ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โยฮัน เซบัสทีอัน บัค"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Fixed grammar
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 39:
 
=== มรดกทางดนตรี ===
เมื่อโยฮันน์ เซบาสเตียน บาค [[ดนตรีบาโรค]]ได้ถึงจุดสุดยอดและถึงกาลสิ้นสุดในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากการเสียชีวิตของบาค ดนตรีของเขาได้ถูกลืมไป เนื่องด้วยเพราะมันล้าสมัยไปแล้ว เช่นเดียวกับ[[เทคนิคการสอดประสานกันของท่วงทำนองต่างๆ]]ที่เขาพัฒนาให้มันสมบูรณ์แบบอย่างหาใดเทียมทาน เทียม
 
บุตรชายที่เขาได้ฝึกสอนดนตรีไว้ ไม่ว่าจะเป็น[[วิลเฮ็ล์ม ฟรีดมานน์ บาค]] [[คาร์ล ฟิลลิป เอ็มมานูเอ็ล บาค]] [[โยฮันน์ คริสตอฟ ฟรีดริช บาค]] และ [[โยฮันน์ คริสเตียน บาค]] ได้รับถ่ายทอดพรสวรรค์บางส่วนจากบิดา และได้รับถ่ายทอดเทคนิคการเล่นจากบาค ก็ได้ทอดทิ้งแนวทางดนตรีของบิดาเพื่อไปสนใจกับแนวดนตรีที่ทันสมัยกว่าในที่สุด เช่นเดียวกับนักดนตรีร่วมสมัยเดียวกันกับบาค (เป็นต้นว่า [[เกออร์ก ฟิลลิป เทเลมันน์]] ผู้มีอายุแก่กว่าบาคสี่ปี ก็ได้รับอิทธิพลจากดนตรีที่ทันสมัยกว่า)
บรรทัด 45:
ปรากฏการณ์นิยมแนวดนตรีใหม่นี้ก็เกิดกับ[[]]เช่นกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อ[[บารอน]]ฟาน สวีเทน ผู้หลงใหลใน[[ดนตรีบาโรค]]และมีห้องสมุดส่วนตัวสะสมบทเพลงบาโรคไว้เป็นจำนวนมาก ได้ให้[[โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ท|โมซาร์ท]]ชมผลงานอันยิ่งใหญ่ของบาคบางส่วน ทำให้ความมีอคติต่อดนตรีบาโรคของ[[โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ท|โมซาร์ท]]นั้นถูกทำลายไปสิ้น จนถึงขั้นไม่สามารถประพันธ์ดนตรีได้ตลอดช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเขาสามารถยอมรับมรดกทางดนตรีของบาคได้แล้ว วิธีการประพันธ์ดนตรีของเขาก็เปลี่ยนไป ราวกับว่าบาคมาเติมเต็มรูปแบบทางดนตรีให้แก่เขา โดยที่ไม่ต้องละทิ้งรูปแบบส่วนตัวแต่อย่างใด ตัวอย่างผลงานของ[[โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ท|โมซาร์ท]]ที่ได้รับอิทธิพลของบาคก็เช่น ''"เพลงสวดศพ[[เรเควียม]]"'' ''"[[ซิมโฟนี]]จูปิเตอร์"'' ซึ่งท่อนที่สี่เป็น[[ฟิวก์]]ห้าเสียง ที่ประพันธ์ขึ้นโดยใช้[[เทคนิคการสอดประสานกันของท่วงทำนองต่างๆ]] รวมทั้งบางส่วนของ[[อุปรากร]]เรื่อง''"ขลุ่ยวิเศษ"''
 
[[ลุดวิก ฟาน เบโทเฟนเบโธเฟน]]รู้จักบทเพลงสำหรับ[[คลาวิคอร์ด]]ของบาคเป็นอย่างดี จนสามารถบรรเลงบทเพลงส่วนใหญ่ได้ขึ้นใจ ตั้งแต่วัยเด็ก
 
สำหรับประชาชนทั่วไปแล้ว ความเป็นอัจฉริยะของบาคไม่ได้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณชน จนกระทั่งใน[[คริสต์ศตวรรษที่ 19]] อันเนื่องมาจากความพยายามของ[[เฟลิกซ์ เม็นเดลโซห์น]] ผู้สืบทอดตำแหน่งผู้อำนวยการดนตรีที่โบสถ์เซนต์โธมัส แห่งเมือง[[ไลพ์ซิจไลพ์ซิก]] นับแต่นั้นเป็นต้นมา ผลงานของบาคที่ยืนยงคงกระพันต่อการเปลี่ยนแปลงของรสนิยมทางดนตรี ก็ได้กลายเป็นหลักอ้างอิงที่มิอาจหาผู้ใดเทียมทานได้ในบรรดาผลงาน[[ดนตรีตะวันตก]]
 
ในช่วง[[คริสต์ทศวรรษที่ 30]] ที่เมือง[[ไลพ์ซิจไลพ์ซิก]] [[คาร์ล สโตรป]] ได้คิดค้นวิธีบรรเลงบทเพลงของบาคในรูปแบบใหม่ โดยการใช้เครื่องดนตรีที่มีประสิทธิภาพมากกว่า และใช้วงขับร้องประสานเสียงในแบบที่ยืดหยุ่นกว่าที่บรรเลงและขับร้องกันใน[[คริสต์ศตวรรษที่ 19]] เขายังได้บรรเลงบทเพลงทางทฤษฎี เป็นต้นว่า ''อาร์ต ออฟ[[ฟิวก์]]'' (โดยใช้วง[[ดุริยางค์]]ประกอบด้วย) ผลสัมฤทธิ์ของแนวทางใหม่นี้ได้เห็นเป็นรูปธรรมใน[[คริสต์ทศวรรษที่ 50]] โดยมีนักดนตรีอย่าง[[กุสตาฟ เลออนฮาร์ท]]และบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของเขา รวมถึง[[นิโคเลาส์ อาร์นองกูต์]] โดยที่[[กุสตาฟ เลออนฮาร์ท]]และ[[นิโคเลาส์ อาร์นองกูต์]]เป็นนักดนตรีคนแรกๆที่บันทึกเสียงบทเพลง[[คันตาต้า]]ของบาคครบทุกบท
 
แม้ว่าดนตรีของบาคจะถูกตีความในลักษณะอื่น เช่น แจ๊ส (บรรเลงโดย[[ฌาค ลูสิเยร์]](Jaques Loussier) หรือ [[เวนดี คาร์ลอส]]) บรรเลงโดยใช้เครื่องดนตรีประเภทอื่น หรือถูกดัดแปลงเป็น[[แจ๊ส]] มันก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ ราวกับว่าโครงสร้างของบทเพลงที่โดดเด่นทำให้สิ่งอื่น ๆ กลายเป็นแค่ส่วนประกอบเท่านั้น