย JNC7 (ค.ศ. 2003) <ref name="JNC7"/> ใช้คำว่า "ก่อนความดันโลหิตสูง" (prehypertension) ในผู้ที่มีความดันเลือดช่วงหัวใจบีบในช่วง 120-139 มิลลิเมตรปรอท และ/หรือความดันเลือดช่วงหัวใจคลาย 80-89 มิลลิเมตรปรอท ในขณะที่ ESH-ESC Guidelines (ค.ศ. 2007) <ref name=ESH-ESC>{{cite journal |author=Mancia G |title=2007 ESH-ESC Practice Guidelines for the Management of Arterial Hypertension: ESH-ESC Task Force on the Management of Arterial Hypertension |journal=J. Hypertens. |volume=25 |issue=9 |pages=1751–62 |year=2007 |month=September |pmid=17762635 |doi=10.1097/HJH.0b013e3282f0580f |url= |author-separator=, |author2=De Backer G |author3=Dominiczak A |display-authors=3 |last4=Cifkova |first4=Renata |last5=Fagard |first5=Robert |last6=Germano |first6=Giuseppe |last7=Grassi |first7=Guido |last8=Heagerty |first8=Anthony M |last9=Kjeldsen |first9=Sverre E}}</ref> BHS IV (ค.ศ. 2004) <ref name=BHSIV>{{cite journal|last=Williams|first=B|coauthors=Poulter, NR, Brown, MJ, Davis, M, McInnes, GT, Potter, JF, Sever, PS, McG Thom, S, British Hypertension, Society|title=Guidelines for management of hypertension: report of the fourth working party of the British Hypertension Society, 2004-BHS IV|journal=Journal of Human Hypertension|date=2004 Mar|volume=18|issue=3|pages=139–85|pmid=14973512|doi=10.1038/sj.jhh.1001683}}</ref> รวมถึงแนวทางการรักษาโดยสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย (พ.ศ. 2555) <ref name=thaihypertension>{{cite conference |author=สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย |year=2012 |title=แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2555 | conference= การประชุมวิชาการประจำปี ครั้งที่ 10 "Trends in Hypertension 2012" 17 กุมภาพันธ์ 2555. กรุงเทพฯ, ประเทศไทย |url=http://www.thaihypertension.org/files/162_1.2012%20Guideline%20in%20the%20Treatment%20of%20Hypertension.pdf |accessdate=23 มิถุนายน พ.ศ. 2555 |isbn=1-111-22222-9}}</ref> แบ่งประเภทผู้ที่ความดันเลือดต่ำกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอทตามค่าความดันมากน้อย โดยใช้จัดเป็นกลุ่ม "เหมาะสม" (optimal) "ปกติ" (normal) และ "ปกติค่อนสูง" (high normal) '' (ดูตาราง — การจำแนกประเภทความดันเลือดโดย ESH-ESC BHS IV และสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย) ''
 
ในช่วงความดันโลหิตสูงก็มีการจัดกลุ่มตามความรุนแรงเช่นเดียวกัน โดย JNC7 แยกกลุ่มที่มีความดันโลหิตสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอทออกเป็น "ความดันโลหิตสูงระยะที่ 1" (hypertension stage I) "ความดันโลหิตสูงระยะที่ 2" (hypertension stage II) และ "ความดันโลหิตเฉพาะช่วงหัวใจบีบสูง" (isolated systolic hypertension) ความดันโลหิตเฉพาะช่วงหัวใจบีบสูงหมายถึงผู้ที่มีความดันโลหิตช่วงหัวใจบีบสูงแต่ความดันโลหิตช่วงหัวใจคลายปกติ มักพบในผู้สูงอายุ<ref name="JNC7"/> ในขณะที่ ESH-ESC Guidelines (ค.ศ. 2007) <ref name=ESH-ESC /> BHS IV (ค.ศ. 2004) <ref name = BHSIV /> และแนวทางการรักษาของประเทศไทย (พ.ศ. 2555) <ref name=thaihypertension /> มีการเพิ่มกลุ่ม "ความดันโลหิตสูงระยะที่ 3" หมายถึงผู้ที่มีความดันเลือดช่วงหัวใจบีบมากกว่า 179 มิลลิเมตรปรอท หรือความดันเลือดช่วงหัวใจคลายมากกว่า 109 มิลลิเมตรปรอท ความดันโลหิตสูง "ชนิดดื้อ" (resistant) หมายถึงการใช้ยาไม่สามารถลดความดันเลือดกลับมาอยู่ในระดับปกติได้<ref name="JNC7"/>
 
=== เด็ก ===
ความดันโลหิตสูงในทารกพบได้น้อยมากคือประมาณร้อยละ 0.2-3 ของจำนวนทารกแรกเกิด และการวัดความดันโลหิตมักจะไม่ทำกันเป็นประจำในทารกแรกเกิดที่สุขภาพดี<ref name=Dionne>{{cite journal |author=Dionne JM, Abitbol CL, Flynn JT |title=Hypertension in infancy: diagnosis, management and outcome |journal=Pediatr. Nephrol. |volume=27 |issue=1 |pages=17–32 |year=2012 |month=January |pmid=21258818 |doi=10.1007/s00467-010-1755-z |url=}}</ref> ความดันโลหิตสูงพบได้บ่อยกว่าในทารกที่มีภาวะเสี่ยง การประเมินว่าความดันเลือดนั้นปกติหรือไม่ในของทารกแรกเกิดต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆต่าง ๆ อาทิ [[อายุครรภ์]] อายุหลังการปฏิสนธิ และ[[น้ำหนักแรกเกิด]]<ref name=Dionne />
 
ความดันโลหิตสูงพบได้ค่อนข้างบ่อยในเด็กและวัยรุ่น (2-9% ขึ้นกับอายุ เพศ และเชื้อชาติ) <ref>{{cite journal |author=Din-Dzietham R, Liu Y, Bielo MV, Shamsa F |title=High blood pressure trends in children and adolescents in national surveys, 1963 to 2002 |journal=Circulation |volume=116 |issue=13 |pages=1488–96 |year=2007 |month=September |pmid=17846287 |doi=10.1161/CIRCULATIONAHA.106.683243 |url=}}</ref> และสัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงต่อความเจ็บป่วยในระยะยาว<ref name=fourth>{{cite journal |author= |title=The fourth report on the diagnosis, evaluation, and treatment of high blood pressure in children and adolescents |journal=Pediatrics |volume=114 |issue=2 Suppl 4th Report |pages=555–76 |year=2004 |month=August |pmid=15286277 |doi= 10.1542/peds.114.2.S2.555|url= |author1= National High Blood Pressure Education Program Working Group on High Blood Pressure in Children and Adolescents}}</ref> ในปัจจุบันแนะนำว่าในเด็กอายุมากกว่า 3 ปีทุกรายควรได้รับตรวจการวัดความดันโลหิตเมื่อมาตรวจรักษาหรือตรวจสุขภาพ แต่หากพบความดันเลือดสูงจะต้องตรวจยืนยันซ้ำก่อนที่จะจำแนกว่าเด็กมีภาวะความดันโลหิตสูง<ref name = fourth />