ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การใช้อำนาจครอบงำ"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Thucydides49 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Thucydides49 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 2:
'''การใช้อำนาจครอบงำ''' หรือ '''อธิกภาพ''' ในการเมืองระหว่างประเทศ ({{lang-en|hegemony}}; {{lang-gr|ἡγεμονία}} hēgemonía, "ความเป็นผู้นำ" หรือ "กฎ";<ref>''[[Oxford English Dictionary]]''</ref><ref>{{cite web|title=Hegemony|year=2014|work=Oxford Advanced American Dictionary|publisher=Dictionary.com, LLC|url=http://oaadonline.oxfordlearnersdictionaries.com/dictionary/hegemony}}</ref><ref>{{cite web|title= Hegemony|year= 2014|work=Merriam-Webster Online|publisher=Merriam-Webster, Inc.|url= http://www.merriam-webster.com/dictionary/hegemony|accessdate= 2016-02-24}}</ref><ref>{{cite web|title= Hegemony|year=2014|work= American Heritage Dictionary|publisher= Houghton Mifflin Harcourt |url= http://www.ahdictionary.com/word/search.html?q=hegemony&submit.x=22&submit.y=22 |accessdate= 2016-02-24}}</ref> มีที่มาจากคำกริยาภาษากรีกว่า ''ἡγέομαι'' แปลว่า "นำทางไป", "นำร่อง" หรือ "เป็นผู้นำในการรบ"<ref>Liddel & Scott, Greek-English Lexicon (New York, Harper & Brothers 1886), at 641</ref>) เป็น[[ระบอบการปกครอง]] และภาวะครอบงำแบบ[[จักรวรรดิ]]ทางอ้อม โดยผู้ใช้อำนาจเชิง "อธิกะ" (hegemon) คือรัฐผู้นำ ปกครองรัฐที่ด้อยอำนาจกว่าทางภูมิรัฐศาสตร์ ด้วยอำนาจโดยนัย และการข่มขู่คุกคามในด้านต่างๆ แต่มิใช่ด้วยกำลังทหารโดยตรง ในกรีซโบราณ (ศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล – คริสต์ศตวรรษที่ 6) อธิกภาพในการเมืองระหว่างประเทศ หมายถึง [[นครรัฐ]]หนึ่งมีภาวะครอบงำทางการเมือง–การทหารเหนืออีกนครรัฐหนึ่ง<ref>{{cite book |title=The Columbia Encyclopedia|edition=Fifth|year=1994|location=New York |publisher= Columbia University Press |isbn= 0-231-08098-0|editor-first=Barbara A.|editor-last=Chernow|editor2-first= George A.|editor2-last=Vallasi |page=1215}}</ref>
ในศตวรรษที่ 19 ''อธิกภาพ'' หรือ
ในทางทฤษฎีความสัมพันธ์ทางการเมือง ''อธิกภาพ'' หรือ การครอบงำเชิงอำนาจ หมายถึงสถานการณ์ที่ มีความอสมมาตรอย่างมีนัยสำคัญให้เป็นคุณแก่รัฐหนึ่ง โดยรัฐนั้น (1) มีกำลังทหารแกร่งพอที่จะสลายภัยคุกคามจากอำนาจคู่แข่งได้อย่างเป็นระบบ; (2) สามารถเข้าถึงวัตถุดิบ ทรัพยากรธรรมชาติ เงินทุน และตลาด (3) มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันในการผลิตสินค้ามูลค่าสูง; (4) มีความสามารถที่จะสร้าง และเผยแพร่คตินิยมที่สะท้อนถึงรูปการ หรือสภาพการณ์ที่เป็นอยู่; และ (5) มีฐานะหน้าที่แตกต่างไปจากรัฐอื่นๆในระบบ โดยถูกคาดหวังว่าจะต้องจัดหาสินค้าสาธารณะบางอย่าง เช่น ความมั่งคงปลอดภัย หรือความคงตัวทางการเงินและทางธุรกิจการค้า<ref>{{Cite article|title=The Southern African unipolarity |first=Luis |last=Schenoni |newspaper=Journal of Contemporary African Studies |year=2017 |url=https://www.academia.edu/34195352/_The_Southern_African_unipolarity_in_Journal_of_Contemporary_African_Studies_DOI_10.1080_02589001.2017.1364355 |accessdate=2017-09-30}}</ref>
|