ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระสุมังคลสัมพุทธเจ้า"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
'''พระสุมังคลสัมพุทธเจ้า''' ปรากฏในเรื่อง อนาคตวงศ์<ref>http://www.84000.org/anakot/kan5.html#5</ref> ครั้นเมื่อศาสนาของ[[พระติสสะสัมพุทธเจ้า]] เสื่อมลง ใน[[มัณฑกัปป์]]เดียวกันนี้จะมี[[พระพุทธเจ้า]] องค์ถัดไป ชื่อว่า '''[[พระสุมังคลสัมพุทธเจ้า]]''' โดย[[พระโพธิสัตว์]]ในสมัยของ [[พระโคตมพุทธเจ้า]]ได้เสวยพระชาติเป็น '''ช้างปาลิไลยกะ'''
 
== พระประวัติ ==
พระองค์ได้บำเพ็ญ[[บารมี 30 ทัศน์]]มาอย่างยิ่งยวด โดยมี[[ปรมัตถบารมี]]หนึ่งย้อนไปในสมัย[[ภัทรกัปป์]] ปัจจุบันของเรานี้ พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็น[[พระเจ้าจักรพรรดิ]]นามว่า '''พระเจ้ามหาปนาทบรมจักร''' มีแก้ว 7 ประการได้แก่ '''นางแก้ว แก้วมณี จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว ปรินายกแก้ว คฤหบดีแก้ว''' ปกครองทวีปใหญ่ทั้ง 4 มีทวีปเล็กๆ อีก 2000 เป็นบริวาร มี ล่วงมาถึงจน[[พระกกุสันธพุทธเจ้า]]ได้ตรัสรู้<ref>http://www.phuttawong.net/index.aspx?ContentID=ContentID-061213092605164</ref>
 
พระโพธิสัตว์จึงสั่ง'''จักรแก้ว'''ไปเอาดวงแก้วมณีที่ท้องมหาสมุทร จักรแก้วก็นำแก้วมณีมาถวายดุจดังมีจิตวิญญาณ
บรรทัด 20:
พระพุทธองค์ทรงตอบว่า เรามีนามว่า '''พระศาสดา''' คฤหบดีแก้วก็สอบถามอีกว่า ชื่อว่าพระศาสดานี้ด้วยเหตุใด พระพุทธองค์จึงทรงตอบว่าด้วยอาจริยคุณ 31 ประการ เช่น อิติปิ โส ภควา เป็นต้น เมื่อคฤหบดีแก้ว ได้ฟังก็จึงจารึก จริยคุณ 31 ประการเป็นตัวอักษรลงในแผ่นทองคำ และสอบถามว่ามีคุณวิเศษอย่างอื่นอีกหรือไม่ พระพุทธองค์ ทรงตอบว่ามีอยู่อีกเป็นอันมาก คฤหบดีแก้วก็ทูลขอให้ทรงแสดงต่อไป พุทธองค์ทรงแสดงธรรม เรื่องกายคตาสติกัมมัฏฐาน คฤหบดีแก้ว ก็ยังจารึกพระโฉมกายมหาบุรุษของ[[พระกกุสันธพุทธเจ้า]] ในแผ่นทองเหาะกลับไปถวายแด่[[พระโพธิสัตว์]]
 
เมื่อ[[พระโพธิสัตว์]]เห็นอักษรที่จารึกแล้วยังไม่ทราบว่าเป็นพุทธคุณจริงหรือไม่ จึงสอบถามไปยังพราหมณ์ปุโรหิตว่า จริงหรือ ฝ่ายพราหมณ์จึงกราบทูลว่า เป็นของประเสริฐ หาคุณวิเศษยิ่งไปกว่านี้ไม่มีแล้ว พระองค์จึงปลาบปลื้ม ปิติ ยินดี อย่างมากจนสลบทีเดียว พอได้สติฟื้นขึ้นมา ก็สอบถามปุโรหิตว่าคุณวิเศษนี้เป็นพุทธคุณจริงหรือ ปุโรหิตก็กราบทูลว่า เป็นของแท้แน่นอน อย่าได้สงสัยเลย พระองค์ก็ปลาบปลื้ม ปิติ ยินดี อย่างมากจนสลบเป็นครั้งที่ 2 พอฟื้นขึ้นมาก็ทอดพระเนตร รูปพุทธองค์ที่สลักในแผ่นทองคำก็แล้วสอบถามปุโรหิตว่า เป็นรูปของพระพุทธองค์จริงหรือ ปุโรหิตก็กราบทูลว่า จริง พระองค์ก็ปลาบปลื้ม ปิติ ยินดี อย่างมากจนสลบเป็นครั้งที่ 3
 
ครั้นพอได้สติ ก็ตรัสกับคฤหบดีแก้วว่า เป็นเหตุให้พระองค์ได้พบสิ่งมีค่ายิ่ง จึงยกสมบัติจักรพรรดิให้แก่คฤหบดีทั้งหมดเป็นบำเหน็จความดีความชอบ
 
ส่วน'''พระเจ้ามหาปนาทบรมจักร'''ก็เสด็จเดินเท้าพระองค์เดียวมุ่งหน้าไปยังพระพุทธองค์ จนถึงต้นไทรที่พระพุทธองค์เคยประทับอยู่ กระทำอัญชลีและตั้งใจจะบวชในพระพุทธศาสนา เกิดอัศจรรย์เครื่องอัฏบริขารทั้ง 8 ก็ลอยมาตกตรงหน้าด้วยพุทธานุภาพ ครั้นเมื่อ[[พระโพธิสัตว์]]ได้ครองผ้าบวชแล้วก็ขอให้มงกุฏของพระองค์ไปแจ้งข่าวต่อพระพุทธองค์ด้วย มงกุฏนั้นก็ลอยไปเหมือนมีจิตวิญญาณ เข้ากราบทูล[[พระกกุสันธะสัมพุทธเจ้ากกุสันธสัมพุทธเจ้า]]
 
ครั้นเมื่อบวชแล้วประพฤติกิจของสงฆ์ เที่ยวบิณฑบาตและเจริญกัมมัฎฐาน พิจารณาพุทธคุณ เจริญกายคตาสติกัมมัฎฐาน ด้วยความเพียรจนได้ โลกียญาณแล้ว ก็เหาะไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เห็นกายมหาบุรุษและประกอบด้วยอนุพยัญชนะ 80 ประการของพระองค์ งามพร้อมบริบูรณ์ จึงเกิดปิตีถึงขนาดสลบสิ้นสติไป [[พระพุทธเจ้า]]ทรงประพรมน้ำ พอพื้นคืนสติได้ก็กราบ ขออาราธนาให้พุทธองค์ทรงแสดงธรรม
 
[[พระกกุสันธพุทธเจ้า]]ได้แสดงธรรมว่า ให้พิจารณาธรรมที่จะนำไปสู่นิพพานเถิด [[พระโพธิสัตว์]]ได้ฟังดังนั้นก็เกิดความปลื้มปิติ จึงตัดศีรษะของตนด้วยเล็บ ทำเป็นเครื่องสักการบูชาแด่พระพุทธเจ้า และอธิษฐานขอให้ได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อธิษฐานเสร็จก็สิ้นใจตายไปบังเกิดเป็น[[เทวดา]]ในสวรรค์ชั้นดุสิต