ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ซอฟต์พาวเวอร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
DessertSweet (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บรายละเอียด
DessertSweet (คุย | ส่วนร่วม)
เพิ่มอ้างอิง
บรรทัด 1:
'''อำนาจอ่อน''' ({{lang-en|Soft power}}) คือ แนวคิดที่พัฒนาโดยโจเซฟ เนย์ (Joseph Nye)<ref>[http://www.thaipost.net/node/11376 คอลัมภ์พลังอำนาจแบบฉลาด โดยชัชรินทร์ ไชยวัฒน์ ณ วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552 จากเว็บไซต์ไทยโพสต์] สืบค้นวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557</ref> จาก[[มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด]] ซึ่งมีความสามารถในการดึงดูดและสร้างการมีส่วนร่วมมากกว่าการบังคับหรือให้เงิน ในปัจจุบันใช้ในการเปลี่ยนแปลงและสร้างอิทธิพลต่อความคิดของสังคมและประชาชนในประเทศอื่น<ref name="thairath">[http://www.thairath.co.th/content/401926 คอลัมภ์อำนาจอ่อน-อำนาจแข็ง โดยบวร โทศรีแก้ว ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 จากเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์] สืบค้นวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557</ref> โดยอาศัยทรัพยากรณ์พื้นฐาน 3 ประการได้แก่ วัฒนธรรม (culture) ค่านิยมทางการเมือง (political values)<ref name="kositthiphon">[http://kositthiphon.blogspot.com/2008/12/soft-power-public-diplomacy.html ที่มาของ soft power โดยสิทธิพล เครือรัฐติกาล, Ph.D.] สืบค้นวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557</ref> และ นโยบายต่างประเทศ (foreign policies)<ref name="sisat">[http://www.sisat.ac.th/main/images/document/p08-09-54-001.doc พลังอำนาจแบบแข็ง ( Hard Power ) และพลังอำนาจแบบอ่อน ( Soft Power ) โดย ดร.อนันท์ งามสะอาด] สืบค้นวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557</ref>
{{เพิ่มอ้างอิง}}
'''อำนาจอ่อน''' ({{lang-en|Soft power}}) คือ แนวคิดที่พัฒนาโดย Joseph Nye จาก[[มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด]] ซึ่งมีความสามารถในการดึงดูดและสร้างการมีส่วนร่วมมากกว่าการบังคับหรือให้เงิน ในปัจจุบันใช้ในการเปลี่ยนแปลงและสร้างอิทธิพลต่อความคิดของสังคมและประชาชนในประเทศอื่น โดยอาศัยทรัพยากรณ์พื้นฐาน 3 ประการได้แก่ วัฒนธรรม (culture) ค่านิยมทางการเมือง (political values) และ นโยบายต่างประเทศ (foreign policies)
 
== แหล่งทรัพยากรของ Soft power ==
Nyeโจเซฟ เนย์ ได้กล่าวว่าแหล่งทรัพยากรสำคัญของ soft power ประกอบไปด้วย 3 ประการดังนี้
#'''วัฒนธรรม''' (culture) ถ้าวัฒนธรรมของประเทศหนึ่งมีความสอดคล้องกับผลประโยชน์และค่านิยมของประเทศอื่นๆ โอกาสที่วัฒนธรรมดังกล่าวจะกลายเป็น Soft Power ของประเทศนั้นก็จะมีมากขึ้น ช่องทางที่ทำให้วัฒนธรรมของประเทศหนึ่งเป็นที่รู้จักในประเทศอื่นๆ นั้นมีมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการค้า การเยี่ยมเยือน การติดต่อสื่อสาร และการแลกเปลี่ยน<ref name="thairath"/>
#'''ค่านิยมทางการเมือง''' (political values) ถ้าประเทศดังกล่าวมีค่านิยมทางการเมืองที่สอดคล้องกับประเทศอื่นๆ soft power ของประเทศนั้นจะเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันถ้าค่านิยมของประเทศดังกล่าวขัดกับค่านิยมของประเทศอื่นๆอย่างชัดเจน soft power ของประเทศนั้นก็จะลดลง ตัวอย่างเช่น การที่สหรัฐอเมริกาในทศวรรษ 1950 ยังคงมีการแบ่งแยกสีผิว (racial segregation) ทำให้ soft power ของสหรัฐอเมริกาในทวีปแอฟริกานั้นมีน้อย เป็นต้น<ref name="kositthiphon"/>
#'''นโยบายต่างประเทศ''' (foreign policies) ถ้าประเทศหนึ่งดำเนินนโยบายที่หน้าไหว้หลังหลอก (hypocritical) ก้าวร้าว และไม่แยแสต่อท่าทีของประเทศอื่นๆ โอกาสที่จะสร้าง soft power จะมีน้อย ดังเช่นกรณีของสหรัฐอเมริกาที่บุกยึดอิรักใน ค.ศ. 2003 โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของประเทศอื่นๆ เป็นต้น แต่ถ้าประเทศดังกล่าวมีแนวนโยบายต่างประเทศที่รักสันติภาพและเคารพในสิทธิมนุษยชน โอกาสที่จะสร้าง soft power ให้เกิดขึ้นจะมีมาก<ref>[http://kositthiphon.blogspot.com/2008/12/soft-power-public-diplomacy.html ที่มาของ soft power โดยสิทธิพล เครือรัฐติกาล, Ph.D.] สืบค้นวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557<name="sisat"/ref>
 
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
*Nye, Jr., Joseph S. (2004). Soft Power: The Means to Success in World Politics. New York: PublicAffairs.
 
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
*[http://www.manager.co.th/daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000032600 อำนาจแข็ง อำนาจนุ่ม - สหรัฐฯ จีน ไทย โดยสันติ ตั้งรพีพากร ณ วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555 จากเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์]
 
[[หมวดหมู่:ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ]]