ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลู่ เฮาตง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Shoshui (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าใหม่: {{Infobox person | pre-nominals = | name = ลู่ เฮาตง | post-nominals = | image = Lu_Hao-tung.jpg | image_upright...
 
Shoshui (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 87:
 
==ประวัติ==
ลู่ เฮาตง เกิดที่เมือง[[เซี่ยงไฮ้]] แต่พื้นเพของครอบครัวมาจากเมือง[[ภูมิภาคเซียงซาน, กวางตุ้ง|เซียงซาน]], [[กวางตุ้ง]] เขาเป็นเพื่อนสนิทของ ดร. [[ซุน ยัตเซ็น]] และมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่มุ่งเป้าไปที่การโค่นล้ม[[ราชวงศ์ชิง]]และจัดตั้งระบบการปกครองแบบ[[สาธารณรัฐ]]ในประเทศจีน ในปี ค.ศ. 1895 ลู่ได้ร่วมก่อตั้ง [[สมาคมซิงจงฮุ่ย]] หรือ สมาคมฟื้นฟูจีน ขึ้นใน[[ฮ่องกง]] ร่วมกับดร.ซุน ยัตเซ็น ในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.1895 พวกเขาได้วางแผนที่จะเริ่มทำการ[[การลุกฮือที่กวางโจวครั้งแรก|ลุกฮือขึ้นปฏิวัติ]] ที่เมือง[[กวางโจว]] แต่มีคนทรยศนำแผนการไปบอกทำให้ทางรัฐบาลราชสำนักชิงได้รับรู้แผนการของพวกเขา ในวันที่ 26 ตุลาคม ขณะที่ลู่กำลังเตรียมตัวหลบหนีจากกวางโจว แต่ตัดสินใจกลับไปที่ฐานปฏิบัติการในคริสตจักรใน[[เป่ยจิงหลู]] (ยุคปัจจุบันคือ[[เขตเยว่ซิว]]) เพื่อเผาทำลายรายชื่อสมาชิกขบวนการปฎิวัติและเอกสารสำคัญอื่นๆที่เป็นหลักฐาน เพราะเกรงว่าราชสำนักจะรู้รายชื่อของนักปฏิวัติคนอื่นๆ แต่เขากลับไม่สามารถหลบหนีได้ทันเวลาและถูกจับพร้อมกับนักปฏิวัติคนอื่น ๆ โดยราชสำนักชิง
 
ลู่ได้ถูกนำตัวไปยัง [[หยาเหมิน]] ในเขตหนานไฮ่ (ปัจจุบันคือ [[อำเภอหนานไฮ่]], [[โฝชาน]], [[มณฑลกวางตุ้ง]]) เพื่อสอบปากคำโดยผู้พิพากษามณฑล [[หลี่ เจิ้งหยง]] (李徵庸), ผู้เป็นข้าราชการในราชสำนักชิงทำหน้าที่ภายใต้คำสั่งจาก [[ตัน จงหลิน]] (譚鍾麟) [[อุปราชแห่งเหลียงกวง]]ในราชสำนักชิง เมื่อลู่ เฮาตงปฏิเสธที่จะคุกเข่าลงต่อหน้าหลี่ เจิ้งหยง ระหว่างการสอบปากคำนักโทษ หลี่ได้กล่าวว่า, "เจ้าก็เป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถ ทำไมเจ้าถึงอยากทำตัวให้มีปัญหา โดยการต่อต้านราชสำนักที่จะทำให้เจ้าแลกด้วยชีวิตด้วยเล่า? " ลู่ เฮาตงจึงตอบกลับไปด้วยจิตใจหนักแน่นว่า, ""ประเทศจีนเป็นประเทศที่กว้างใหญ่และมีประชากรมากที่สุดในโลก แต่กลับอยู่ในสภาพความยากจนและน่าสงสารในขั้นสุดขั้วที่สุด ที่เป็นเช่นนั้นเพราะราชสำนักชิงได้ปกครองแบบกดขี่, คดโกง และไร้ความสามารถในนโยบายต่างประเทศ ดังนั้นสหายของข้าและสหายของข้าได้วางแผนกบฏโดยมีเป้าหมายเพื่อล้มล้างราชสำนักชิงและเปลี่ยนการปกครองของประเทศเสียใหม่ไปเป็นแบบสาธารณรัฐใหม่ ข้าตั้งใจจะฆ่าคนหนึ่งหรือสองคนเช่น ท่านที่รับใช้ราชสำนักชิง ตอนนี้แผนของเราล้มเหลว ข้าไม่สามารถฆ่าท่านได้ แต่หากท่านจะลงมือฆ่าประหารข้าก็จงรีบดำเนินการเสียเถิด!" ลู่ เฮาตงจึงถูกตัดสินประหารชีวิตในโทษฐานเป็นกบฎต่อราชสำนักชิงโดยการตัดหัวและเสียบประจาน
 
สถานทูตอเมริกันในกวางโจวพยายามช่วยชีวิตของลู่โดยอ้างว่าเขาเป็นนักแปลที่ทำงานที่สำนักงานโทรเลขและไม่ได้เป็นนักปฏิวัติ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เมื่อหลี่ เจิ้งหยงได้แสดงคำสารภาพที่เขียนโดยลู่ เฮาตงว่าเขายอมรับว่าเป็นนักปฏิวัติเอง จู กุ้ยกวน (朱貴全), ฉิว สี (邱四) และนักปฏิวัติที่ถูกจับกุมคนอื่น ๆ ถูกประหารชีวิตเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนตามคำสั่งของตัน จงหลิน ดร.ซุน ยัตเซ็นได้กล่าวถึงลู่ เฮาตงว่าเป็น "บุคคลแรกในประวัติศาสตร์จีนที่เสียสละชีวิตเพื่อการปฏิวัติประชาธิปไตย"