ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิกฤตการณ์ปากน้ำ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
คีโต (คุย | ส่วนร่วม)
คีโต (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 30:
 
== ยุทธนาวี ==
วันที่ 13 กรกฎาคม ร.ศ. 112 (พ.ศ.2436) หมู่เรือรบฝรั่งเศสมาถึงสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาเวลา 17.00 น. โชคเข้าข้างฝรั่งเศสเมื่อฝนตกเกือบหนึ่งชั่วโมง พอแสงสุดท้ายเริ่มจางหายเรือรบเหล่านั้นก็แล่นเข้าสู่เจ้าพระยาโดยมีเรือกลไฟนำร่องฌองบัปติสต์เซย์ (Jean Baptist Say) เรือสินค้าเป็นเรือนำร่อง ติดตามด้วยเรือแองคองสตังต์ และเรือโคแมตเป็นขบวนเรียงตามกัน เข้าสู่ปากแม่น้ำ เมื่อเวลา 18.15 น. ทหารในป้อมพระจุลจอมเกล้าก็เริ่มยิงเพื่อเป็นสัญญาณเตือน 3 นัด แต่เรือรบฝรั่งเศสก็ยังคงแล่นเรื่อยมาอย่างเดิม จึงได้เริ่มระดมยิงตอบโต้กัน เรือรบฝ่ายไทยมีเรือมกุฎราชกุมาร, เรือมูรธาวสิตสวัสดิ์, เรือหาญหักศัตรู, เรือนฤเบนทร์บุตรี, เรือทูลกระหม่อม
ฝรั่งเศสเลือกที่จะเข้าปากแม่น้ำหลังพระอาทิตย์ตกดินในวันที่ 13 กรกฎาคม โดยมีวัตถุประสงค์คือแล่นผ่านการป้องกันของสยามให้ได้ถ้ามีการเปิดฉากยิงกันขึ้น สภาพอากาศครึ้มฝน ขณะนั้นสยามได้ประจำสถานีรบและเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด เรือรบฝรั่งเศสได้แล่นตามเรือกลไฟนำร่องฌองบัปติสต์เซย์ (Jean Baptiste Say) เข้าสู่ปากแม่น้ำ เมื่อเวลา 18.15 น. ฝนหยุดตก ทหารในป้อมสังเกตเห็นเรือรบฝรั่งเศสแล่นผ่าน[[ประภาคาร|กระโจมไฟ]] สองสามนาทีหลังจากนั้นเรือฝรั่งเศสแล่นผ่านทุ่นดำเข้ามาในระยะยิงของป้อม ทหารประจำป้อมได้รับคำสั่งให้ยิงเตือน 3 นัด แต่ถ้าฝรั่งเศสเพิกเฉยเรือปืนจะเปิดฉากยิง
 
ความแม่นยำในการยิงของฝ่ายไทยน้อยและอาวุธที่ยิงได้ช้ากว่า ตอร์ปิโดระเบิดก่อนเวลาอันสมควร ทุ่นกีดขวางไม่เพียงพอ ฝ่ายฝรั่งเศสจึงสามารถฝ่าด่านต่างๆของสยามเข้ามาได้ในความมืด เรือรบทั้งสองลำมีความเสียหายจากรอยกระสุนปืนแต่ก็ได้เข้ามาทอดสมออยู่ใกล้กับสถานทูตฝรั่งเศส ฝ่ายสยามเตรียมที่จะนำเรือพระที่นั่งมหาจักรีมาต่อสู้ แต่ก็ไม่ได้รับความเห็นชอบจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ
เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายลง ฝ่ายไทยระบุว่ามีทหารเสียชีวิต ๘ คน และบาดเจ็บ ๔๐ คน ฝ่ายฝรั่งเศสมีทหารตาย ๓ คน บาดเจ็บ ๓ คน
 
 
เวลา 18.30 น. ป้อมปืนเปิดฉากยิงเตือนด้วยกระสุนเปล่า 2 นัด แต่เรือรบฝรั่งเศสยังคงแล่นต่อไป ในนัดที่สามสยามได้ใช้กระสุนจริงยิงเตือน กระสุนตกลงในน้ำหน้าเรือฌองบัปติสต์เซย์ เมื่อเห็นฝรั่งเศสเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือน นัดที่สี่จากเรือปืน มกุฎราชกุมาร และ มูรธาวสิตสวัสดิ์ ก็เปิดฉากยิงเมื่อเวลา 18.50 น. เรือแองกองสตองได้ยิงตอบโต้กับป้อมในขณะที่โกแมตยิงสู้กับเรือปืนสยาม มีเรือขนาดเล็กที่บรรจุระเบิดถูกส่งมาพุ่งชนเรือฝรั่งเศสแต่พลาดเป้า การต่อสู้กินเวลาประมาณ 25 นาที