ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไทลาซีน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 21:
}}
 
'''ไทลาซีน''' ({{lang-en|Thylacine}}; {{ชื่อวิทยาศาสตร์|Thylacinus cynocephalus}}; มาจาก[[ภาษากรีก]] แปลว่า "มีหัวเหมือน[[สุนัข]]และมีกระเป๋าหน้าท้อง") หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ '''เสือแทสเมเนีย''' หรือ '''หมาป่าแทสมาเนีย''' (Tasmanian tiger, Tasmanian wolf) เนื่องจากมีลายทางที่หลังคล้าย[[เสือโคร่ง|เสือ]] และลักษณะคล้าย[[หมาป่า]]หรือสุนัข มีฟันแหลมคม และสามารถยืนด้วยสองขาหลังได้เหมือน[[จิงโจ้]] ในอดีตไทลาซีนเคยเป็น[[สัตว์มีกระเป๋าหน้าท้อง]]ประเภท[[สัตว์กินเนื้อ|กินเนื้อ]]ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีถิ่นฐานอยู่ใน[[ออสเตรเลีย]] [[รัฐแทสเมเนีย]] และ[[นิวกินี]]
 
ไทลาซีน[[การสูญพันธุ์|สูญพันธุ์]]ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยมีบันทึกไว้ว่า ไทลาซีนตัวสุดท้ายที่สวนสัตว์[[โฮบาร์ต]] ชื่อ "เบนจามิน" ได้ตายลงเมื่อวันที่ [[7 กันยายน]] [[ค.ศ. 1936]] เนื่องจากถูกละเลย ขาดการดูแลรักษา และถูกประกาศสถานะสูญพันธุ์โดย [[IUCN]] ในปี ค.ศ. 1982 และโดยรัฐบาลท้องถิ่นของ[[รัฐแทสเมเนีย]]ในปี ค.ศ. 1986
บรรทัด 27:
หลังจากไทลาซีนสูญพันธุ์ มาร์ซูเปียลกินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ [[แทสเมเนียนเดวิล]] ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 เป็นต้นมา นักวิทยาศาสตร์ได้จัดตั้งโครงการรวบรวมตัวอย่างทางพันธุกรรมจากไทลาซีนที่ถูกสตัฟไว้ทั่วโลก เพื่อหาหนทางที่จะทำ[[การโคลนนิง]]ไทลาซีนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง <ref name="GU">{{cite news|url=http://www.guardian.co.uk/Archive/Article/0,4273,4424142,00.html|title=Back from the dead|author=Julia Leigh|work = The Guardian|location=London|date=2002-05-30| accessdate = 2006-11-22}}</ref>
 
โดยไทลาซีน เชื่อว่าสูญพันธุ์ไปอย่างแน่นอนจากผืนแผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลียราว 3,000 ปีก่อน ก่อนที่ชาวตะวันตกจะมาบุกเบิกดินแดน ก่อนที่จะสูญพันธุ์ต่อมาในพื้นที่ ๆ เป็นเกาะ โดยสาเหตุของการสูญพันธุ์เดิมเชื่อว่า เกิดจากการล่าของมนุษย์ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่คุกคามบรรดา[[ปศุสัตว์]] แต่ทว่าข้อมูลล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ จาก[[มหาวิทยาลัยแอดิเลด]] ที่ได้ทำการศึกษาด้วยวิธีการสกัด[[ดีเอ็นเอ]]จากซากดึกดำบรรพ์ โดยสร้างลำดับ 51 ดีเอ็นเอ พบว่าแท้ที่จริงแล้ว ไทลาซีนอาจแบ่งออกได้เป็นสอง[[ชนิดย่อย]] คือ ชนิดตะวันออก และชนิดตะวันตก ที่พบทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ก่อนสิ้นสุด[[ยุคน้ำแข็ง]]เมื่อ 25,000 ปีก่อน เพราะสภาพอากาศที่รุนแรงและภัยแล้งจากภาวะ[[เอลนิโญ]]เมื่อ 4,000 ปีก่อน ที่ส่งผลให้บรรดาสัตว์ต่าง ๆ บนผืนแผ่นดินใหญ่ทยอยกันสูญพันธุ์เมื่อ 3,000 ปีก่อน ซึ่งนี่น่าจะเป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ของไทลาซีนมากกว่าการล่าของชาวท้องถิ่น, โรคระบาด หรือการผสมข้ามสายพันธุ์ที่ทำให้ความหลากหลายทางพันธุ์กรรมสูญเสียไปเสียอีก <ref>หน้า 7, ''ค้นพบการสูญพันธุ์อย่างลึกลับของเสือแทสมาเนีย''. "โลกโศภิณ". "โลกาภิวัฒน์". '''ไทยรัฐ'''ปีที่ 68 ฉบับที่ 21811: วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560 แรม 4 ค่ำ เดือน 11 ปีระกา</ref>
ในปลายปี ค.ศ. 2016 ได้มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องติดตามสัตว์ป่าของคณะนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่ง ที่ทำการติดตั้งไว้ในพุ่มไม้ในเขตป่าของ[[รัฐวิกตอเรีย]] ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ปรากฏเห็นภาพของสัตว์ตัวหนึ่งที่มีรูปร่างเหมือนหมาป่าหรือสุนัข แต่มีส่วนหางแข็งตรงเหมือนลักษณะของไทลาซีน จึงอาจยืนยันได้ว่าไทลาซีนยังมิได้สูญพันธุ์ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้<ref>หน้า 7, ''เสือทัสมาเนียยังอยู่หรือสูญพันธุ์กันแน่?''. "โลกโศภิณ". "โลกาภิวัฒน์". '''ไทยรัฐ'''ปีที่ 67 ฉบับที่ 21503: วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 1 ปีวอก</ref> แต่ทว่าก็มีพยานพบเห็นอีกหลายราย แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าคือ ไทลาซีนจริง ๆ ดังนั้นทาง[[มหาวิทยาลัยเจมส์คุก]] จึงได้มีโครงการตามหาการมีอยู่จริงของไทลาซีนขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2017<ref>หน้า 14 ประชาชื่น-วิทยาการ-ไอที, ''เปิดโครงการตามล่า ค้นหา 'แทสมาเนีย ไทเกอร์' ''. '''มติชน'''ปีที่ 40 ฉบับที่ 14269: วันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2560</ref>
 
ในปลายปี ค.ศ. 2016 ได้มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องติดตามสัตว์ป่าของคณะนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่ง ที่ทำการติดตั้งไว้ในพุ่มไม้ในเขตป่าของ[[รัฐวิกตอเรีย]] ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ปรากฏเห็นภาพของสัตว์ตัวหนึ่งที่มีรูปร่างเหมือนหมาป่าหรือสุนัข แต่มีส่วนหางแข็งตรงเหมือนลักษณะของไทลาซีน จึงอาจยืนยันได้ว่าไทลาซีนยังมิได้สูญพันธุ์ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้<ref>หน้า 7, ''เสือทัสมาเนียยังอยู่หรือสูญพันธุ์กันแน่?''. "โลกโศภิณ". "โลกาภิวัฒน์". '''ไทยรัฐ'''ปีที่ 67 ฉบับที่ 21503: วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 1 ปีวอก</ref> แต่ทว่าก็มีพยานพบเห็นอีกหลายราย เช่นที่ ตอนเหนือของ[[รัฐควีนส์แลนด์]] แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าคือ ไทลาซีนจริง ๆ ดังนั้นทาง[[มหาวิทยาลัยเจมส์คุก]] จึงได้มีโครงการตามหาการมีอยู่จริงของไทลาซีนขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2017<ref>หน้า 14 ประชาชื่น-วิทยาการ-ไอที, ''เปิดโครงการตามล่า ค้นหา 'แทสมาเนีย ไทเกอร์' ''. '''มติชน'''ปีที่ 40 ฉบับที่ 14269: วันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2560</ref>
==อ้างอิง==