ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สถานีกรุงเทพ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 67:
'''สถานีรถไฟหัวลำโพง''' ซึ่งคำว่า '''หัวลำโพง''' สันนิษฐานว่าตั้งชื่อตามคลองและทุ่งที่มีฝูงวัวที่วิ่งกันคึกคัก ที่เรียกว่า ทุ่งวัวลำพอง และได้เพี้ยนเสียงมาเป็น หัวลำโพง บ้างก็สันนิษฐานว่าเป็นชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่งคือ [[ต้นลำโพง]] ซึ่งเคยมีมากในบริเวณนี้
 
สถานีนี้เริ่มสร้างในสมัย [[รัชกาลที่ 5]] ในปี [[พ.ศ. 2453]] สร้างเสร็จและเริ่มใช้งาน วันที่ [[25 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2459]] ในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 สถานีรถไฟหัวลำโพงกรุงเทพ เดิมเป็นสถานีที่ให้บริการทั้งด้านการขนส่งสินค้า และขนส่งมวลชน ต่อมาการขยายตัวในด้านการโดยสารและขนส่งสินค้ามีมากขึ้น แต่ด้วยพื้นที่อันจำกัดเพียง 120 ไร่ จึงทำให้ต้องย้ายกิจการขนส่งสินค้าไปอยู่ที่ย่านสินค้าพหลโยธิน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 และทำการปรับปรุงสถานีรถไฟหัวลำโพงกรุงเทพให้เป็นสถานีรถไฟสำหรับบริการด้านขนส่ง มวลชนเพียงอย่างเดียว เพื่อสามารถรองรับผู้โดยสารจากทั่วทุกสารทิศของประเทศ
 
ตัวสถานีแบ่งเป็นสองส่วนหลัก ได้แก่ อาคารมุขหน้า มีลักษณะเหมือนระเบียงยาว และอาคารโถงสถานีเป็นอาคารหลังคาโค้งขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิก (Classicism) คือ เป็นงานเลียนแบบสถาปัตยกรรมโบราณของกรีก - โรมัน จุดเด่นของสถานีหัวลำโพงอีกอย่างหนึ่งคือ กระจกสีที่ช่องระบายอากาศ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังซึ่งประดับไว้อย่างผสมผสานกลมกลืนกับตัวอาคาร เช่นเดียวกับนาฬิกาบอกเวลาซึ่งติดตั้งไว้กลางส่วนโค้งของอาคารด้านในและด้าน นอก โดยเป็นนาฬิกาที่สั่งทำขึ้นพิเศษเป็นการเฉพาะ ไม่ระบุชื่อบริษัทผู้ผลิตเหมือนนาฬิกาทั่วๆ ไป
บรรทัด 73:
บริเวณที่พักผู้โดยสารเป็นห้องโถงชั้นครึ่ง ชั้นล่างซึ่งมีที่นั่งจำนวนมาก มีร้านค้าหลากหลาย ได้แก่ ร้านอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ผลไม้ ขนมปัง ไอศกรีม หนังสือ ร้านขายยา ฯลฯ ก่อนถึงห้องจำหน่ายตั๋วล่วงหน้ายังมีห้องละหมาดอีกด้วย เหนือห้องประชาสัมพันธ์มีจอภาพขนาด 300 นิ้ว ควบคุมด้วยระบบ DOLBY DIGITAL ฉายเรื่องราวเกี่ยวกับการรถไฟ ส่วนชั้นลอย มีที่นั่งไม่มากนัก มีบริษัททัวร์ บริษัทรับจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา และร้านกาแฟ
 
ที่ผนังด้านซ้ายและขวาของสถานีหัวลำโพงกรุงเทพมีภาพเขียนสีน้ำ เป็นภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ของประเทศ อาทิ พระบรมมหาราชวัง ตลาดน้ำ เขาวัง ภูกระดึง หาดสมิหลา ฯลฯ นอกจากนี้ที่ด้านหน้าสถานีมีสวนหย่อมและน้ำพุสำหรับประชาชน โดยข้าราชการรถไฟได้รวบรวมทุนทรัพย์จัดสร้างอนุสาวรีย์น้อมเกล้าฯ อุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระพุทธเจ้าหลวง อนุสาวรีย์ที่ว่านี้เป็นรูป “ช้างสามเศียร” มีพระบรมรูปของ[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] แกะสลักเป็นภาพนูนสูงประดิษฐานอยู่ด้านบน
 
กิจการรถไฟในปัจจุบัน มีเส้นทางที่ออกจากสถานีหัวลำโพง จำนวน 4 สาย ได้แก่
* [[ทางรถไฟสายเหนือ]] ต้นทางอยู่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงกรุงเทพ ปลายทาง [[สถานีรถไฟเชียงใหม่]] ระยะทาง 751.42 กิโลเมตร
* [[ทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ]] ต้นทางอยู่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงกรุงเทพ เมื่อถึงสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระจะแยกออกเป็น 2 สาย ดังนี้
** ปลายทาง[[สถานีรถไฟอุบลราชธานี]] ระยะทาง 575.10 กิโลเมตร
** ปลายทาง[[สถานีรถไฟหนองคาย]] ระยะทาง 621.10 กิโลเมตร
* [[ทางรถไฟสายตะวันออก]] ต้นทางสถานีรถไฟหัวลำโพงกรุงเทพ เมื่อถึงสถานีรถไฟชุมทางฉะเชิงเทราแล้วแยกออกเป็น 2 สาย คือ
** ปลายทาง[[สถานีรถไฟอรัญประเทศ]] ระยะทาง 254.50 กิโลเมตร
** ปลายทาง[[สถานีรถไฟบ้านพลูตาหลวง]] ระยะทาง 184.03 กิโลเมตร
* [[ทางรถไฟสายใต้]]ต้นทางสถานีหัวลำโพงกรุงเทพ และสถานีธนบุรีเมื่อถึงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่แล้วแยกออกเป็น 2 สาย คือ
** ปลายทาง[[สถานีรถไฟบัตเตอร์เวอร์ธ]] ประเทศมาเลเซีย ระยะทาง 973.84 กิโลเมตร (นับถึง[[สถานีรถไฟปาดังเบซาร์]])
** ปลายทาง[[สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก]] ระยะทาง 1,142.99 กิโลเมตร
 
สถานีรถไฟหัวลำโพงกรุงเทพในปัจจุบัน มี[[สถานีหัวลำโพง (รถไฟฟ้ามหานคร)|สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน]]ให้บริการอยู่ภายในชั้นใต้ดินของสถานีรถไฟ
 
== แผนผังสถานี ==