ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แมรีเซเลสต์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 4:
แมรีเซเลสต์ เป็นเรือใบสองเสาความสูงของเสากระโดง 100 ฟุต สัญชาติอเมริกัน แล่นออกจากท่าเรือใน[[นิวยอร์ก]] สหรัฐอเมริกา เพื่อไปสู่เมือง[[เจนัว]] ในอิตาลี เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1872 โดยมีกัปตันชื่อ เบนจามิน บริกก์ พร้อมด้วยภรรยา ซาราห์ และโซเฟีย บุตรสาวซึ่งเป็นเพียงเด็กเล็กอายุ 2 ขวบ และมีผู้โดยสารซึ่งเป็นลูกเรือรวมทั้งหมด 11 คน
 
แมรีเซเลสต์กลายเป็นเรือร้างไม่มีผู้โดยสารและลอยอยู่กลางทะเล จนกระทั่งเรือเดอีกราเซีย เรือบรรทุกสินค้าสัญชาติอังกฤษมาเจอเข้า ที่บริเวณใกล้กับหมู่เกาะ[[อะโซร์ส]] ของโปรตุเกส ในบ่ายของวันที่ 5 ธันวาคม ปีเดียวกัน โดยขณะที่เจอเป็นเรือร้างไม่มีผู้โดยสาร ใบเรือที่สูงสุดฉีกขาดลง แต่สภาพทุกอย่างบนเรือยังดีอยู่ โต๊ะอาหารของกัปตันยังพบร่องรอยไข่ลวกกระเทาะเปลือกทิ้งไว้โดยไม่ตักรับปะทาน ขนมปังและจานซุปยังวางอยู่บนโต๊ะ ไปป์ถูกวางไว้รอจุดไฟ รองเท้าบูตถูกวางทิ้งทั้งที่ยังขัดค้างไว้อยู่ สมุดโน้ตของซาราห์ ภรรยาของกัปตันเปิดคาเหมือนยังเล่นเขียนค้างอยู่ แต่ก็ยังมีข้าวของหลายอย่างกระจุยกระจายเหมือนถูกรื้อค้น เช่นเดียวกับปูมเรือ โดยวันสุดท้ายที่มีการบันทึกคือวันที่ 25 พฤศจิกายน หรือประมาณ 10 วันมาแล้ว โดยระบุว่าตำแหน่งที่เรืออยู่นั้นห่างจากจุดที่เจอถึงเกือบ 100 ไมล์
 
เดวิด มอร์เฮาส์ กัปตันเรือเดอีกราเซียได้ลากจูงแมรีเซเลสต์เข้าสู่ท่า และอ้างว่าตนต้องได้รับส่วนแบ่งจากการเป็นผู้ค้นพบ จนกลายเป็นการไต่สวนของอัยการท้องถิ่น มีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับการหายตัวไปของกัปตันและครอบครัวรวมถึงผู้โดยสารทั้งหมด เพราะอัยการผู้เป็นหัวหน้าของการไต่สวนคดีนี้ไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของกัปตันมอร์เฮาส์ โดยเชื่อว่ากัปตันบริกก์อาจจะร่วมมือกับกัปตันมอร์เฮาส์เพื่อต้องการเงินประกัน จึงสร้างเรื่องขึ้นมา