ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โอซากะ"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม) imperial court = ราชสำนัก ไม่ใช่ ศาลหลวง |
|||
บรรทัด 12:
| imagesize =
| image_alt =
| image_caption = [[อุเมะดะสกาย]]<br>[[Dōtonbori|โดทงโบะริ]] และ [[Tsūtenkaku|
| image_flag = Flag of Osaka City.svg
| flag_alt = Miotsukushi
บรรทัด 126:
}}
'''โอซะกะ''' ({{ญี่ปุ่น|大阪|Ōsaka}}) เป็นนครในภาค[[คันไซ]]ของ[[เกาะฮนชู]] ตั้งอยู่ใน[[จังหวัดโอซะกะ]] จัดเป็นนครในเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 และเป็นนครที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของ[[ประเทศญี่ปุ่น]] และเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของสามนครใหญ่[[เคฮันชิง]] ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นนั้นได้จัดตั้งให้เป็นหนึ่งในหลายเมืองของประเทศที่มี[[เมือง
เมืองโอซะกะมีประชากรทั้งหมดประมาณ 2.7 ล้านคน แต่ในช่วงเวลาทำงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.7 ล้านคน ซึ่งเป็นรองเพียงแต่โตเกียวเท่านั้น อัตราส่วนประชากรกลางวันต่อกลางคืนเท่ากับ 141 เปอร์เซ็นต์ นครตั้งอยู่ที่ปาก[[แม่น้ำโยะโดะ]] [[อ่าวโอซะกะ]] และ[[ทะเลเซะโตะ]]
โอซะกะเป็นเป็นเมืองสำคัญทาง[[ประวัติศาสตร์]] ทั้งการค้าและวัฒนธรรมเมืองหนึ่งของ[[ประเทศญี่ปุ่น]]
== ประวัติศาสตร์ ==
=== ยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงยุคโคะฟุง ===
เส้น 139 ⟶ 138:
ในสมัย[[ยุคยะโยะอิ|ยะโยะอิ]] มีการค้นพบการตั้งถิ่นฐานถาวรเป็นครั้งแรก ในบริเวณที่ราบของโอซะกะ โดยยึดการปลูกข้าวเป็นอาชีพหลัก
ใน[[ยุคโคะฟุง]] โอซะกะ
=== ยุคอะซุกะและยุคนะระ ===
ในปี
แม้จะมีการย้ายเมืองหลวงไปที่อะซุกะ (ใน[[จังหวัดนะระ]]ในปัจจุบัน) ในปี
ในปี
=== ยุคเฮอันถึงยุคเอะโดะ ===
ในปี
โอซะกะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน<ref name="Osaka city">[http://www.city.osaka.lg.jp/contents/wdu020/english/for_tourists/c_historical_overview.html Osaka city]{{Dead link|date=May 2010}}</ref> มีประชากรที่เป็นชนชั้นพ่อค้าในสัดส่วนที่สูง โดยใน[[ยุคเอะโดะ]] (พ.ศ. 2146 - พ.ศ. 2410) โอซะกะเติบโตไปเป็นเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นและกลับมาเป็นเมืองท่าที่คึกคักอีกครั้ง วัฒนธรรมของโอซะกะมีความเกี่ยวข้องกับ[[ภาพอุกิโยะ]] อันเป็นภาพวาดที่มีชื่อเสียงใน[[ยุคเอะโดะ]] โดยในปี
ในปี
รัฐบาล[[โชกุน]]เปิดให้โอซะกะเป็นเมืองที่เปิดรับการค้ากับต่างประเทศเช่นเดียวกับ[[เฮียวโงะ]] (ปัจจุบันคือ [[โคเบะ]]) ในวันที่
=== โอซะกะยุคใหม่ ===
[[ไฟล์:Sennichimae Osaka ca1916.JPG|thumb|บริเวณเซนนิชิมะเอะ ในปี พ.ศ. 2459]]
กฤษฎีการัฐบาลได้ก่อตั้งโอซะกะให้เป็นเมืองที่มีการปกครองพิเศษ ในฐานะ[[เมืองอันตั้งขึ้นโดยข้อบังคับ]] ในปี
แต่ในอีกมุมหนึ่งของการเจริญเติบโต โอซะกะก็มีสลัม คนว่างงาน และคนจน เช่นเดียวกับในยุโรปและอเมริกา เทศบาลนครโอซะกะจึงจัดตั้งระบบจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อเยียวยาคนจนขึ้น โดยใช้แบบฉบับมาจากอังกฤษ ผู้ร่างนโยบายของโอซะกะได้ให้ความสำคัญกับการสร้างครอบครัวและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการต่อสู้กับความยากจน ซึ่งเป็นวิธีการที่จะช่วยลดงบประมาณของนโยบายเปลี่ยนแปลงเมืองไปสู่ความร่ำรวย <ref name="Kingo Tamai 1926">Kingo Tamai, "Images of the Poor in an Official Survey of Osaka, 1923-1926." ''Continuity and Change'' 2000 15(1): 99-116. Issn: 0268-4160 Fulltext: [[Cambridge UP]]</ref>
เส้น 167 ⟶ 166:
== ที่มาของชื่อ ==
"โอซะกะ" หมายถึง เนินเขาใหญ่ ในสมัยก่อน โอซะกะเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ''นะนิวะ'' และไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า
== สภาพทางภูมิศาสตร์และภูมิอากาศ ==
=== ภูมิศาสตร์ ===
เมืองโอซะกะตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำทางตะวันตกของ[[แม่น้ำโยะโดะ]] ริม[[อ่าวโอซะกะ]] ล้อมรอบด้วยเมืองเล็กกว่าสิบเมืองใน[[จังหวัดโอซะกะ]] มีพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 13 ของจังหวัดโอซะกะ โดยสมัยก่อตั้งเมืองในปี 1880 เมือง
===ภูมิอากาศ===
เส้น 330 ⟶ 329:
=== ใจกลางเมือง ===
ใจกลางของโอซะกะ
บริเวณคิตะล้อมรอบไปด้วยพื้นที่ธุรกิจและค้าปลีกในย่าน[[อุเมะดะ]] ส่วนบริเวณมินะมิหมายรวมถึงย่านช็อปปิ้งอย่าง[[นัมบะ]] [[ชินไซบะชิ]] และ[[โดทมโบะริ]] มีแหล่งบันเทิงตั้งอยู่มากมายที่สะพานโดทมโบะริ รวมทั้งสัญลักษณ์ปูยักษ์ที่มีชื่อเสียง ป้ายไฟกุลิโกะ สวนสามเหลี่ยม และหมู่บ้านอเมริกา ส่วนบริเวณระหว่างคิตะกับมินะมิก็มีโยะโดะยะบะชิและฮมมาชิที่เป็นแหล่งธุรกิจดั้งเดิม มีสถานที่ราชการ สำนักงานของธนาคารใหญ่ๆ ตั้งอยู่มากมาย ส่วนบริเวณพื้นที่ธุรกิจแห่งใหม่ของโอซะกะจะอยู่ที่บริเวณ'''อุทยานธุรกิจโอซะกะ'''ใกล้กับปราสาทโอซะกะ นอกจากนี้ ยังมีย่านธุรกิจสำคัญอื่นๆตั้งอยู่ที่บริเวณสถานีเทนโนจิและสถานีเคียวบะชิ
'''808 สะพานแห่งนะนิวะ''' คือคำกล่าวแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของโอซะกะในยุคโบราณ โดยตัวเลข 808 นี้เป็นสัญลักษณ์ของแนวคิดที่ว่า"นับไม่ได้"แม้ในสมัย[[ยุคเอะโดะ|เอะโดะ]] โอซะกะจะมีสะพานเพียงแค่ประมาณ 200 แห่งก็ตาม และเนื่องจากโอซะกะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแม่น้ำ คลอง สะพานแต่ละแห่งจึงมีชื่อ และบริเวณเหล่านั้นก็มัก
|location=Kyoto, Japan |year=2004 |page=195 |isbn=978-90-5809-680-7 |oclc= |doi=|url=http://books.google.com/?id=ZiDvMz1CIvwC&pg=PA195r&dq=872+760#v=onepage&q=872%20760}}</ref>
== ประชากร ==
จากการสำมะโนประชากรในปี พ.ศ. 2548 โอซะกะมีผู้อยู่อาศัย 2,628,811 คน เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2543 จำนวน 30,037 คน คิดเป็นร้อยละ 1.2<ref name='C2005'>{{cite web|url=http://www.e-stat.go.jp/SG1/estat/NewListE.do?tid=000001007251 |title=2005 Population Census |accessdate=2009-02-18 |publisher=Statistics Bureau, Director-General for Policy Planning (Statistical Standards) and Statistical Research and Training Institute, Japan }}</ref> แบ่งเป็น 1,280,325 ครัวเรือน หรือประมาณครัวเรือนละ 2.1 คน ความหนาแน่นประชากรอยู่ที่ 11,836 คนต่อตารางกิโมตร โดยเหตุการณ์[[แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต พ.ศ. 2466]] ทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นอพยพมาอยู่โอซะกะจำนวนมากในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2463-2473 จนกระทั่งในปี
ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองโอซะกะมีจำนวนที่ลงทะเบียนไว้ 99,775.5 คน โดยมีกลุ่มใหญ่คือ เกาหลี 71,015 คน และจีน 11,848 คน
เส้น 405 ⟶ 404:
[[ไฟล์:Osaka umeda06s3200.jpg|thumb|upright|แถบโอซะกะเป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับที่ 7 ของโลก รองจากโตเกียว นิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส ชิคาโก ปารีส และลอนดอน]]
ผลิตภัณฑ์มวลรวมของเมืองโอซะกะในปีงบประมาณ 2547 อยู่ที่ 21.3 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 1.2 ตัวเลขนี้คิดเป็นร้อยละ 55 ของผลผลิตที่ได้จาก[[จังหวัดโอซะกะ]] และคิดเป็นร้อยละ 26.5 ของแถบคันไซ สามอุตสาหกรรมหลักของโอซะกะคือ การพาณิชย์ การบริการ การผลิต ในปี
[[ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ]]ในส่วนของโอซะกะและโคเบะอยู่ที่ 341 พันล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นเมืองปากแม่น้ำที่มีผลผลิตมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเช่นเดียวกับปารีสและลอนดอน<ref name="pwc.com">[http://www.pwc.com/uk/eng/ins-sol/publ/ukoutlook/pwc_ukeo-section3-march07.pdf ]{{Dead link|date=May 2010}}</ref>
ตามประวัติศาสตร์แล้ว โอซะกะเป็นศูนย์กลางการค้าของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะในยุคกลางและก่อนยุคใหม่ โดยในปี
ศูนย์แลกเปลี่ยนหลักทรัพย์โอซะกะ ตั้งอยู่ที่เมืองโอซะกะ เน้นความสำคัญด้านการแลกเปลี่ยนอนุพันธ์ เช่น ฟิวเจอร์สนิกเกอิ 225 นอกจากนี้ การควบรวมกับ JASDAQ ก็ช่วยให้การแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ของโอซะกะกลายเป็นแหล่งก่อตั้งบริษัทแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น<ref name="経営に資する統合的内部監査">{{cite web|author=経営に資する統合的内部監査 |url=http://www.j-cast.com/2008/06/11021633.html |title=大証との経営統合、ようやく決着 ジャスダック : J-CASTニュース |publisher=J-cast.com |date= |accessdate=2010-05-05}}</ref>
เส้น 459 ⟶ 458:
===แหล่งซื้อสินค้าและอาหาร===
โอซะกะเป็นแหล่งค้าส่งและค้าปลีกขนาดใหญ่ มีร้านค้าส่ง 25,228 ร้านและร้านค้าปลีก 34,707 ร้านในปี
พื้นที่สินค้าอีกแห่งหนึ่งที่สำคัญคือ เดนเดนทาวน์ เป็นแหล่งรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และการ์ตูน/อะนิเมะที่สำคัญของโอซะกะ คล้ายกับย่าน[[อะกิฮะบะระ]]ของ[[โตเกียว]] ส่วนย่าน[[อุเมะดะ]]เป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้าและห้างโยะโดะบะชิคาเมร่า อันเป็นห้างสรรพสินค้าด้านอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังของญี่ปุ่น
เส้น 469 ⟶ 468:
แหล่งช็อปปิ้งแหล่งอื่นๆของโอซะกะได้แก่
* หมู่บ้านอเมริกา - สินค้าสำหรับวัยรุ่น
* [[โดทมโบะริ]] - ส่วนหนึ่งของนัมบะและ
* [[นัมบะ]] - พื้นที่ซื้อขายสินค้า
* [[ชินไซบะชิ]] - ของประดับ เสื้อผ้า และห้างสรรพสินค้า
* [[อุเมะดะ]] - โรงภาพยนตร์ เครื่องสำอาง และห้างสรรพสินค้า
เส้น 510 ⟶ 509:
* [[ปราสาทโอซะกะ]]
* ศาลเจ้าซังโค
* วัดชิเทนโนจิ - วัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นใน
* ศาลเจ้าซุมิโยะชิ ไทชะ - ศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น สร้างในปี
=== แหล่งบันเทิง ===
* [[โดทมโบะริ]] - แหล่งท่องเที่ยว อาหาร เป็นสัญลักษณ์ของโอซะกะ
* [[นัมบะ]]และ[[ชินไซบะชิ]] - ตั้งอยู่ที่เขตชูโอะ มัก
* ชินเซะไก - อีกสัญลักษณ์หนึ่งของโอซะกะ แหล่งอาหาร เครื่องดื่ม มีหอคอยซือเตนคะคุ และขายคะชิคะสึราคาย่อมเยา
* เดนเดนทาวน์ - แหล่งขายเครื่องใช้ไฟฟ้า อะนิเมะ เทียบเท่ากับ[[อะกิฮะบะระ]]ของ[[โตเกียว]]
|