ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อัซรีนัซ มัซฮาร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Danieliness (คุย | ส่วนร่วม)
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ ‘กรุงกัวลาลัมเปอร์’ ด้วย ‘กัวลาลัมเปอร์’
บรรทัด 21:
 
==ประวัติ==
'''อัซรีนัซ มัซฮาร์''' หรือ '''นัซ''' เกิดเมื่อวันที่ [[23 กันยายน]] [[ค.ศ. 1979]] ที่[[กัวลาลัมเปอร์|กรุงกัวลาลัมเปอร์]] [[ประเทศมาเลเซีย]] เป็นบุตรคนที่สองของนายฮากิม มัซฮาร์ กับนางเฟาซียะห์ อับดุลละห์ เธอสำเร็จการศึกษาจากสถาบันมีเดียอินเตอร์กราฟมาเลเซีย สาขาวิทยุกระจายเสียง
 
เธอมีชื่อเสียงจากการเป็นผู้ประกาศข่าวในสถานีโทรทัศน์ TV3 ของประเทศมาเลเซีย จนเธอได้รับรางวัลนักข่าวที่มีศักยภาพมากที่สุดของ TV3 ในปี 2000 และได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นจากสถาบันมีเดียอินเตอร์กราฟในปี 2002 และเธอได้ลาออกจากการทำงานเมื่อวันที่ [[3 พฤษภาคม]] [[ค.ศ. 2005]] โดยได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ''"ดิฉันต้องการก้าวเดินออกไปเผชิญสิ่งใหม่ ๆ "''<ref name="ประวัติ"/>
บรรทัด 28:
อัซรีนัซ ได้พบกับ[[สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์|สุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์แห่งบรูไน]] ครั้งแรกเมื่อเธอเดินทางไปยังประเทศบรูไนเมื่อสองปีก่อนการสมรส<ref name="ประวัติ"/> ซึ่งสหายของเธอได้อ้างว่า ''"เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นอัซรินัซเพียงแค่แวบเดียวก็ตกหลุมรักเธอทันที นับจากนั้นพระองค์ก็ดูเธออ่านข่าวทางโทรทัศน์ที่ทีวีช่อง 3 อยู่เสมอ"''<ref name="ประวัติ"/>
 
งานอภิเษกสมรสของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างเงียบ ๆ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ภายในงานได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่น ผู้เข้าไปในงานถูกห้ามมิให้พกกล้องเข้าไป และจะต้องถูกค้นร่างกายอย่างละเอียด<ref name="ประวัติ"/> หลังการอภิเษกสมรสครั้งนั้นทำให้ได้รับการสถาปนาเป็น '''เจ้าหญิงอัซรินัซ มัซฮาร์'''<ref>{{cite web | url=http://www.asiaone.com/News/Latest+News/Asia/Story/A1Story20100617-222522.html | title=Brunei Sultan divorces M'sian wife after five years | publisher=AsiaOne}}</ref>
 
เธอได้ให้ประสูติกาลพระโอรส-ธิดา แก่พระสวามี 2 พระองค์ คือ เจ้าชายอับดุล วากีล (ประสูติ [[1 พฤษภาคม]] [[ค.ศ. 2006]]) และเจ้าหญิงอามีระห์ วาร์ดาตุล (ประสูติ [[28 มกราคม]] [[ค.ศ. 2008]])<ref>{{cite web | url=http://www.bt.com.bn/home_news/2008/01/29/new_bundle_of_joy_for_royal_family | title=New bundle of joy for royal family | publisher=The Brunei Times}}</ref>