ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเลือกตั้งในสหรัฐ ค.ศ. 2018"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Msirichit (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Msirichit (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 22:
'''การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2018''' ถูดจัดให้มีขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018) โดยมีการแข่งขันชิงตำแหน่งชิงตำแหน่งทางการเมืองที่ว่างลง ทั้งในระดับสหพันธรัฐ ระดับมลรัฐ และระดับท้องถิ่น. [[การเลือกตั้งมิดเทอม]]ปี 2018 เป็นการเลือกตั้งในช่วงกึ่งกลางของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกของ นาย[[โดนัลด์ ทรัมป์]]. ที่นั่งทั้งหมดในสภาผู้แทนสหรัฐฯ ทั้ง 435 ที่นั่ง และที่นั่งวุฒิสภา 35 ที่นั่ง (จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง) ถูกเปิดให้มีการลงคะแนนเสียงทั่วประเทศ เพื่อหาผู้เข้ารับตำแหน่งคนใหม่มาแทนที่นักการเมืองคนเก่า ที่ดำรงตำแหน่งมาจนครบวาระ หรือกำลังจะเกษียณอายุ. นอกจากนี้ยังมีการลงชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐ 39 ที่นั่ง รวมไปถึงตำแหน่งว่างทางการเมืองในระดับมลรัฐ และการปกครองท้องถิ่นอื่นๆ.
 
การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2018 เป็นการเลือกตั้งมิดเทอมที่ก่อให้เกิดความตื่นตัว และความกระตือรือร้นทั้งจากภาคประชาชน จากทางพรรคสถาบันการเมืองของสหรัฐฯ และจากผู้สังเกตุการณ์ต่างชาติ มากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐอเมริกา. ในพรรคภาคประชาชน พบว่ามีการลงคะแนนเสียงล่วงหน้าเป็นจำนวนมากถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศในปี ค.ศ. 2016.<ref>{{Cite news|url=https://www.businessinsider.com/early-voting-states-2018-midterm-elections-2018-11|title=Here are all the states where you can vote early in the midterm elections|last=Cranley|first=Ellen|date=November 3, 2018|work=Business Insider|access-date=2018-11-07}}</ref> พรรคการเมือง และพรรคสนับสนุนทางการเมืองของทั้งพรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครต ใช้งบประมาณมหาศาลในการซื้อโฆษณา และลงทุนติดตั้งป้ายหาเสียงเลือกตั้ง. แหล่งข้อมูลจาก Center for Responsive Politics เปิดเผยว่าเงินจำนวนกว่า $5.2 พันล้าน ถูกใช้จ่ายในแคมเปญจ์รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจาก $4.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ทำให้การเลือกตั้งมิดเทอม 2018 เป็นการเลือกตั้งที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์<ref>{{Cite news|url=https://www.businessinsider.com/2018-congressional-candidates-raised-spent-most-money-data-2018-11#the-house-candidates-who-have-spent-the-most-money-2|title=The 2018 midterms will be the most expensive in history – here are the candidates who have raised and spent the most money since Trump's election|last=Gal|first=Shayanne|date=November 3, 2018|work=Business Insider|access-date=2018-11-07}}</ref> โดยมีการใช้เทคนิค[[การโฆษณาชวนเชื่อ]] (propaganda) และการเผยแพร่[[ข่าวหลอก]] (fake news) ทั้งในสื่อกระแสหลัก และทาง[[สื่อสังคม|สื่อโซเชียล]]เพื่อก่อกวน บิดเบือนข้อเท็จจริง และสร้างความสับสนแก่ประชาชน. นอกจากนี้ยังมีรายงานว่านักแฮ็กเกอร์ หรือสายลับที่ทำงานให้กับมหาอำนาจต่างชาติ ได้แก่ [[en:Russian interference in the 2018 United States elections|รัสเซีย]] และสาธารณะประชาชนจีน<ref>{{cite web|author=Mark Landler|url=https://www.nytimes.com/2018/09/26/world/asia/trump-china-election.html|title=Trump Accuses China of Interfering in Midterm Elections|newspaper=The New York Times|date=September 26, 2018}}</ref> ได้พยายามสอดเข้ามายุ่งเกี่ยวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโน้มน้าวผลการเลือกตั้งอีกด้วย.
 
ผลของการเลือกตั้งปรากฏว่า [[พรรคเดโมแครต (สหรัฐ)|พรรคเดโมแครต]]สามารถช่วงชิงอำนาจการควบคุมในสภาผู้แทนฯได้ ส่วนพรรครีพับลิกันสามารถชิงเก้าอี้สมาชิกวุฒิสภาเพิ่มขึ้นจากเดิม ทำให้พรรครีพับลิกัน (GOP) สามารถควบคุมทิศทางของวุฒิสภา (สภาเซเนต) ได้ต่อไป.