ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง ณ อุบล)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Depanom (คุย | ส่วนร่วม)
Depanom (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 5:
 
==พระราชประวัติ==
ในปี [[พ.ศ. 2311]] [[เจ้าพระตา]]กับ[[เจ้าพระวอ]] เกิดผิดพระทัยกันกับสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ ๓ หรือสมเด็จ[[พระเจ้าสิริบุญสาร]]แห่งนคร[[เวียงจันทน์]] จึงอพยพไพร่พลมาตั้งแข็งข้ออยู่เมืองหนองบัวลุ่มภูซึ่งพระราชบิดาของตนเคยปกครองมาก่อน อันมีสาเหตุมาจากเจ้าพระตาปรารถนาจะเป็นเจ้ามหาอุปราชแห่งนครเวียงจันทน์ โดยที่ตนมิใช่เชื้อสายของพระมหากษัตริย์พระองค์ก่อน ฝ่ายสมเด็จพระเจ้าสิริบุญสารก็ปรารถนาจะให้พระธิดาของเจ้าพระตาไปเป็นหม่อมห้าม เพื่อสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างเจ้านายราชวงศ์เวียงจันทน์และเจ้านายราชวงศ์เชียงรุ้งซึ่งเคยมีมาแต่ครั้งพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช ฝ่ายนครเวียงจันทน์ได้ยกทัพมาตีเมืองหนองบัวลุ่มภูซึ่งแต่เดิมเป็น[[เมืองขอบด่าน]]ขึ้นแก่นครเวียงจันทน์มาก่อน การต่อสู้นั้นใช้ระยะเวลายาวนานอยู่ถึง 3 ปี ฝ่ายเมืองหนองบัวลุ่มภูเห็นว่านานไปจะสู้ฝ่ายนครเวียงจันทน์ไม่ได้ จึงส่งทูตไปขอกองทัพจากพม่าที่นคร[[เชียงใหม่]]มาช่วยรบ แต่กองทัพพม่าได้ยกมาสมทบกับกองทัพนครเวียงจันทน์ตีเมืองหนองบัวลุ่มภูแตก เป็นเหตุให้เจ้าพระตาสิ้นพระชนม์ในสนามรบ ฝ่ายเจ้าพระวอกับเจ้าคำผงและพวกจึงต้องทิ้งเมืองหนีไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จนได้ไปพึ่งพระราชบารมีใน[[สมเด็จพระพุทธเจ้าองค์หลวงไชยกุมาร]]แห่ง[[นครจำปาศักดิ์]] โดยตั้งค่ายอยู่บ้านดู่บ้านแก แขวงเมืองจำปาศักดิ์ ฝ่ายสมเด็จพระเจ้าพระพุทธเจ้าองค์หลวงไชยกุมารทรงแบ่งรับแบ่งสู้ด้วยทรงเป็นว่าอาจเป็นการทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างนครเวียงจันทน์กับนครจำปาศักดิ์ร้าวฉานได้ แต่ก็ทรงพระเมตตาขอเอาเจ้านางตุ่ย พระธิดาใน[[เจ้าอุปราชมหาอุปฮาชธรรมเทโว]] อุปราชนครจำปาศักดิ์ ให้เป็นพระชายาของเจ้าคำผง และทรงแต่งตั้งให้เจ้าคำผงเป็นที่ '''พระปทุมสุรราช''' ผู้ช่วยเจ้าพระวอ นายกองนอก ต่อมาพระปทุมสุรรราช (เจ้าคำผง) จึงทรงขออพยพไพร่พลมาอยู่[[ดอนมดแดง]] และสถาปนาเมืองเมืองขึ้นชั่วคราว คนทั่วไปเรียกว่า เมืองดอนมดแดง
 
ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าสิริบุญสารทรงทราบว่า เจ้าพระวอกับพวกมาตั้งอยู่ที่ค่ายบ้านดู่บ้านแกแขวงเมืองนครจำปาศักดิ์ และเจ้าพระวอมีกำลังพลน้อยตั้งขัดแข็งอยู่ จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระยาสุโพยกทัพมาตีค่ายบ้านดู่บ้านแกแตก เป็นเหตุให้เจ้าพระวอสิ้นพระชนม์ในสนามรบ ฝ่ายพระปทุมสุรราช (เจ้าคำผง) เห็นว่าจะสู้กองทัพนครเวียงจันทน์ไม่ได้ จึงให้ท้าวก่ำพระอนุชา (ต่อมาได้เป็นเจ้าเมืองเขมราฐธานี) นำพระราชสาส์นไปขอความช่วยเหลือจาก[[สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี]] พระองค์จีงโปรดเกล้าฯ ให้[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช|เจ้าพระยาจักรี]]และ[[สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท|เจ้าพระยาสุรสีห์]]ยกทัพมาช่วย เมื่อทราบสาเหตุจากพระปทุมสุรราช (เจ้าคำผง) แล้ว สยามจึงยกทัพตามตีทัพพระยาสุโพไปจนถึงนครเวียงจันทน์ ได้รบกันอยู่นาน 4 เดือน นครเวียงจันทน์จึงแตกเมื่อ [[พ.ศ. 2322]] (สงครามครั้งนี้ส่งผลให้[[อาณาจักรล้านช้าง]]ทั้ง 3 แห่ง ตกเป็น[[ประเทศราช]]ของ[[สยาม]]สืบมา จนกระทั่งสยามเสียดินแดนเหล่านี้ให้แก่[[ฝรั่งเศส]]ในสมัยรัชกาลที่ 5)