ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระปรีชากลการ (สำอาง อมาตยกุล)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Amatyakul1 (คุย | ส่วนร่วม)
Amatyakul1 (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 131:
“…พระปรีชาฯ เอาผ้าขึ้นเช็ดหน้า แล้วทิ้งลงดิน พูดออกมา อย่างน่าสงสารว่า โบสถ์สร้างขึ้นยังไม่ทันแล้ว เพราะได้เมียฝรั่ง ตัวจึงตาย…”
 
ชีวิตคู่ของพระปรีชากลการกับแฟนนี่สาวลูกครึ่งอังกฤษก็ถึง กาลอวสานลงอย่างถาวร เมื่อนายน็อกซ์ซึ่งถูกเรียกตัวกลับอังกฤษ และได้พาครอบครัวเดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน แต่แฟนนี่ได้พาบุตรชายที่เกิดจากพระปรีชากลการ คือ สแปนเชอร์ หรือ จำรัส และบุตรชายหญิงของพระปรีชากลการ ซึ่งเกิดจากคุณลม้ายภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น คือ ตระกูลและอรุณ เดินทางกลับไปอังกฤษด้วย ความรักที่แฟนนี่มอบให้เด็กไทยทั้งคู่น่าจะเป็นพยานยืนยันให้เห็นถึงน้ำใจรักอันบริสุทธิที่แฟนนี่มีต่อพระปรีชากลการ เมื่อคุณตระกูลและคุณอรุณเติบโตขึ้น จนได้เดินทางกลับสู่ประเทศไทยเมื่ออายุได้ 17 ปี จึงมีความรู้ด้านภาษาทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสเป็นเลิศ และเข้ารับราชการสนองพระเดชพระคุณฐานะล่ามสตรีในพระราชสำนักฝ่ายใน ส่วนจำรัสเสียชีวิตในวัยหนุ่มเพียงอายุ 21 ปี
 
แต่ความผูกพันและรำลึกถึงพระปรีชากลการมิได้จางคลายจาก หัวใจของแฟนนี่ และสิ่งที่เป็นสายใยยึดโยงไว้ก็คือบุตรชายที่เกิดจาก พระปรีชากลการ ชื่อ สแปนเชอร์ หรือ จำรัส และยังมีบุตรชายหญิงของพระปรีชากลการซึ่งเกิดจากคุณลม้ายภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น คือ ตระกูล และอรุณ 2 พี่น้อง แฟนนี่ได้นำเด็กทั้ง 2 เดินทางกลับไปอังกฤษด้วย ความรักที่แฟนนี่มอบให้เด็กไทยทั้งคู่น่าจะเป็นพยานยืนยันให้เห็นถึงน้ำใจรักอันบริสุทธิที่แฟนนี่มีต่อพระปรีชากลการ คุณตระกูลและคุณอรุณเติบโตขึ้นท่ามกลางความรักและความเอาใจใส่จากแฟนนี่ จนได้เดินทางกลับสู่ประเทศไทยเมื่ออายุได้ 17 ปี มีความรู้ด้านภาษาทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสเป็นเลิศ เข้ารับราชการ สนองพระเดชพระคุณฐานะล่ามสตรีในพระราชสำนักฝ่ายใน ส่วนจำรัสเสียชีวิตในวัยหนุ่มเพียงอายุ 21 ปี
 
หลังจากพระปรีชากลการเสียชีวิตลง ประชาชนชาวจังหวัด[[จังหวัดปราจีนบุรี]]ได้พร้อมใจกันสร้างศาลเจ้าพ่อสำอางเพื่อแสดงความรำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างของอุโบสถในวัดหลวงปรีชากูล โดยเป็นวัดที่พระปรีชากลการได้สร้างขึ้น <ref>รองศาสตราจารย์ ดร. ปราชญา กล้าผจัญ. '''เกร็ดฝอยพงศาวดารประวัติศาสตร์ไทย/โลก''' -- กรุงเทพฯ : ข้าวฝ่าง, 2546.</ref> <ref>สำนักเรียนธรรมศึกษา วัดหลวงปรีชากูล. (2560). ''ประวัติวัดหลวงปรีชากูล.'' https://sites.google.com/site/watluangpreechakul/home</ref>โดยในปัจจุบัน ศาลใหม่ได้ตั้งในบริเวณด้านหน้าของสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ส่วนศาลเดิมได้ขำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา