ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มังกรเดียวดาย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 51:
และแล้ว วันเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป....18 ปี หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายนั้น อาเล้ง (เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร) ได้เติบโตเป็นเด็กหนุ่ม และมีนิสัยคึกคะนองไม่ต่างอะไรจากตี๋เล็กผู้เป็นบิดา ไม่ว่าจางเหาจะอบรม หรือทำโทษสักเท่าใด อาเล้งก็อาศัยความเจ้าเล่ห์เพทุบายเอาตัวรอดไปได้เสมอ คนเดียวที่อาเล้งดูจะเชื่อฟังที่สุดก็มีแต่อาลั้งเท่านั้น ทางด้านเต็งล้อ แม้เข้าสู่วัยชราแต่ยังต้องทำงานอย่างหนักเพื่อคอยรั้งอำนาจพวกหัวหน้าสาขาต่าง ๆ ที่คิดแย่งชิงตำแหน่งจากตนและกลุ่มอิทธิพลฝ่ายตรงข้าม นอกจากนี้ยังนำพาสมาคมห้าสมุทรให้ขยายอำนาจแผ่ไพศาลออกไป คนที่เข้าใจและเห็นใจเต็งล้อมากที่สุดนั้นเห็นจะมีเพียง อาเหมย (แอนนิต้า นิษิตา พงศ์ทรง) บุตรสาวของบิ๊กชายกับอาหลิงที่ให้ความเคารพนับถือเต็งล้อเช่นดังญาติผู้ใหญ่แท้ๆของตน ที่หมั่นแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอทำให้เต็งล้อผ่อนคลายความเหงาลงได้บ้าง
ส่วนโป๊ยตี๋นั้นหลังจากเพลี่ยงพล้ำให้แก่เต็งล้อ ก็ต้องหันมาสั่งสมบารมีของตัวเองขนานใหญ่ โดยอาศัย อาเปา (อ้น เลอวิทย์ สังข์สิทธิ์) บุตรชายคนโตของตนที่เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ให้ออกมาสร้างผลงานชิงดีชิงเด่นกับเต็งล้ออยู่เสมอ ส่วนอีกทางหนึ่งนั้นก็ให้ อาเปียว (กอล์ฟ กริช หิรัญพฤกษ์) บุตรชายคนเล็กคอยตามตื้ออาเหมย เพื่อหวังจะเป็นทองแผ่นเดียวกับบิ๊กชาย แม้บิ๊กชายจะรู้ว่าโป๊ยตี๋มีจุดประสงค์ใด แต่ก็ยังสนับสนุนให้อาเหมยได้เป็นฝั่งเป็นฝากับอาเปียว เพราะหวังว่าความสัมพันธ์นี้จะช่วยเยียวยาความบาดหมางในสมาคมฯลงได้
 
ทางด้านอาเหมยที่ชิงชังความเป็นจอมเสเพลของอาเปียว จึงแก้เผ็ดผู้เป็นพ่อด้วยการหนีออกจากบ้าน จนได้พบกับอาเล้งโดยบังเอิญ ทั้ง2ถูกชะตากันอย่างมาก อาเล้งจึงพาอาเหมยมาพักที่กระท่อม แต่เมื่อจางเหารู้ว่าอาเหมยเป็นคนของสมาคม ก็ขับไล่ไสส่ง ทำให้อาเล้งไม่พอใจ และหนีไปกรุงเทพฯ พร้อมกับอาเหมย เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ อาเล้งขอให้อาเหมยพาตนไปพบกับญาติที่ชื่ออาฟาน ซึ่งเป็นคนดูแลศาลเจ้าในสมาคมฯ และที่นี่เองที่ทำให้อาเล้งได้พบกับเต็งล้อ ในขณะที่เต็งล้อมาไหว้พระที่ศาลเจ้า เต็งล้อรู้สึกถูกชะตาอาเล้งอย่างน่าประหลาดใจ ได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ภายในใจ
 
ทางด้านจางเหาก็ถูกอาลั้งหว่านล้อมจนยอมเดินทางเข้าเมืองมาตามหาอาเล้ง แต่เมื่อได้เจอตัวอาเล้งกลับดื้อดึงไม่ยอมกลับบ้าน เมื่อเป็นเช่นนั้นจางเหาก็หมดความอดทน แอบย้อนกลับมาหมายจะสังหารเต็งล้อเสีย เพราะทนไม่ได้ที่เต็งล้อมาชักจูงอาเล้งให้เลือกเดินทางผิด แต่สิ่งที่มันคาดไม่ถึงก็คือ อาเล้งกลับเสี่ยงตายเข้าปกป้องเต็งล้อเอาไว้ จากการที่จู่ๆ จางเหาที่ตัดขาดจากชีวิตนักเลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว กลับหวนเข้ามาหมายจะปลิดชีวิตตนเอง ทำให้เต็งล้อนึกสงสัยในชาติกำเนิดของอาเล้ง จึงสืบสวนจนพบแหวนทอง ”ธรรมกุล” ในตัวอาเล้งเข้า ถึงได้รู้ว่าแท้จริงอาเล้งก็คือหลานชายของตนนั่นเอง ดังนั้นเต็งล้อจึงได้คิดแผนที่จะกำจัดจางเหาเสีย เพราะตราบใดจางเหายังมีชีวิตอยู่ ก็คงไม่ยอมปล่อยให้อาเล้งสืบทอดอำนาจต่อจากตนแน่นอน อีกทั้งความแค้นของตนกับจางเหานั้น ก็สมควรแก่เวลาแล้วที่ต้องสะสาง เต็งล้อหลอกอาเล้งให้พาตนไปพบจางเหาเพื่อสะสางความแค้น ส่วนอาเล้งก็หลงเชื่อว่าปู่ของตนคงเห็นแก่ความดีที่จางเหาอุปการะตนไว้ จึงอยากตอบแทนบุญคุณด้วยการญาติดีกับลุง ดังนั้นอาเล้งจึงยอมนำทางเต็งล้อไปพบบ้านป่าด้วยความเต็มใจ