ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ราชวงศ์หยวน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Shoshui (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Shoshui (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 89:
[[ไฟล์:Mongol Empire map.gif|thumb|350px|เขตแดนของจักรวรรดิจีนสมัยราชวงศ์หยวน]]
[[ไฟล์:FFM-SeladonTopf02.JPG|thumb|200px|เครื่องปั้นดินเผา สมัยราชวงศ์หยวน]]
'''ราชวงศ์หยวน''' ({{Zh-all|c=元朝|p=Yuáncháo}}; ''หยวนเฉา'') (พ.ศ. 1814 - 1911) คือหนึ่งใน[[ราชวงศ์]]ของ[[จักรวรรดิจีน]] ก่อตั้งขึ้นเมื่อ[[กุบไลข่าน]]ผู้นำเผ่า[[ชาวมองโกล]] ได้โค่นอำนาจ[[ราชวงศ์ซ่ง]]ลง แล้วเปิดศักราชชาวมองโกลครอง[[ประเทศจีน]]

ชาวมองโกลได้เข้ายึดครอง[[ภาคเหนือของจีน]]เป็นเวลากว่าทศวรรษ ได้มีความพยายาม'''เปลี่ยนเป็นจีน''' ตั้งแต่สมัย [[มองเกอ ข่าน]] พระเชษฐาของกุบไลข่าน แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งในสมัยของ[[กุบไลข่าน]] ในปี ค.ศ. 1271 เมื่อมองโกลโค่นราชวงศ์ซ่งลงได้สำเร็จและยึดครองดินแดนจีนได้ทั้งหมด กุบไลข่านได้ประกาศตั้งราชวงศ์แบบจีนขึ้นอย่างเป็นทางการ{{sfn|Mote|1994|p=624}} มีการตั้งกรุง[[ปักกิ่ง]]เป็นเมืองหลวง (สมัยนั้นชื่อว่า เมืองต้าตู) ทรงตั้งความหวังจะเป็นกษัตริย์ที่ดี จึงปกครองอย่างสุขุมรอบคอบ เอาใจใส่ประชาชน จึงสามารถชนะใจชาวจีนได้ และเป็นจักรพรรดิมองโกลพระองค์เดียว ที่ชาวจีนยอมรับ (เดิมทีนั้น พวกมองโกลขึ้นชื่อลือชามากในเรื่องความโหด ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากวิถีชีวิตเดิม ที่อยู่ในทุ่งหญ้า [[ทะเลทราย]] เร่ร่อนไปเรื่อย ๆ) นอกจากนี้ กุบไลข่านยังพยายามขยายดินแดนไปกว้างไกลมาก ถึงกับยกทัพเรือจะไปตี[[ญี่ปุ่น]] แต่เรือถูกมรสุมจึงไม่สำเร็จ
 
กุบไลข่านสนใจทาง[[อักษรศาสตร์]]และ[[วรรณกรรม]]มาก จึงส่งเสริมบทประพันธ์ต่างๆ ปรากฏว่า บท[[งิ้ว]]ในสมัยกุบไลข่านดีมาก จนไม่มีบทงิ้วสมัยใดเทียบได้ การติดต่อกับต่างประเทศ ก็เป็นไปด้วยดี ไม่ว่าจะเป็น[[มาร์โคโปโล]]และ[[เอกอัครสมณทูต]]จาก[[สันตะสำนัก]]ก็ได้มาเยือนแดนจีนในยุคของกุบไลข่านนี่เอง
เส้น 96 ⟶ 98:
 
ครั้งนั้น มีชายผู้หนึ่งชื่อ [[จักรพรรดิหงหวู่|จูหยวนจาง]] ตอนอายุได้ 17 ปี ครอบครัวได้ตายหมดจากโรคระบาด จึงไปบวชที่วัดหวงเจี๋ย ต่อมา ไปเร่ร่อนต่ออีก 3 ปี เนื่องจากเสบียงอาหารหมด แล้วจึงกลับมาที่วัดดังเดิม ครั้นสาวก[[ลัทธิบัวขาว]]ก่อ[[กบฏโพกผ้าแดง]]ขึ้น เขาก็เดินทางไปสมทบกับพวกกบฏ เริ่มนำทัพออกตีก๊กต่างๆ ในแผ่นดิน แล้วในที่สุดก็ได้ส่งแม่ทัพชื่อสีต๋า ไปตีเมืองปักกิ่งได้สำเร็จ เป็นการโค่นล้มราชวงศ์หยวนลงได้ จากนั้นเขาก็ได้ตั้ง[[ราชวงศ์หมิง]]ขึ้น สถาปนาตนเองเป็น'''[[จักรพรรดิหงหวู่]]''' ใช้เมือง[[หนานจิง]]เป็นเมืองหลวง
== ชื่อ ==
{{ดูเพิ่ม|อี้จิง|อาณัติแห่งสวรรค์}}
 
ก่อนหน้านี้ชาวมองโกลมีจักรวรรดิของตนที่ชื่อ ('''อิค มองกูล อูลุส''') ('''Ikh Mongol Uls''') (''ikh'': ยิ่งใหญ่, ''uls'': รัฐ, ประเทศ; รัฐมองโกลอันยิ่งใหญ่)<ref>Sanders. p. 300.</ref> หรือ [[จักรวรรดิมองโกล]] ที่ยังไม่ได้ครอบครองดินแดนจีนของ[[ราชวงศ์ซ่ง]] จนในรัชสมัยของ[[มองเกอ ข่าน]] (ค.ศ. 1251– 1259) พระเชษฐาของกุบไลข่าน นำกองทัพบุกดินแดนจีนตอนล่างของราชวงศ์ซ่งและประกาศ[[อาณัติแห่งสวรรค์]] มองเกอ ข่านได้รับเอาอิทธิพลจาก[[วัฒนธรรมจีน]] มาใช้และตั้งชื่อเรียกจักรวรรดิว่า "จีน" ({{linktext|中}}{{linktext|國}}, ''จงกั๋ว''; ที่แปลว่า "อาณาจักรศูนย์กลางของโลก") ถือว่าเป็นอาณาจักรที่เป็นศูนย์กลางของโลกและจักรวาล เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม ตรงกับภาษามองโกล คำว่า ''ดุมต้าตู อูลุส'' (''Dumdadu ulus'') [[File:China in Mongolian.svg|30px]] มองเกอ ข่านได้พยายามประกาศใช้[[ภาษาจีน]]เป็นภาษากลางในการติดต่อสื่อสารในดินแดนที่ยึดได้ และเรียกราษฎรในจักรวรรดิว่า '''ชาวจีน''' (中國人 ''จงกั๋ว จื้อ เริน''; ภาษามองโกล: ''ดุมต้าตูชูต'') เพื่อความเป็นเอกภาพและหนึ่งเดียว ซึ่งทำให้ดินแดนที่อยู่ใต้อาณัติของมองโกลไม่พอใจและทำให้จักรวรรดิแตกแยกในเวลาต่อมา
 
ในปี ค.ศ. 1271 (พ.ศ. 1814) [[กุบไลข่าน]]ได้ประกาศตั้งชื่อจักรวรรดิใหม่ว่า '''ต้าหยวน''' ({{zh |c = 大元 |p = Dà Yuán |w = Ta-Yüan}}) หรือ '''ราชวงศ์หยวน'''<ref name="CivilSociety">"Civil Society in China: The Legal Framework from Ancient Times to the 'New Reform Era'", p39, note 69.</ref> "ต้าหยวน" (大元) มาจากประโยคหนึ่งของจีนที่ว่า "{{lang|zh|大哉乾元}}" (ดา ไจ๋ เคี้ยงหยวน / "เคี้ยงนั้นยิ่งใหญ่, เป็นปฐม") ใน ซึ่งคำว่า "[[เคี้ยง (แฉก)|เคี้ยง]]" ({{linktext|乾}}) เป็นแฉกแรกของศาสตร์[[อี้จิง]]<ref>{{cite book |title = [[Ten Wings|Commentaries]] on the [[I Ching|Classic of Changes]] (《易傳》) |chapter = 《易·乾·彖傳》 |quote = 《彖》曰:大哉乾元,萬物資始,乃統天。}}</ref><ref name="Proclamation">{{citation |author = [[Kublai Khan]] |date = December 18, 1271 |title = 《[[s:zh:建國號詔|建國號詔]]》}} (collected in the ''Statutes of the Yuan'' (《元典章》))</ref> ตรงกับ[[ภาษามองโกล]]ที่ว่า ''ได ออน อูลุส'' (''Dai Ön Ulus'') นอกจากนี้คำว่า ''อิค หยวน อูลุส'' (''Ikh Yuan Üls'') หรือ ''เยเคอ หยวน อูลุส'' (''Yekhe Yuan Ulus'') ในภาษามองโกลคำว่า ''ไดออน'' (''Dai Ön'') เป็นคำทับศัพท์[[ภาษาจีน]]คำว่า ต้าหยวน มักจะใช้ร่วมกับคำว่า "เยเคอ มองกูล อูลุส" ("Yeke Mongghul Ulus") (ที่แปลว่า "รัฐมองโกลอันยิ่งใหญ่") บางครั้งมีการประสมเป็นคำว่า ''ได ออน เยเคอ มองกูล อุลุส'' (''Dai Ön Yeke Mongghul Ulus'')<ref name="mname">"The Early Mongols: Language, Culture and History" by Volker Rybatzki & Igor de Rachewiltz, p116</ref> ([[อักษรมองโกล]]: [[File:Dai Ön Yeke Mongghul Ulus.PNG|80px]]), แปลว่า "รัฐหยวนมองโกลอันยิ่งใหญ่"<ref>{{cite web |url = http://www.thefamouspeople.com/profiles/kublai-khan-4344.php |title = Kublai Khan Biography - Childhood, Life Achievements & Timeline |website = Thefamouspeople.com |date = |accessdate = 2016-05-27}}</ref>
 
ราชวงศ์หยวนเป็นที่รู้จักของชาวตะวันตกในฐานะ "ราชวงศ์มองโกล"<ref>Asian Nationalism, by Michael Leifer, Professor of International Relations Michael Leifer, p23</ref> หรือ "ราชวงศ์มองโกลแห่งประเทศจีน",<ref>A Military History of Japan: From the Age of the Samurai to the 21st Century: From the Age of the Samurai to the 21st Century, John T. Kuehn Ph.D., p61</ref> เหมือน'''ราชวงศ์แมนจู'''<ref>Voyages in World History, by Valerie Hansen, Ken Curtis, p53</ref> หรือ "ราชวงศ์แมนจูแห่งประเทศจีน"<ref>The Military Engineer, Volume 40, p580</ref> ที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ [[ราชวงศ์ชิง]]
== รุกรานญี่ปุ่น ==
{{บทความหลัก|การรุกรานญี่ปุ่นของมองโกล}}
เส้น 153 ⟶ 163:
* [[ดาบมังกรหยก]]
* [[ดาบมังกรหยก กระบี่อิงฟ้า ดาบฆ่ามังกร]]
== อ้างอิง ==
 
{{รายการอ้างอิง|}}
{{ราชวงศ์จีน}}
{{จักรวรรดิ}}