ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระอาจารย์ดี ฉนฺโน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 34:
== ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์และการศึกษาธรรม ==
 
ปี [[พ.ศ. 2457]] หลังจากอุปสมบทแล้ว [[พระอาจารย์ดี ฉนฺโน]] ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีบุญเรืองท่าแขก (วัดบ้านกุดแห่) ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็น[[เจ้าอาวาส]] ได้พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองมีชื่อเสียงมากในยุคนั้น ท่านเป็นพระนักเทศนาโวหาร มีม้าเป็นพาหนะ ขี่ม้าไปเทศน์ตามบ้านต่างๆ เป็นพระนักพัฒนา มีความรู้ความชำนาญในด้านช่างไม้ ช่างก่อสร้าง งานแกะสลัก จึงได้ก่อสร้างเสนาสนะ ศาลาโรงธรรม หอธรรมาสน์อันมีลวดลายวิจิตร หอไตรรูปทรงสวยงามสำหรับเก็บหนังสือพระธรรมใบลาน อีกทั้งยังเก่งวิชาคาถาอาคมและมีความรู้ด้านยาสมุนไพรจึงมีลูกศิษย์มากมาย [[File:หลวงปู่ดี3.jpg|thumb|ศาลาวัดป่าสุนทราราม สร้างในสมัยหลวงปูดี ฉนฺโน เป็นเจ้าอาวาส]]
 
ปี [[พ.ศ. 2465]] [[พระอาจารย์ดี ฉนฺโน]] ได้ออกธุดงค์เที่ยวหาเรียนวิชาอาคม หาของขลังและหาความรู้เพิ่มเติม ท่านได้เดินทางขึ้นไปทางสกลนคร นครพนม จึงได้พบกับ [[หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต]] ที่บ้านสามผง [[อำเภอศรีสงคราม]] [[จังหวัดนครพนม]] เมื่อได้ฟังธรรมจาก[[หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต]] แล้ว จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาเชื่อว่าหลวงปู่มั่นเป็นผู้มีญาณวิเศษสำเร็จแล้ว เพราะทักท้วงได้อย่างถูกต้องเหมือนตาเห็นเป็นอัศจรรย์ จึงได้กราบขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ให้ช่วยชี้แนะแนวทางประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย และได้จำพรรษาในเขต[[จังหวัดนครพนม]]และ[[จังหวัดสกลนคร ]]
บรรทัด 44:
ปี [[พ.ศ. 2471]] เมื่อได้ฝึกอบรมจิตภาวนาและข้อวัตรปฏิบัติกับ[[หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต]] แล้ว [[พระอาจารย์ดี ฉนฺโน]] จึงธุดงค์กลับไปปักกลดที่ ''ดอนคอกวัว'' เพื่อโปรดชาว ''บ้านกุดแห่'' ซึ่งเป็นบ้านของท่าน พ่อเฒ่าฝ่ายหน้า บุรารัตน์ เจ้าของที่ดินแปลงนี้ได้ถวายที่ดินเพื่อให้สร้างวัด [[พระอาจารย์ดี ฉนฺโน]] จึงสั่งให้ญาติโยมรื้อศาลากุฏิจากวัดศรีบุญเรืองท่าแขกทั้งหมดเอาไปปลูกสร้างวัดใหม่ที่บริเวณดอนคอกวัว และในปีนี้ [[พระอาจารย์ดี ฉนฺโน]] เห็นว่า ''พระอาจารย์อินทร์ สุนฺทโร (วงศ์เสนา)'' ซึ่งเป็นบิดาของท่านได้อุปสมบทมานานแล้ว จึงนำเรื่องเสนอพระเถระแต่งตั้ง [[พระอธิการอินทร์ สุนฺทโร]] เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และตั้งชื่อวัดให้คล้ายฉายาของเจ้าอาวาสรูปแรก รูปปฐมฤกษ์ว่า [[วัดป่าสุนทราราม]] ในปัจจุบันพื้นที่วัดศรีบุญเรืองท่าแขกเดิมได้กลายเป็นธรณีสงฆ์ของวันป่าสุนทราราม
 
ในระหว่างพรรษานี้ [[พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม]] ศิษย์อาวุโสของ[[หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต]] ซึ่งอยู่จำพรรษาที่บ้านหนองขอน [[จังหวัดอุบลราชธานี]] ได้รับจดหมายนิมนต์จาก ''พระครูพิศาลอรัญเขต'' เจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์และเจ้าคณะธรรมยุตจังหวัดขอนแก่นในขณะนั้น ต่อมาก็คือ [[พระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิโย)]] ให้ไปช่วยเผยแผ่ธรรมปฎิบัติให้กับประชาชนชาว[[จังหวัดขอนแก่น]] หลังจากออกพรรษา [[พระอาจารย์ดี ฉนฺโน]] จึงได้เดินทางไปบ้านน่าหัวงัวเพื่อนมัสการ[[หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต]] และร่วมประชุมปรึกษาหารือในกิจนิมนต์ดังกล่าว ในการนี้มีพระภิกษุสามเณรลูกศิษย์ของ[[หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล]] และ [[หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต]] จากเมืองอุบลฯ เมืองสกลฯ เมืองนครพนม เมืองยโสธร เมืองหนองคาย และเมืองเลย ต่างก็เดินทางมาประชุมพร้อมกันในช่วง[[วันมาฆบูชา]] วันเพ็ญเดือน 3 ณ ''บ้านนาหัวงัว'' [[อำเภอกุดชุม]] [[จังหวัดอุบลราชธานี]]ในขณะนั้น หรือในปัจจุบันคือ[[ยโสธร]] เมื่อที่ประชุมคณะสงฆ์ตกลงเห็นพ้องต้องกันแล้ว จึงได้แยกย้ายกันเดินทางมุ่งสู่[[จังหวัดขอนแก่น]] คณะสงฆ์กองทัพธรรมนำโดย [[พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม]] [[พระอาจารย์มหาปิ่น ปญฺญาพโล]] [[พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร]] [[พระอาจารย์ดี ฉนฺโน]] [[พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ]] [[พระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตฺตโก]] [[พระอาจารย์สีลา อิสฺสโร]] เป็นต้น เมื่อไปถึงแล้วได้พำนักที่ ''ป่าช้าโคกเหล่างา'' ด้านทิศตะวันออกของเมืองขอนแก่น คณะสงฆ์จึงได้ร่วมกันสร้าง ''สำนักสงฆ์ป่าช้าโคกเหล่างา'' หรือ ''วัดป่าเหล่างา'' ขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็คือ [[วัดป่าวิเวกธรรม]] อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น [[File:วัดภูเขาแก้ว7.jpg|thumb|พระอุโบสถวัดภูเขาแก้ว ในปัจจุบัน]]
 
ปี [[พ.ศ. 2472]] [[พระอาจารย์ดี ฉนฺโน]] ได้สร้างสำนักสงฆ์และจำพรรษาที่ ''วัดป่าโคกโจด'' ตำบลพระลับ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ได้เทศนาสั่งสอนประชาชนให้ละมิจฉาทิฐิ เลิกจากการถือภูตฝีปีศาจ ให้ตั้งอยู่ในพระไตรสรณคมน์ กำหราบหมอผีมนต์ดำเดรัชฉานวิชา รักษาชาวบ้านด้วยยาสมุนไพร ตลอดระยะเวลา 3 ปี