ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปราสาทฮิเมจิ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ "ฮิเมะจิ" → "ฮิเมจิ" +แทนที่ "โทะโยะโตะมิ" → "โทโยโตมิ" +แทนที่ "ฮิเดะโยะชิ" → "ฮิเดโยชิ" ด้วยสจห.
ZeroSixTwo (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ "มะสึโมะโตะ" → "มัตสึโมโตะ" +แทนที่ "คุมะโมะโตะ" → "คูมาโมโตะ" +แทนที่ "อะกะมะสึ" → "อากามัตสึ" +แทนที่ "ซะดะโนะริ" → "ซาดาโนริ" +แทนที่ "โทะกุงะวะ" → "โทกูงาวะ" +แทนที่ "อิเอะยะสุ" → "อิเอยาซุ" +แทนที่ "อิเคะดะ" → "อิเกดะ" +แทนที่ "เทะรุมะซะ" → "เทรูมาซะ" +แทนที่ "อิเคดะ" → "อิเกดะ" +แทนที่ "คุโระดะ" → "คูโรดะ" +แทนที่ "โยะชิตะกะ" → "โยชิตากะ" +แทนที่ "โทะซะมะ" → "โทซามะ" +แทนที่ "ซะกะอิ" → "ซากาอิ" +แทนที่ "ทะดะซุมิ" → "ทาดาซูมิ" +แทนที่ "โอะกิคุ" → "โอกิกุ" ด้วย[[WP:iS...
บรรทัด 12:
[[ไฟล์:Himeji castle 0012.jpg|thumb|250px|ปราสาทฮิเมจิในปลายฤดูใบไม้ผลิ]]
[[ไฟล์:Himeji Castle.jpg|thumb|250px|ปราสาทฮิเมจิ]]
'''ปราสาทฮิเมจิ''' ({{ญี่ปุ่น|姫路城|Himeji-jo, Himeji Castle}}) เป็น[[ปราสาทญี่ปุ่น]] ตั้งอยู่ในเมือง[[ฮิเมจิ]] [[จังหวัดเฮียวโงะ]] เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]และ[[แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิง พ.ศ. 2538]] ปราสาทฮิเมจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปี [[พ.ศ. 2536]] ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือ [[ปราสาทมะสึโมะโตะมัตสึโมโตะ]] และ[[ปราสาทคุมะโมะโตะคูมาโมโตะ]] และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า "ปราสาทนกกระสาขาว" หรือ ฮากุระโจ<ref>[https://www.thairath.co.th/content/531366 แกะรอยปราสาทสุดเฮี้ยน] จาก[[ไทยรัฐ]] (11/10/2015)</ref> ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทฮิเมจิได้ขึ้นทะเบียนเป็น[[สมบัติประจำชาติญี่ปุ่น]]และ[[มรดกโลก]]
 
== สถาปัตยกรรม ==
บรรทัด 20:
 
== ประวัติ ==
เมื่อปี 1346 อะกะมะสึอากามัตสึ ซะดะโนะริซาดาโนริ ได้วางแผนที่จะสร้างปราสาทขึ้นที่เชิง[[ภูเขาฮิเมจิ|เขาฮิเมจิ]]ที่ซึ่งอากามัตสึ โนริมุระ ได้สร้างวัดโชเมียวขึ้น หลังจากอากามัตสึเสียชีวิตในสงครามคาคิทสึกิตสึ ตระกูลยามานะได้เข้าครอบครองปราสาท แต่หลังจากสงครามโอนิน ตระกูลอากามัตสึก็ยึดปราสาทกลับมาได้อีกครั้ง
 
ปี 1580 [[โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ]] ได้เข้ามาเป็นผู้ปกครองปราสาท และมีการสร้างหออาคารหลักสูง 3 ชั้น ดำเนินการโดย[[คุโระดะคูโรดะ โยะโยชิตะตากะ]]
 
หลังจากสงครามเซกิงาฮาราในปี ค.ศ. 1601 [[โทะกุงะวะโทกูงาวะ อิเอะยะสุอิเอยาซุ]]ได้ยกปราสาทฮิเมจิให้แก่[[อิเคะดะอิเกดะ เทะรุมะเทรูมาซะ]]ุ อิเคเกดะได้ดำเนินการต่อเติมปราสาทเป็นเวลา 8 ปี จนเป็นรูปลักษณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ส่วนต่อเติมส่วนสุดท้าย คือ วงเวียนด้านตะวันตก เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1618
 
เมื่อสิ้นสุด[[ยุคเอโดะ]] ปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในสมบัติชิ้นสุดท้ายของ[[ไดเมียว]] โทะซะมะโทซามะ ขณะนั้นปราสาทถูกปกครองโดยทายาทของซะกะซากาอิ ทะดะซุมิทาดาซูมิ จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ยุคเมจิ ปี ค.ศ. 1868 รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นได้ส่งกองกำลังภายใต้การบังคับบัญชาของทายาทของอิเคดะอิเกดะ เทะรุมะเทรูมาซะ เข้าบุกปราสาท และขับไล่ผู้ปกครองออกไป
 
ปราสาทฮิเมจิถูกทิ้งระเบิดในปี ค.ศ. 1945 เมื่อสิ้นสุด[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] แม้ว่าพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่จะถูกเผาทำลาย แต่ปราสาทยังคงตั้งอยู่ได้โดยแทบไม่เสียหาย
 
==ตำนานเล่าขาน==
[[ภาพ:Himeji castle-Okikui.jpg|thumb|left|บ่อน้ำที่สิงสถิตย์ของวิญญาณโอะกิคุโอกิกุ]]
ปราสาทฮิเมจิ ยังเป็นสถานที่ ๆ เป็นที่รู้จักกันดีในตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับ[[ผีญี่ปุ่น|ผี]]ที่ขึ้นชื่อ เรื่อง "[[ผีนับจาน]]" หรือ ซะระยะซารายาชิกิ คือ เรื่องราวของโอะกิคุโอกิกุ สาวใช้ของซามูไรผู้หนึ่งที่ทำจานล้ำค่าของตระกูลซามูไรแตก จึงถูกลงโทษด้วยการโยนร่างลงในบ่อน้ำ โดยในเวลาค่ำคืนจะมีผู้ได้ยินเสียงผู้หญิงโหยหวนดังมาจากบ่อน้ำเป็นเสียงนับจานช้า ๆ จนครบเก้าใบ ซึ่งบ่อน้ำนี้ยังปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามตำนานนี้ยังมีการเล่าขานในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป<ref>[http://www.artelino.com/articles/ghost_story_okiku.asp ข้อมูลโอคิคุจาก artelino.com] (13/10/2007)</ref>
 
== มรดกโลก ==