ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เติ้ง ชุ่ยเหวิน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Pattarain (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Pattarain (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 2:
| bgcolour =
| name = เติ้งชุ่ยเหวิน
| image = Sheren_Tang_on_June_21.jpeg
| imagesize =
| caption =
บรรทัด 59:
แม้ TVB จะอ้าแขนต้อนรับกับการกลับมา แต่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญหรือป้อนงานดีๆให้กับเธอมากเท่าที่ควร หากจะกล่าวว่าเธอถูกลดลำดับจากนักแสดงเกรด A ไปเป็นอยู่ขั้นอื่นก็ไม่ถือว่ากล่าวเกินไปนัก ผลงานส่วนใหญ่ในช่วงนั้นจึงค่อนข้างล่อแหลมและเต็มไปด้วยฉากเลิฟซีนที่เร่าร้อนรุนแรง ตัวอย่างเช่น Quick Step of Passion ที่เรียกได้ว่าเป็นละครโทรทัศน์เรต R ของทางช่อง หรือ Loving You 1-2 เกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์ของคนฮ่องกงในสังคมหลากหลายรูปแบบซึ่งซีรีส์จบในตอนเป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผลงานในช่วงนั้นกลับมีส่วนช่วยในการพัฒนาฝีมือทางการแสดงให้กับเธอเป็นอย่างมาก ทั้งยังเปิดโอกาสให้เธอได้แสดงในบทบาทที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวพราวเสน่ห์ ตำรวจสุดแกร่ง คุณหมอสุดเฉิ่ม แม่บ้านลูกติด แม่ค้าหาบเร่ แอร์โฮสเตส พนักงานอาบอบนวด เด็กเสี่ย ไปจนถึงบทรักร่วมเพศ ที่หาดูไม่ได้ในง่ายๆในวงการบันเทิงฮ่องกง
 
==2004-ปัจจุบัน2013==
 
จุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอกลับมารุ่งโรจน์ในวงการบันเทิงอีกครั้ง คงจะหนีไม่พ้น '''ศึกรักจอมราชันย์''' ละครพีเรียดชื่อดังแห่งปี 2004 ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายทั้งในฮ่องกง ไต้หวัน แผ่นดินใหญ่ ตลอดจนถึงประเทศไทย แต่ใครเลยจะรู้ว่าในความเป็นจริงนั้น เติ้งชุ่ยเหวินไม่ใช่คนที่ถูกวางตัวให้เล่นเป็น '''หยูเฟย''' สนมเอกคนโปรดของเจียชิ่งฮ่องเต้ในตอนแรก ทว่ากลับเป็นตัวสำรองของผู้กำกับที่ได้รับเล่นเรื่องนี้ เพราะนักแสดงหญิงคนอื่นปฏิเสธบทนี้ไปต่างหาก อีกทั้งทางทีมงานก็ไม่ได้ให้ความสำคัญในการโปรโมทเธอในฐานะ 1 ใน 4 นักแสดงหญิงตัวเอกของเรื่องมากนักเมื่อเทียบกับนักแสดงนำคนอื่นๆ แต่ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ประกอบกับบทหยูเฟยที่มีลักษณะเป็นหญิงแกร่ง ฉลาดเฉลียว โหดเหี้ยมแต่ก็มีความน่ารักอ่อนโยน จึงถูกอกถูกใจผู้ชมยุคใหม่ที่เริ่มเบื่อนางเอกหงิมๆสนิมสร้อยเข้าอย่างจัง ไม่เว้นแม้กระทั่ง '''ฉงเหยา''' นักเขียนนวนิยายชื่อดังเจ้าของบทประพันธ์ชุดตำนานรักดอกเหมยและองค์หญิงกำมะลอ เธอจึงกลายเป็นนักแสดงหญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในละครเรื่องนั้นไปโดยปริยาย