ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ผู้ใช้:D.Waraporn/กระบะทราย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
D.Waraporn (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
D.Waraporn (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 37:
==ความเป็นมาของรัฐสวัสดิการในประเทศสวีเดน==
ระบบรัฐสวัสดิการของประเทศสวีเดนพัฒนาอย่างช้า ๆ แต่เป็นไปอย่างต่อเนื่องและฝังแน่นในระบบเศรษฐกิจประเทศสวีเดนตลอดช่วงศตวรรษที่ 20 โดยมีพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตย (Social Democratic Party) และสหภาพการค้า (Trade Union) เป็นผู้นำในการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตามรัฐสวัสดิการได้รับการคัดค้านจากกลุ่มธุรกิจ กลุ่มอนุรักษ์นิยม และกลุ่มเสรีนิยมซึ่งไม่เห็นด้วยกับระบบนี้ ในระยะแรก แต่ต่อมาฝ่ายคัดค้านก็ยอมรับระบบรัฐสวัสดิการ และหันกลับมาสนับสนุนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิรูประบบรัฐสวัสดิการในที่สุด
 
<br />
โดยจุดเริ่มต้นของการจัดรัฐสวัสดิการในประเทศสวีเดนเริ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1840 โดยสวีเดนได้ออก “กฎหมายขจัดความยากจน” (Poor Relief Laws) มาบังคับใช้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1913 รัฐบาลพรรคเสรีนิยมด้วยการสนับสนุนของประชาชนเริ่มขยายขอบข่ายของสิทธิประโยชน์ทางสังคม โดยออก “กฎหมายบำนาญแห่งชาติ” (National Pension Act) มาบังคับใช้เพื่อจัดความมั่นคงทางสังคมให้แก่ผู้สูงอายุ ในปี ค.ศ. 1918 รัฐบาลผสมระหว่างพรรคเสรีนิยมและพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยได้ออกกฎหมายความยากจนใหม่ (New Poor Law) เพื่อช่วยเหลือคนที่มีความจำเป็นผ่านรัฐบาลท้องถิ่นในขณะที่รัฐบาลกลางเป็นฝ่ายสนับสนุนการบริหารงานเท่านั้น กฎหมายดังกล่าวยังคงมีผลต่อระบบความช่วยเหลือทางสังคมหรือระบบสังเคราะห์ (Social Assistance) ในประเทศสวีเดน ต่อมาอีก 40 ปี
 
<br />
ประเทศสวีเดนเริ่มเข้าสู่การเป็นรัฐสวัสดิการสมัยใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1932 หลังจากพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยเริ่มเรืองอำนาจ และเข้ามาบริหารประเทศอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานถึง 65 ปี ในช่วงระยะเวลา 74 ปี ที่ผ่านมา พรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคของคนชั้นกลางได้สร้างระบบความมั่นคงทางสังคมที่ให้สิทธิประโยชน์อย่างครอบคลุม ได้แก่ บำนาญชราภาพ สิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน สิทธิประโยชน์สำหรับเด็กกำพร้า สิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วย ให้แก่คนงานที่ได้รับค่าจ้างในอัตราที่สูง ซึ่งสิทธิประโยชน์ส่วนใหญ่จะเป็นสัดส่วนกับจำนวนเงินที่จ่าย ดังนั้นจึงทำให้คนชั้นกลางที่มีฐานะให้ความสนใจสนับสนุนระบบความมั่นคงทางสังคมดังกล่าว
 
<br />
ระบบรัฐสวัสดิการในประเทศสวีเดน ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องระหว่างทศวรรษที่ 1950-1960 ในช่วงเวลานั้น ประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกด้วยอัตรา การว่างงานเป็นศูนย์ และรัฐสวัสดิการได้ถึงจุดที่รุ่งเรืองที่สุดในทศวรรษที่ 1970 ให้ความคุ้มครองทุกคนอย่างถ้วนหน้า ตั้งแต่การดูแลเด็กไปจนกระทั่งการให้บำนาญสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งตามสถิติของ OECD ในปี ค.ศ. 1970 สวีเดนเป็นประเทศที่มีรายได้ต่อหัวสูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก
 
<br />
ในช่วงทศวรรษที่ 1990 แบบจำลองรัฐสวัสดิการของสวีเดนเริ่มมีปัญหาอันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์อุตสาหกรรมหนักเป็นผลให้การระดมทุนทางสังคมลดลง ภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้ทำให้สวีเดนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก และก่อให้เกิดปัญหาสังคมในหลายๆ ปีต่อมา
 
<br />
ในปี ค.ศ. 2006 ประเทศสวีเดนมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ซึ่งประเทศสวีเดนยังคงแยกเป็นกลุ่มฝ่ายซ้ายและกลุ่มฝ่ายขวา อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเป็นรัฐบาลผสมโดยมีพรรคฝ่ายขวาเป็นเสียงข้างมาก แนวโน้มของรัฐบาลก็ยังคงรักษาพื้นฐานของรัฐสวัสดิการด้วยการปรับปรุงบางอย่างเพื่อจะทำให้ลดการว่างงาน และทำให้เศรษฐกิจเติบโตต่อไป ซึ่งไม่มีพรรคการเมืองสำคัญพรรคใดในสวีเดนที่มีนโยบายที่จะค่อย ๆ ยกเลิกรัฐสวัสดิการ เนื่องจากจะทำให้ไม่ได้รับความนิยมจากประชาชนที่มีสิทธิออกเสียงทั้งกลุ่ม ที่สนับสนุนพรรคที่นิยมฝ่ายซ้ายและพรรคที่นิยมฝ่ายขวา ปัจจุบันประเทศสวีเดนมี GDP ต่อหัวต่ำกว่าประเทศสแกนดิเนเวียอื่น ๆ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงเป็นปัญหาสำคัญในปัจจุบัน
<br />
ปัจจุบันประเทศสวีเดนมี GDP ต่อหัวต่ำกว่าประเทศสแกนดิเนเวียอื่น ๆ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงเป็นปัญหาสำคัญในปัจจุบัน
 
==ตัวอย่างของระบบรัฐสวัสดิการของประเทศสวีเดน==