ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เนตรน้อย ศ.วรสิงห์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 30:
หลายเดือนต่อมา มีผู้ชักชวนให้กลับมาชกมวยใหม่ โดยย้ายไปอยู่กับค่าย "ศ.วรสิงห์" ของ ธรรมนูญ วรสิงห์ และชกใหม่ในแบบมวยสากล ซึ่งการชกในแบบมวยสากลนี้ เนตรน้อยทำได้ดี มีหนัดที่หนักที่โดยเฉพาะหมัดซ้าย ในปี [[พ.ศ. 2518]] เนตรน้อยชกชนะรวดทั้ง 7 ครั้ง มีแพ้อยู่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น "เศียรสมิง" คอลัมนิสต์มวยชื่อดังในสมัยนั้น จึงแนะนำให้เนตรน้อยเปลี่ยนเทรนเนอร์ใหม่เป็น ออมทรัพย์ แหลมฟ้าผ่า
 
เนตรน้อยกลับมาชนะติดกัน 2 ครั้ง และได้โอกาสชิงแชมป์รุ่นจูเนียร์ฟลายเวทของ[[เวทีมวยราชดำเนิน]] แต่ปรากฏว่าแพ้น็อกเพียงแค่ ยก 2 เท่านั้น ทางฝ่ายผู้จัดการ ธรรมนูญ วรสิงห์ จึงได้เปลี่ยนเทรนเนอร์เป็น สุดใจ สัพพะเลข โดยไปฝึกซ้อมอยู่ที่ใต้ถุนยิมเนเซี่ยม 1 [[สนามกีฬาแห่งชาติ]] เนตรน้อยจึงมีฝีมือดีขึ้นเรื่อย ๆ การชกก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ จนกระทั่งได้มีโอกาสชิงแชมป์ภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก (OPBF) กับ ชาง อิล ชุง นักมวยชาว[[ชาวเกาหลีใต้]] ถึงถิ่นของแชมป์เอง เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ ชกได้ดี แต่เมื่อครบ 12 ยก กรรมการตัดสินให้เสมอกันอย่างค้านสายตา
 
== ได้ชิงแชมป์โลก ==
บรรทัด 36:
เมื่อกลับมา เนตรน้อยได้ครองแชมป์ของเวทีราชดำเนินโดยชนะคู่ปรับเก่า และได้แชมป์รุ่นเดียวกันของ[[สนามมวยเวทีลุมพินี]]ด้วย ต่อมาชนะน็อกยก 9 มนต์สยาม ฮ.มหาชัย นักมวยที่มีคิวชิงแชมป์โลก เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ จึงได้มีชื่อติดอันดับโลกเป็นครั้งแรก จากนั้นในปี [[พ.ศ. 2520]] เนตรน้อยได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกครั้งแรกที่กรุง[[คารากัส]] [[ประเทศเวเนซุเอลา|ประเทศเวเนซุเอล่า]] กับ หลุยส์ เอสตาบ้า เจ้าของตำแหน่ง
 
หลุยส์ เอสตาบ้า ป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้ถึง 10 ครั้งแล้ว มีประสบการณ์ รูปร่าง ช่วงชกได้เปรียบเนตรน้อยมากมาย แต่เมื่อได้ชกเข้าจริงแล้ว เนตรน้อยกลับทำได้ดี เกือบจะได้นับเอสตาบ้าหลายครั้ง แต่เมื่อครบ 15 ยกแล้ว กรรมการรวมคะแนนให้เอสตาบ้าชนะไปอย่างค้านสายตาอย่างที่สุด เมื่อกลับมาเนตรน้อยชกอุ่นเครื่องอีกหลายครั้ง จนโอกาสของเนตรน้อยมีอีกในครั้งที่ 2 เมื่อแชมป์เปลี่ยนเป็น เฟร็ดดี้ คัสติญโญ่ และเดินทางมาป้องกันตำแหน่งแชมป์ครั้งแรกกับเนตรน้อย ที่เวทีมวยชั่วคราว [[สนามกีฬากองทัพบก]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2521]] เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ จึงประสบความสำเร็จได้เป็นแชมป์โลก ด้วยการชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์กับคัสติญโญ่ ไปคัสติญโญ่ไป
 
== แชมป์โลกคนที่ 6 ==
 
แต่เมื่อเนตรน้อยได้เป็นแชมป์โลกแล้ว ปรากฏความยุ่งยากเกิดขึ้นเมื่อผู้สนับสนุนรายหนึ่ง มีสัญญาว่าถ้าเนตรน้อยป้องกันแชมป์ชนะไปเรื่อย ๆ เงินรางวัลที่ได้ต้องแบ่งให้ 15 เปอร์เซนต์ทุกครั้ง สัญญาจะสิ้นสุดลงเมื่อเนตรน้อยเสียแชมป์โลกแล้ว เนตรน้อยได้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้เดียวครั้งเดียว และเสียแชมป์ให้แก่ ซัง จุน คิม นักมวยชาวเกาหลีใต้ไปอย่างง่ายดาย แค่ยกที่ 3 ที่กรุง[[กรุงโซล]] ประเทศเกาหลีใต้ และไม่มีโอกาสจะได้แก้มืออีกเนื่องจากในสัญญาการชกไม่ได้ระบุเอาไว้ เนตรน้อยต้องใช้เวลาถึง 3 ปี ด้วยกัน จึงจะได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้ง ในปี [[พ.ศ. 2524]] ที่จ.จังหวัดนครราชสีมา กับ ฮิราริโอ ซาปาต้า แชมป์โลกชาว[[ปานามา]] ผลการชกปรากฏว่าเนตรน้อยเสียเปรียบรูปร่างซาปาต้าเป็นอย่างมาก จึงเป็นฝ่ายแพ้น็อกไปในยกที่ 10 เป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ไม่สำเร็จ ต่อมาในปี [[พ.ศ. 2525]] เนตรน้อย ศ.วรสิงห์เป็นฝ่ายชนะน็อก มันส์ ส.จิตรพัฒนา นักมวยสร้างที่หวังว่าจะเป็นแชมป์โลกรายใหม่เพียงแค่ยกที่ 5
 
นอกจากนี้แล้วเนตรน้อยยังเป็นนักมวยที่มีรูปร่างเล็ก มีส่วนสูงเพียง 149.8 เซนติเมตรเท่านั้น อีกทั้งเมื่อได้เป็นแชมป์โลกยังได้สร้างสถิติเป็นนักมวยที่ครองแชมป์โลกด้วยอายุน้อยที่สุดในเวลานั้น คือ 19 ปี 14 วัน