ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยุทธการที่ทุ่งราบอู่จ้าง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 18:
{{สงครามสามก๊ก}}
 
'''ศึกอู่จั้งหยวน''' ({{lang-en|Battle of Wuzhang Plains}} ; {{Zh-all|t=五丈原之戰|p=Wu Zhàng Zhi Zhàn}}) เป็นหนึ่งใน[[ศึกสงครามในสามก๊ก]] จาก[[วรรณกรรม]][[จีน]]อิง[[ประวัติศาสตร์]] เรื่อง[[สามก๊ก]] เกิดขึ้นในระหว่าง[[เดือนเมษายน]]ถึง[[ฤดูใบไม้ร่วง]] [[ค.ศ. 234]] บริเวณที่[[ราบอู่จั้ง]] ใน[[มณฑลส่านซี]] ศึกอู่จั้งหยวนเป็นหนึ่งใน[[การบุกขึ้นเหนือของจูกัดเหลียง|ศึกสงครามการบุกทางเหนือของขงเบ้ง]] โดยมีขงเบ้งและสุมาอี้เป็นแม่ทัพ ซึ่งผลของศึกอู่จั้งหยวนคือวุยก๊กเป็นฝ่ายชนะ จ๊กก๊กแตกพ่ายถอยหนีและเป็นการบัญชาศึกบัญชาการสงครามครั้งสุดท้ายของขงเบ้ง
 
== จุดเกิดของสงคราม ==
ศึกอู่จั้งหยวนเกิดขึ้นจากภายหลังที่ขงเบ้งซ่องสุมเตรียมกำลังทหารและไพร่พลจำนวนมากในระยะเวลาสามปี เพื่อนำทัพบุกวุยก๊กเป็นครั้งที่หกและเลือกใช้เส้นทางเดินทัพเดิมคือหุบเขากิสาน ซึ่งการเลือกเส้นทางเดินทัพในครั้งนี้กลับเป็นผลร้ายแก่ขงเบ้ง เมื่อสุมาอี้นำกำลังทหารออกมาตั้งรับและสกัดดักจับตัวขงเบ้ง<ref name="ศึกอู่จั้งหยวน">ศึกอู่จั้งหยวน สงครามสามก๊ก, ศึกสงครามในสามก๊ก-อินไซด์สามก๊ก, กัญจน์ดามาศ โกพล, สำนักพิมพ์ดอกหญ้า, พ.ศ. 2550, หน้า 208, ISBN 978-974-690-595-4</ref>
 
ในวรรณกรรม สุมาอี้ถูกขงเบ้งหลอกให้ติดอยู่ช่องเขาและถูกใช้ไฟเผากองทัพพร้อมกับ[[สุมาสู]]และ[[สุมาเจียว]] ผู้เป็นบุตรชายทั้งสอง แต่ทว่าฝนเกิดตกลงมาอย่างไม่คาดคิด ทำให้ทั้งสามรอดชีวิตออกไปได้ นับตั้งแต่นั้นสุมาอี้คิดขยาดขงเบ้ง ได้แต่ตั้งค่ายป้องกันเพียงอย่างเดียว ไม่ได้สั่งให้ทหารออกไปสู้ แม้ว่าทางฝ่ายขงเบ้งจะให้[[อุยเอี๋ยน]]ไปส่งเสียงท้าถึงหน้าค่าย รวมถึงส่งอาภรณ์ผู้หญิงไปให้สุมาอี้ด้วย แต่สุมาอี้ก็ไม่คิดใส่ใจ จนกระทั่งขงเบ้งป่วยหนัก ซึ่งขงเบ้งรู้ตัวว่าชีวิตตนเองใกล้จะจบลงแล้ว จึงได้ทำพิธีต่อชะตาอายุตนเอง ด้วยการภาวนาท่องมนต์ตามลำพังในกระโจม และจุดตะเกียงไว้รอบตัว ถ้าหากว่าตะเกียงยังคงสว่างไสวได้ตลอด 7 วัน ก็หมายถึงว่า อายุของขงเบ้งก็จะต่อออกไปได้อีกช่วงหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้มีผู้รู้น้อยรายเพราะขงเบ้งไม่ต้องการให้สุมาอี้ล่วงรู้ หนึ่งในนั้นคือ [[เกียงอุย]] ซึ่งเป็นนายทหารคนสนิท พิธีดำเนินมาด้วยดีติดต่อกันได้เกือบ 7 วัน จะครบกำหนดแล้ว ฝ่ายสุมาอี้เห็นผิดปกติที่กองทัพจ๊กก๊กไม่ออกมาส่งเสียงท้าทายหน้าค่ายเหมือนเคย จึงสงสัย และได้ตรวจดูดวงดาวบนท้องฟ้า พบว่าดาวประจำตัวของขงเบ้งอับแสงเต็มที จึงคาดเดาออกว่าขงเบ้งคงใกล้จะสิ้นชีพ จึงให้ยกกองทัพไปที่ค่ายจ๊กก๊กเพื่อสำรวจและเข้าโจมตีถ้ามีโอกาส อุยเอี๋ยนซึ่งไม่ทราบเรื่องพิธีต่ออายุ ได้พุ่งพรวดเข้าไปรายงานถึงในกระโจม ทำให้ตะเกียงที่จุดอยู่นั้นดับลง ขงเบ้งร้องเสียงหลงว่า ชีวิตเราคงจะสิ้นสุดลงแล้ว เกียงอุยโมโหอุยเอี๋ยน ถือกระบี่ปราดเข้าไปหมายจะสังหาร แต่ขงเบ้งได้ห้ามไว้พร้อมกล่าวว่า ไม่ใช่ความผิดของอุยเอี๋ยนหรอก เป็นชะตาของเราเอง จากนั้นมาขงเบ้งก็ป่วยหนัก และได้สั่งเสียต่าง ๆ พร้อมทั้งส่งมอบตำราพิชัยสงครามทั้งหมดแก่เกียงอุย โดย[[พระเจ้าเล่าเสี้ยน]]เมื่อทราบข่าว ก็ได้ให้[[ลิฮก]]ไปถามว่า หากท่านสิ้นไปแล้วจะให้ผู้ใดรับตำแหน่ง[[อัครมหาเสนาบดี (ประเทศจีน)|อัครมหาเสนาบดีแห่งจ๊กก๊ก]] ขงเบ้งตอบว่า[[เจียวอ้วน]] และต่อจากเจียวอ้วนคือ[[บิฮุย]] หลังจากนั้นขงเบ้งก็สิ้นใจลง สิริอายุได้ 52 ปี กองทัพจ๊กก๊กจึงต้องยกกลับ
 
ก่อนหน้าที่ขงเบ้งจะสิ้นใจ ได้วางแผนจัดการกับสุมาอี้ ซึ่งเมื่อทราบข่าวจะต้องบุกตามมาตีเป็นแน่ ด้วยการสั่งให้นำศพของตนบรรจุลงในลักษณะนั่งในโลงแทนที่จะนอน และให้ใส่ข้าวสารในปากสามเมล็ด พร้อมทั้งจุดตะเกียงไว้ใต้ที่นั่ง เพื่อรักษาให้ดาวประจำตัวยังคงอยู่บนท้องฟ้า และได้ให้ทหารทำหุ่นไม้และรถม้าของตนขึ้นมาสามตัว เพื่อหลอกสุมาอี้ ซึ่งเมื่อสุมาอี้ได้ยกทัพมา ก็ได้มีการหลอกสุมาอี้เช่นนั้นจริงทั้งสามทาง ทำให้สุมาอี้ตกใจกลัวด้วยไม่รู้ว่า ขงเบ้งจะมาทางทิศไหนกันแน่ จึงยกทัพหนี พร้อมกันนั้นยังได้นัดหมายให้[[ม้าต้าย]] และ[[เอียวหงี]] จัดการสังหารอุยเอี๋ยน ซึ่งขงเบ้งมองออกว่าจะทำตัวเป็นกบฏหลังจากตนสิ้นชีพไปแล้ว ซึ่งอุยเอี๋ยนก็กระทำเช่นนั้นจริง ด้วยการตั้งตนเป็นอิสระไม่ขึ้นแก่ผู้ใด ม้าต้ายแสร้งทำเป็นสวามิภักดิ์ด้วย พร้อมยกยอให้อุยเอี๋ยนมีบุญวาสนาเหมาะกับเป็นจักรพรรดิ์องค์ต่อไป อุยเอี๋ยนซึ่งกำลังลำพองไม่ทันได้ระวังตัว จึงโดนม้าต้ายซึ่งชักม้ามาอยู่เคียงข้างฟันด้วยกระบี่ขาดใจตายทันที