ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Gunhotnews (คุย | ส่วนร่วม)
Gunhotnews (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 318:
{{บทความหลัก2|ทรงยับยั้งการบุกสถานทูตเขมร}}
[[ไฟล์:ชุมนุมหน้าสถานทูตกัมพูชา.JPEG|200px|thumbnail|เหตุการชุมนุมหน้าสถานทูตไทยประจำกรุง[[พนมเปญ]]]]
 
ในวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๖ มีเหตุการณ์จลาจลที่ชาวเขมรกลุ่มหนึ่งถูกปั่นหัวให้บุกเข้าเผาสถานทูตไทยประจำกรุง[[พนมเปญ]] จนเอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่สถานทูตต้องหนีตายไปได้อย่างฉิวเฉียด จากนั้นแก๊งมอเตอร์ไซด์ก็ตระเวนเผาโรงแรมและบริษัทธุรกิจของคนไทยวายวอดไปทั่วกรุงพนมเปญ
กลางดึกของคืนวันนั้น ทันทีที่ทีวีแพร่ภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์ มีผู้หญิงกัมพูชาคนหนึ่งเหยียบย่ำพระบรมฉายาลักษณ์ คนไทยเลือดร้อนต่างก็มุ่งไปที่สถานทูตกัมพูชาที่ถนนราชดำริ และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆโดยไม่มีการนัดหมาย ยิ่งเมื่อภาพหมิ่นที่เคารพสักการะของคนไทยนี้ถูกแพร่ทางอินเตอร์เนต ชาวเว็บหลายคนก็ถึงกับหลั่งน้ำตา และมุ่งไปที่สถานทูตกัมพูชาด้วยความเคียดแค้น แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้ไม่ให้เข้าใกล้รั้วสถานทูต
 
กลางดึกของคืนวันนั้น ทันทีที่ทีวีแพร่ภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์ มีผู้หญิงกัมพูชาคนหนึ่งเหยียบย่ำพระบรมฉายาลักษณ์ คนไทยเลือดร้อนต่างก็มุ่งไปที่สถานทูตกัมพูชาที่ถนนราชดำริ และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆโดยไม่มีการนัดหมาย ยิ่งเมื่อภาพหมิ่นที่เคารพสักการะของคนไทยนี้ถูกแพร่ทางอินเตอร์เนต ชาวเว็บหลายคนก็ถึงกับหลั่งน้ำตา และมุ่งไปที่สถานทูตกัมพูชาด้วยความเคียดแค้น แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้ไม่ให้เข้าใกล้รั้วสถานทูต
๑๓.๒๐ น.ของวันที่ ๓๐ มกราคม กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าสถานทูต[[กัมพูชา]]ได้เรี่ยไรกันซื้อโลงศพและธงชาติกัมพูชา เขียนข้างโลงว่า “แด่ฮุนเซน” เผาไปพร้อมกับธงชาติเขมร ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้อง พร้อมกับร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี
 
๑๓.๒๐ น.ของวันที่ ๓๐ มกราคม กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าสถานทูต[[กัมพูชา]]ได้เรี่ยไรกันซื้อโลงศพและธงชาติกัมพูชา เขียนข้างโลงว่า “แด่ฮุนเซน” เผาไปพร้อมกับธงชาติเขมร ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้อง พร้อมกับร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี
ขณะที่ผู้ชุมนุมเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอารมณ์ร้อนแรง มีการนำรูปผู้หญิงกัมพูชาที่กระทำไม่บังควรพิมพ์ออกมาจากอินเตอร์เนต แจกจ่ายแก่ผู้ชุมนุมและคนที่ขับรถผ่านไปมา ทำให้ความเคียดแค้นร้อนแรงยิ่งขึ้น ผู้ชุมนุมพยายามจะฝ่าแนวป้องกันของตำรวจเข้าไปทำลายสถานทูตกัมพูชาให้ได้
 
ขณะที่ผู้ชุมนุมเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอารมณ์ร้อนแรง มีการนำรูปผู้หญิงกัมพูชาที่กระทำไม่บังควรพิมพ์ออกมาจากอินเตอร์เนต แจกจ่ายแก่ผู้ชุมนุมและคนที่ขับรถผ่านไปมา ทำให้ความเคียดแค้นร้อนแรงยิ่งขึ้น ผู้ชุมนุมพยายามจะฝ่าแนวป้องกันของตำรวจเข้าไปทำลายสถานทูตกัมพูชาให้ได้
จนกระทั่งในเวลา ๑๗.๐๐ น. พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.ได้เดินทางมาถึง และกล่าวกับผู้ชุมนุมทางเครื่องขยายเสียงว่า นายอาสา สารสิน เลขาธิการสำนักพระราชวังได้แจ้งมาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ทรงเป็นห่วงประชาชน เป็นห่วงบ้านเมือง เราเป็นพระเอกแล้วในสายตาชาวโลก เราเป็นฝ่ายถูก อย่าทำตัวให้กลายเป็นผู้ร้ายไปเลย ให้ประชาชนอยู่ในความสงบ อย่าทำอะไรรุนแรง ขอขอบใจในความจงรักภักดี
 
จนกระทั่งในเวลา ๑๗.๐๐ น. พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.ได้เดินทางมาถึง และกล่าวกับผู้ชุมนุมทางเครื่องขยายเสียงว่า นายอาสา สารสิน เลขาธิการสำนักพระราชวังได้แจ้งมาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ทรงเป็นห่วงประชาชน เป็นห่วงบ้านเมือง เราเป็นพระเอกแล้วในสายตาชาวโลก เราเป็นฝ่ายถูก อย่าทำตัวให้กลายเป็นผู้ร้ายไปเลย ให้ประชาชนอยู่ในความสงบ อย่าทำอะไรรุนแรง ขอขอบใจในความจงรักภักดี
อารมณ์ของคนที่กำลังคลั่งแค้น และเหตุการณ์ที่กำลังจะลุกลามใหญ่โต ก็สงบลงทันที ผู้ชุมนุมต่างสลายตัวกลับ แต่ก็ยังมีผู้ไม่ทราบเรื่องทยอยมาชุมนุมอีก ๔๐๐-๕๐๐ คน จนกระทั่งสลายไปทั้งหมดหลังจากร่วมกันร้องเพลงชาติในเวลา ๐๘.๐๐ น.ของวันที่ ๓๑ มกราคม
 
อารมณ์ของคนที่กำลังคลั่งแค้น และเหตุการณ์ที่กำลังจะลุกลามใหญ่โต ก็สงบลงทันที ผู้ชุมนุมต่างสลายตัวกลับ แต่ก็ยังมีผู้ไม่ทราบเรื่องทยอยมาชุมนุมอีก ๔๐๐-๕๐๐ คน จนกระทั่งสลายไปทั้งหมดหลังจากร่วมกันร้องเพลงชาติในเวลา ๐๘.๐๐ น.ของวันที่ ๓๑ มกราคม
การสลายตัวของผู้ชุมนุมหน้าสถานทูตกัมพูชาครั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศประโคมไปทั่วโลกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ช่วยยุติวิกฤติการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในครั้งนี้ ทรงขอร้องให้ผู้ชุมนุมหน้าสถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ สลายตัว เอเอฟพี.รายงานด้วยว่า พระเจ้าอยู่หัวของไทยเคยทรงเข้าช่วยคลี่คลายวิกฤติเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ” ซึ่งทหารยิงประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเสียชีวิตอย่างน้อย ๕๒ ศพในเดือนพฤษภาคม ๒๕๓๕
 
การสลายตัวของผู้ชุมนุมหน้าสถานทูตกัมพูชาครั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศประโคมไปทั่วโลกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ช่วยยุติวิกฤติการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในครั้งนี้ ทรงขอร้องให้ผู้ชุมนุมหน้าสถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ สลายตัว เอเอฟพี.รายงานด้วยว่า พระเจ้าอยู่หัวของไทยเคยทรงเข้าช่วยคลี่คลายวิกฤติเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ” ซึ่งทหารยิงประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเสียชีวิตอย่างน้อย ๕๒ ศพในเดือนพฤษภาคม ๒๕๓๕
คนไทยที่ไปชุมนุมอยู่หน้าสถานทูตกัมพูชาในครั้งนั้น ได้แสดงให้โลกประจักษ์ถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุดอีกครั้งหนึ่ง ทรงสยบผู้ชุมนุมที่กำลังคลั่งแค้นให้เย็นลงได้เพียงพระราชดำรัสเพียงไม่กี่ประโยค เหมือนที่ทรงระงับสงครามกลางเมืองเมื่อครั้งเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ”
 
คนไทยที่ไปชุมนุมอยู่หน้าสถานทูตกัมพูชาในครั้งนั้น ได้แสดงให้โลกประจักษ์ถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุดอีกครั้งหนึ่ง ทรงสยบผู้ชุมนุมที่กำลังคลั่งแค้นให้เย็นลงได้เพียงพระราชดำรัสเพียงไม่กี่ประโยค เหมือนที่ทรงระงับสงครามกลางเมืองเมื่อครั้งเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ”
ในวันนี้ หวังว่าคนไทยเราคงจะรำลึกถึงพระราชดำรัสในวันนั้นกันอีกครั้ง
 
ในวันนี้ หวังว่าคนไทยเราคงจะรำลึกถึงพระราชดำรัสในวันนั้นกันอีกครั้ง
“เราเป็นพระเอกแล้วในสายตาชาวโลก เราเป็นฝ่ายถูก อย่าทำตัวให้กลายเป็นผู้ร้ายไปเลย” <ref name="manager">{{cite web |year=2016|url=http://manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx?NewsID=9590000104641 |title=โลกตะลึง! ทรงหยุดสงครามกลางเมืองที่กำลังร้อนแรง ด้วยพระราชดำรัสไม่กี่ประโยค!คนเดียวในโลกที่ทำได้!|publisher=โรม บุนนาค |accessdate=19 ตุลาคม 2559}}</ref>
 
“เราเป็นพระเอกแล้วในสายตาชาวโลก เราเป็นฝ่ายถูก อย่าทำตัวให้กลายเป็นผู้ร้ายไปเลย” <ref name="manager">{{cite web |year=2016|url=http://manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx?NewsID=9590000104641 |title=โลกตะลึง! ทรงหยุดสงครามกลางเมืองที่กำลังร้อนแรง ด้วยพระราชดำรัสไม่กี่ประโยค!คนเดียวในโลกที่ทำได้!|publisher=โรม บุนนาค |accessdate=19 ตุลาคม 2559}}</ref>
 
== พระพลานามัยปลายพระชนม์และสวรรคต ==