ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นครนิวยอร์ก"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 100:
| website = [http://www.nyc.gov/ www.nyc.gov]}}
 
'''นครนิวยอร์ก''' หรือที่นิยมเรียกกันว่า '''นิวยอร์กซิตี''' ({{lang-en|New York City}}; NYC) เป็น[[เมืองใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา|เมืองใหญ่ที่สุด]]ใน[[สหรัฐอเมริกา]] เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก เป็นมหานครเอกของโลก จัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางทาง[[เศรษฐกิจ]] [[การเงิน]] [[วัฒนธรรม]] [[บันเทิง]] ที่สำคัญที่สุดของ[[โลก]] เป็นเมืองที่มี [[ตึกระฟ้า]] ตึกสูงมาก ตลอดระยะเวลา 150 ปี และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่[[สหประชาชาติ|องค์การสหประชาชาติ]]
 
นิวยอร์กตั้งอยู่บริเวณชายฝั่ง[[มหาสมุทรแอตแลนติก]] ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ[[สหรัฐอเมริกา]] ประกอบด้วย 5 เขตปกครองที่เรียกว่า [[โบโรฮ์]] (Borough) คือ [[เดอะบรองซ์]] [[บรูคลิน]] [[แมนแฮตตัน]] [[ควีนส์]] และ[[สแตตัน ไอส์แลนด์]] ประชากรรวมทั้งหมดประมาณ 8,274,527 คน<ref name=100000plus>{{cite web | url = http://www.census.gov/popest/cities/tables/SUB-EST2007-01.csv | title = Annual Estimates of the Population for Incorporated Places Over 100,000, Ranked by July 1, 2007 Population: April 1, 2000 to July 1, 2007| format = [[comma-separated values|CSV]] | publisher = [[United States Census Bureau]], Population Division | date = 10 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 | accessdate = 31 สิงหาคม ค.ศ. 2008}}</ref> ภายในพื้นที่ 790 ตร.กม. (305 ตร.ไมล์) <ref name="NYC Land Estimate">{{cite web |publisher=New York City Department of City Planning |title=NYC Profile |url=http://home2.nyc.gov/html/dcp/pdf/lucds/nycprofile.pdf |accessdate=22 พฤษภาคม ค.ศ. 2008|format=PDF}}</ref><ref name="NYT Land Estimate">{{cite web |publisher=''[[The New York Times]]'' (22 พฤษภาคม ค.ศ. 2008) |title=It’s Still a Big City, Just Not Quite So Big |first=Sam |last=Roberts |url=http://www.nytimes.com/2008/05/22/nyregion/22shrink.html |accessdate=22 พฤษภาคม ค.ศ. 2008}}</ref><ref>[[Union City, New Jersey]] is more densely populated but has a population of 63,930.</ref><ref>{{cite web |url=http://www.demographia.com/db-2000city50kdens.htm |title=2000 Census: US Municipalities Over 50,000: Ranked by 2000 Density |publisher=Demographia |accessdate=1 กันยายน ค.ศ. 2008}}</ref><ref>{{cite web |publisher=U.S. Census Bureau |title=Annual Estimates of the Population of Combined Metropolitan Statistical Areas: April 1, 2000 to July 1, 2006 |url=http://www.census.gov/population/www/estimates/metro_general/2006/CBSA-EST2006-01.csv |archiveurl=http://web.archive.org/web/20080115171647/http://www.census.gov/population/www/estimates/metro_general/2006/CBSA-EST2006-01.csv |archivedate=1 มกราคม ค.ศ. 2008 |accessdate=1 กันยายน ค.ศ. 2008}}</ref> นอกจากจะเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดแล้ว สัดส่วนประชากรต่อพื้นที่ยังถือว่าหนาแน่นที่สุดใน[[สหรัฐอเมริกา]]
 
ลักษณะเฉพาะของนิวยอร์กที่แตกต่างไปจากเมืองอื่นของ[[สหรัฐอเมริกา]] มีให้เห็นหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ระบบขนส่งที่มีโครงข่ายขนาดใหญ่ ความเหมือนและความแตกต่างกันของประชากร ใน [[พ.ศ. 2548|ค.ศ. 2005]] มี[[ภาษา]]ประมาณ 170 ภาษาที่ใช้กันในเมืองแห่งนี้ และ 36% ของประชากรไม่ได้เกิดและโตใน[[สหรัฐอเมริกา]]<ref name="languages in NYC">{{cite web |publisher=[[New York State Comptroller|New York State Office of the State Comptroller]] |title=Queens: Economic Development and the State of the Borough Economy |month=June | year=2006 |url=http://www.osc.state.ny.us/osdc/rpt3-2007queens.pdf |format=PDF |accessdate=1 กันยายน ค.ศ. 2008}}</ref><ref name="NYC immigration">{{cite web |title=The Newest New Yorkers: 2000 |publisher=[[New York City Department of City Planning]] |year=2005 |url=http://www.nyc.gov/html/dcp/pdf/census/nny_briefing_booklet.pdf |format=PDF |accessdate=1 กันยายน ค.ศ. 2008}}</ref> ระบบ[[รถไฟใต้ดินนครนิวยอร์ก]]ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง บวกกับการจราจรและผู้คนที่พลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา จึงมีคำเปรียบเปรยถึงนิวยอร์กว่าเป็น “เมืองที่ไม่เคยหลับใหล” ขณะเดียวกันเมืองแห่งนี้ยังมีชื่อเล่นอื่นๆ อีกด้วยอย่าง “กอร์ทเทม” (Gotham) และ “บิ๊กแอปเปิล” (Big Apple) <ref>[http://www.gothamcenter.org/faq.shtml Nicknames for Manhattan]</ref><ref>Irving's mocking ''Salmagundi Papers'', 1807, noted by Edwin G. Burrows and Mike Wallace, ''Gotham: A History of New York to 1898'' (Oxford) 1999:xii.</ref>
 
[[ชาวดัชต์]]ถือเป็นผู้คนกลุ่มแรกที่เข้ามาเริ่มปักหลัก[[ทำการค้า]]ใน [[พ.ศ. 2167|ค.ศ. 1624]] ซึ่งนั่นได้ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของ[[สหรัฐอเมริกา]]ตั้งแต่ [[พ.ศ. 2328|ค.ศ. 1785]] จนกระทั่ง [[พ.ศ. 2333|ค.ศ. 1790]]<ref name=senate>{{cite web|url=http://www.senate.gov/reference/reference_item/Nine_Capitals_of_the_United_States.htm|title=The Nine Capitals of the United States |publisher=[[United States Senate]]|accessdate=7 กันยายน ค.ศ. 2008}}</ref> และเคยเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ ค.ศ. 1790 [[เทพีเสรีภาพ]] (Statue of Liberty) ได้ให้การตอนรับผู้มาเยือนหลายล้านคน ที่เดินทางมายัง[[สหรัฐอเมริกา]] ในช่วงปลาย[[ศตวรรษที่ 19]] จนกระทั่งต้น[[ศตวรรษที่ 20]] [[วอลล์สตรีท]] (Wall Street) ที่ตั้งอยู่ในแมนแฮตตันตอนใต้ ก็ถือเป็นศูนย์กลางที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินของโลกมาตั้งแต่[[สงครามโลกครั้งที่ 2]] และเป็นที่ตั้งของ[[ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก]] (NYSE: New York Stock Exchange) ในปัจจุบัน นิวยอร์กมีสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของโลกหลายแห่ง รวมทั้งตึกที่เคยสูงที่สุดในโลกอย่าง[[ตึกเอ็มไพร์สเตท]] (Empire State Building)
 
นิวยอร์กยังเป็นบ้านเกิดของวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานวรรณกรรมและทัศนศิลป์ที่เรียกว่า ฮาเล็ม เรอเนสซองค์ (Harlem Renaissance) งานภาพเขียนที่เรียกว่า[[ศิลปะกึ่งนามธรรม]] (Abstract Expressionism) หรือที่รู้จักกันว่า “นิวยอร์กสคูล” วัฒนธรรมทางดนตรีอย่าง [[ฮิปฮอป]]<ref name = "Toop-RapAttack2">{{cite book |first=David |last=Toop |title=Rap Attack 2: African Rap to Global Hip Hop|publisher=Serpents Tail |year=1992 |isbn=1852422432}}</ref> [[พังค์]]<ref>{{cite web |url=http://www.scaruffi.com/politics/american.html |accessdate=1 กันยายน ค.ศ. 2008 |title=A timeline of the USA |first=Piero |last=Scaruffi}}</ref> ซัลซ่า และ[[ดิสโก้]] รวมทั้งยังเป็นบ้านเกิดของ[[ละครบรอดเวย์]]อีกด้วย</br>
 
== ประวัติ ==
บรรทัด 116:
[[ไฟล์:Castelloplan.jpg|thumb|230px|[[แมนแฮตตัน]]ส่วนใต้ใน [[พ.ศ. 2203|ค.ศ. 1660]] ขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของนิวอัมสเตอร์ดัม]]
 
[[พ.ศ. 2157|ค.ศ. 1614]] ชาวยุโรปได้เข้ามาตั้งรกรากอย่างจริงจัง โดยเริ่มก่อตั้งชุมชนค้า[[ผ้าขนสัตว์]]ของชาวดัตช์ และเรียกดินแดนแห่งนี้ว่า "[[นิว นีเดอร์แลนด์]]" (“Nieuw Nederland” ในภาษาดัตช์) เรียก[[ท่าเรือ]]และเมืองในตอนใต้ของเกาะแมนแฮตตันว่า “นิวอัมสเตอร์ดัม” (Nieuw Amsterdam ในภาษาดัตซ์) มี Peter Minuit เป็นผู้ปกครองอาณานิคมนี้ ซึ่งต่อมาเขาได้ซื้อเกาะแมนแฮตตันทั้งหมดจากชนพื้นเมือง ใน [[พ.ศ. 2169|ค.ศ. 1626]] มูลค่าทั้งหมด 60 [[กิลเดอร์]] (Guilders) หรือประมาณ $1,000 ในปัจจุบัน (ค.ศ. 2006) <ref> {{cite web|url=http://www.iisg.nl/hpw/calculate.php |title=Value of the Guilder / Euro |accessdate=19 สิงหาคม ค.ศ. 2008 |publisher=International Institute of Social History }}</ref> แต่ต่อมามีข้อพิสูจน์ว่าไม่จริง กล่าวคือ เกาะแมนฮัตตันถูกซื้อไปด้วยลูกปัดที่ทำจากแก้วในราคา $24<ref>The message of the purchase, which was sent to Amsterdam, is present in the National Archive in The Hague.</ref> ก่อนที่อังกฤษจะเข้ายึดครองเป็นอาณานิคมของตนใน [[พ.ศ. 2207|ค.ศ. 1664]] และเปลี่ยนชื่อเมืองใหม่ว่า “'''นิวยอร์ก'''” เพื่อเกียรติให้กับ "[[ดยุคแห่งยอร์ค]]และอัลแบนี" (English Duke of York and Albany) ขณะนั้นคือ[[สมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ]]<ref>{{cite book |title=The Historical Atlas of New York City: A Visual Celebration of 400 Years of New York City's History |author=Homberger, Eric |year=2005 |page=34 |publisher=Owl Books |isbn=0805078428}}</ref> ในช่วงปลาย[[สงครามแองโกล-ดัตช์ครั้งที่ 2]] [[ชาวเนเธอร์แลนด์]]ได้ยึดครอง[[รัน (เกาะ)|เกาะรัน]] ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ[[ประเทศอินโดนีเซีย]]ปัจจุบัน และเป็นสิ่งที่มีค่ามากในขณะนั้น แลกกับการให้อังกฤษยึดครองนิวอัมสเตอร์ดัม หรือนิวยอร์กในดินแดนอเมริกาเหนือ ส่งผลให้ต่อมาใน [[พ.ศ. 2243|ค.ศ. 1700]] ประชากรชาวเลนาเปลดลงเหลือเพียง 200 คน<ref>[http://www.gothamcenter.org/ "Gotham Center for New York City History"] Timeline 1700-1800</ref>
 
ภายใต้กฎระเบียบของอังกฤษ นิวยอร์กได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วกลายเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ที่สำคัญอย่างยิ่ง ใน [[พ.ศ. 2297|ค.ศ. 1754]] มีการก่อตั้ง[[มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย]] ที่ได้รับสิทธิจาก[[สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งบริเตนใหญ่]] เช่นเดียวกับ มหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ (King's College) ที่แมนแฮตตันตอนใต้ ก่อนที่จะเกิด[[การปฏิวัติอเมริกา]] (American Revolution War) เนื่องจากอาณานิคมทั้งสิบสามที่อยู่ภายใต้การปกครองของ[[อังกฤษ]]ต้องการแยกตัวออกเป็นอิสระ และได้ทำการประกาศอิสรภาพในวันที่ 4 กรกฎาคม 1776 นำโดย[[จอร์จ วอชิงตัน]] ผู้บัญชาการกองทัพภาคพื้นทวีปของฝ่ายอาณานิคม (Continental Army) มีการรบกับกองทัพอังกฤษทางตอนเหนือของ[[แมนแฮตตัน]] และ[[บรูคลิน]] จนกระทั่งสงครามได้สิ้นสุดลงใน [[พ.ศ. 2326|ค.ศ. 1783]] โดยชัยชนะเป็นของอดีตอาณานิคม