ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าซ็องจงแห่งโชซ็อน"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 37:
'''พระเจ้าซ็องจง''' ({{เกาหลี|성종|ฮันจา=成宗|MC2000=Seongjong|MR=Sŏngchong}} ค.ศ. 1457 - ค.ศ. 1494) เป็นกษัตริย์ลำดับที่ 9 ของ[[ราชวงศ์โชซ็อน|ราชวงศ์โจซ็อน]] (ค.ศ. 1469 - 1494)
พระเจ้าซ็องจง มีพระนามเดิมคือ '''องค์ชายจาซาน''' (자산군, 者山君) ประสูติเมื่อค.ศ. 1457 เป็นพระโอรสขององค์ชายรัชทายาทอีกยอง (의경세자, 懿敬世子) และพระชายาซูบิน ตระกูลฮัน แต่ทว่าพระราชบิดาก็ได้สิ้นพระชนม์ไปในปีเดียวกัน องค์ชายแฮยางพระอนุชาขององค์ชายรัชทายาทอีกยองจึงได้เป็นองค์ชายรัชทายาทแทน และขึ้นครองบัลลังก์เมื่อค.ศ. 1468 เป็น[[พระเจ้าเยจงแห่งโชซ็อน|พระเจ้าเยจง]] (예종, 睿宗) ในค.ศ. 1467 องค์ชายจาซานทรงเปลี่ยนพระนามเป็น '''องค์ชายจัลซาน''' (잘산군, 乽山君) และอภิเษกกับธิดาของฮันมยองฮี (한명회, 韓明澮) คือ พระชายาชอนฮัน ตระกูลฮัน (천안군부인, 天安郡夫人 ภายหลังเป็น พระมเหสีคงฮเย (공혜왕후, 恭惠王后))
แต่พระเจ้าเยจงก็ทรงอยู่ในราชสมบัติได้ไม่นานสวรรคตไปเสียก่อนในค.ศ. 1469 โดยที่ทรงเหลือพระโอรสพระชนมายุสี่ชันษาไว้ คือ องค์ชายเจอัน (제안대군, 齋安大君) พระมเหสีจองฮี หรือ พระพันปีจาซ็อง ร่วมกับชินซุกจู (신숙주, 申淑舟) และฮันมยองฮี ได้ตัดสินพระทัยว่าองค์ชายเจอันนั้นพระชนมายุน้อยเกินกว่าจะเป็นกษัตริย์ และยกราชบัลลังก์ให้กับพระโอรสองค์โตขององค์ชายรัชทายาทอีกยอง
องค์ชายจัลซานจึงขึ้นครองราชสมบัติด้วยพระชนมายุเพียงสิบสามพระชันษา และมีพระ
เมื่อพระเจ้าซ็องจงขึ้นครองราชย์ได้มีการปูนบำเน็จขุนนางผู้มีความดีความชอบ (공신, 功臣) ซึ่งขุนนางกลุ่มนี้มีอภิสิทธิ์หลายอย่างและมีทรัพย์สินร่ำรวย<ref>http://www.koreanhistoryproject.org/Ket/C09/E0903.htm</ref> รวมทั้งดำรงตำแหน่งสำคัญระดับสูงของระบอบการปกครอง เรียกว่า กลุ่มขุนนางเก่า (훈구파, 勳舊派) ซึ่งมีอำนาจมาตั้งแต่รัชสมัยของพระเจ้าเซโจ เหตุการณ์ที่พระเจ้าเซโจทรงแย่งราชบัลลังก์มาจาก[[พระเจ้าทันจง]]และกวาดล้างขุนนางที่ต่อต้านทำให้เกิดนักปราชญ์ขึ้นกลุ่มใหม่ ที่ต้องลี้ภัยการเมืองไปอาศัยอยู่ตามป่าเขาถูกกีดกันจากวงราชการ เรียกว่า กลุ่มซาริม (사림파, 士林派) เมื่อพระเจ้าซ็องจงมีพระชนมายุครบยี่สิบชันษาเมื่อค.ศ. 1476 ทรงว่าราชการด้วยพระองค์เองและทรงดึงขุนนางกลุ่มซาริม นำโดยคิมจงจิก (김종직, 金宗直) เข้ามารับราชการในสามกรม (삼사, 司) เพื่อคานอำนาจกับกลุ่มขุนนางเก่า
|