ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กาโปเอย์รา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล fixing dead links |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
[[ไฟล์:Rugendasroda.jpg|thumb|thumb|250px|ภาพวาด Capoeira or the Dance of War โดย Johann Moritz Rugendas, ตีพิมพ์ ค.ศ. 1835]]
''
== ประวัติ ==
[[ไฟล์:CapoeiraEarle.JPG|thumb|thumb|200px|"Negros fighting, Brazil" ค.ศ. 1824 วาดโดย Augustus Earle แสดงให้เห็นถึงการแอบฝึก
ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-19 [[โปรตุเกส]]ได้ส่งทาสจากแอฟริกาตะวันตกมายังอเมริกาใต้ ชาวแอฟริกันจำนวนมากถูกนำตัวมายังประเทศบราซิล (ประมาณ 4 ล้านคน) ทาสเหล่านี้ได้นำวัฒนธรรมพวกเขามาด้วย เหล่าทาสได้ถูกแบ่งออกไปเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อที่แยกย้ายกันไปทำงานในที่ต่าง ๆ ในทาสกลุ่มนี้จะมีคนจากหลายพื้นที่และต่างวัฒนธรรมมารวมกัน หลังจากที่ทาสเหล่านี้อยู่ด้วยกันต่างก็แลกเปลี่ยนและซึมซับวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน
ในกลุ่มชุมชนเล็ก ๆ นี้
ต่อมาหลังจากมีการเลิก[[ทาส]] ในช่วง ค.ศ 1888 ชาวแอฟริกันบางส่วนเดินทางกลับ แต่บางส่วนยังคงอาศัยอยู่ในบราซิล แต่เนื่องด้วยไม่มีงานทำมากนัก จึงทำให้หลายกลุ่มกลายเป็นอันธพาล พวกเขายังคงฝึกกาโปเอย์ราอยู่และกลายเป็นพวกต่อต้านรัฐบาลก่ออาชญากรรม เมื่อมีการนำกาโปเอย์ราไปใช้ในทางที่ผิด ทางรัฐบาลของบราซิลจึงมีคำสั่งให้กาโปเอย์รานั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย (ช่วงปีค.ศ 1890) ผู้ฝ่าฝืนจะถูกจับ แต่ก็มีบางส่วนที่ขัดขืนก็จะถูกยิง โดยที่ตำรวจในสมัยนั้นก็ฝึกฝนกาโปเอย์ราด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะใช้ต่อสู้กับผู้ฝ่าฝืนได้
จนกระทั่งถึงช่วงที่ บราซิลทำสงครามกับ[[ปารากวัย]] รัฐบาลบราซิลได้จัดตั้งกลุ่มนักรบขึ้นมากลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นนักสู้กาโปเอย์รา โดยเรียกว่า "กองทหารดำ" (Black Military) จะส่งไปรบกับปารากวัย โดยสามารถนำชัยชนะมาให้กับบราซิลได้ นั่นทำให้เหล่านักสู้
เมสตรี บิงบา (Mestre Bimba) และเมสตรี ปัสตินยา (Mestre Pastinha) บิดาแห่งกาโปเอย์รายุคใหม่ โดยบิงบาได้ก่อตั้งโรงเรียนสอนกาโปเอย์ราแห่งแรก(ในปี ค.ศ. 1942) ขึ้นมา นี่เป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า กาโปเอย์ราเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ถูกกฎหมาย และได้ทำให้กาโปเอย์รากลับมาสู่ความนิยมอีกครั้ง
บรรทัด 30:
== การเล่น ==
=== ชิงกา ===
[[ไฟล์:Ginga.gif|thumb|thumb|200px|ชิงกา]]
'"
=== การจู่โจม ===
|