|
ธนกร พุ่มสมพงษ์ (อังกฤษ: Tanakorn poomsompong) (เกิดวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536) เป็นนักฟุตบอลชาวไทยเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลจันทบุรี ธนกรเกิดที่กรุงเทพมหานครเขตเมืองชนบทขนาดย่อมของกรุงเทพมหานคร เดิมธนกรเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสรฟุตบอลปักกิ่งกั๋วอันในประเทศจีน ไชน่าซุปเปอร์ลีก (จีนตัวเต็ม: 中國足球協會超級聯賽; จีนตัวย่อ: 中国足球协会超级联赛; พินอิน: Zhōngguó Zúqiú Xiéhuì Chāojí Liánsài), ซูเปอร์ลีกที่ถูกสร้างขึ้นโดย สมาคมฟุตบอลจีน (CFA) มาแทนลีกเดิมที่มีชื่อว่า เจีย-เอลีก(Jia-A League)ในปี 2547 โดยเริ่มต้นมีเพียง 12 ทีมเข้าร่วมการแข่ง จนกระทั่งในปี 2552 ได้เพิ่มจำนวนทีเข้าร่วมเป็น 16 ทีม และก้าวขึ้นมาติดทีมชุดสำรอง รวมถึงการที่ได้รับเลือกให้เป็นกัปตันของทีม โดยในขณะนั้นธนกรมีอายุเพียง 16 ปี ธนกรได้รับฉายาจากสื่อในจีนว่า "希望" (ความหวัง) ธนกรเป็นศูนย์หน้าที่มีพรสวรรค์ในการเล่นเป็นอย่างมาก เขาสามารถยิงประตู 75 ประตูใน 5 ฤดูกาล ในลีกสูงสุดของจีน โดยมีเพียง ซามูเอล และ หลิน ยัง ที่ยิงได้มากกว่าในระยะเวลาเดียวกัน
วงโยธวาทิต (Marching Band)
ฤดูกาล 2005-2006 (ฤดูกาลแรก)[แก้] ธนกรตอนเล่นให้กับปักกิ่งกั๋วอันในฤดูกาล 2005-06 ค่าตัวในการเซ็นสัญญาของ ธนกร พุ่มสมพงษ์ ได้รับการบันทึกไว้เป็นสถิติสูงสุดของปักกิ่งกั๋วอัน แม้ว่าสื่อจีนรายงานว่า ค่าตัวนักเตะอยู่ที่ประมาณ 700หยวน(ระดับเยาวชน)เฉิน ลี ยืนยันในการสัมภาษณ์กับสื่อจีนว่า ค่าตัวอยู่ที่เกือบ 600หยวน ยังมีรายงานอีกว่า ธนกรยอมลดค่าเหนื่อยสำหรับการย้ายตัว หนังสือพิมพ์ ตงฮั้วยิดเป้า รายงานว่าค่าตัวอยู่ที่670หยวน ในวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ 2005 ธนกรลงแข่งนัดเปิดตัวให้ปักกิ่งกั๋วอันชุดเยาวชน โดยแข่งกับต้าเหลียนซรือเต้อและชนะไปด้วยสกอร์ 2-1หลังจากนั้นธนกรยิงประตูแรกในสำเร็จไชน่าซุปเปอร์ลีกเยาวชนในการลงแข่งครั้งแรกในสนาม ในวันที่ 19 สิงหาคม ในนาทีที่ 16 ผลเสมอ 1-1 กับกว่างโจวRแอนด์F โดยวิ่งไปรับบอลจากการส่งของ สตีเฟน คอฟโก้ ธนกรเลี้ยงผ่านกองหลังกว่างโจวRแอนด์F ยัง จี และยิงผ่านมือผู้รักษาประตู เจ๋ง ยุนิ เข้าไปตุงตาข่ายกว่างโจวRแอนด์F
ประวัติวงโยธวาทิต
ธนกรยิงแฮตทริกเป็นครั้งแรกให้สโมสร ในวันที่ 25กันยายน ในนัดเยือน ถ้วยลีกคัพยูไม่เกิน16กับกุ้ยโจวเหรินเฮอและชนะไป 4-2[2]โดยประตูแรกของธนกรในเกมคือประตูที่ยิงให้ปักกิ่งกั๋วอันนำ 2-1 ลูกที่สองของเขาทำให้ปักกิ่งกั๋วอันนำ 3-2 และตามด้วยลูกปิดท้าย 4-2หลังจากจบการแข่งขันธนกรได้รับการคิดเลือกเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำการแข่งขันและเนื่องจากธนกรสามารถทำแฮตทริกได้สำเร็จ เขาจึงได้รับลูกบอลที่ใช้ในการแข่งขันเป็นของที่ระลึก
ความหมายของวงโยธวาทิต
33 ประตู จาก 46 นัดในทุกรายการ เฉพาะเกมลีกเขาทำไป 24 ประตู จาก 33 นัดที่ลงแข่ง และทั้ง 24 ประตูไม่มีลูกจากจุดโทษเลย ทำให้ ธนกร พุ่มสมพงษ์ทำสถิติเป็นนักเตะต่างชาติที่ทำประตูสูงสุดเพียงปีแรกที่ลงเล่นในไชน่าซุปเปอร์ลีกยู16คนใหม่ และทำให้เขามีสถิติยิงประตูเฉลี่ยทุก ๆ 1.39 เกม ทำลายสถิติผู้เล่นที่ทำประตูเฉลี่ยสูงสุดให้ในฤดูกาลแรกของ เฉิน กาน(1.55 เกม) ได้อย่างสิ้นเชิง และยังเอาชนะนักเตะอย่าง หยอง เปา (1.63)ได้อีกด้วย และทุกนัดที่เขาสามารถทำประตูได้ในเกมลีกทีมจะไม่แพ้อีกด้วย และ 25 ประตู ใน 33 ประตูที่เขาทำได้ในฤดูกาลนี้เกิดขึ้นในสนามกุ้ยโจว และนัดสุดท้ายที่เขาเล่นให้คือนัดที่ปักกิ่งกั๋วอันบุกอัดเทียนจิน เทนด้าไป 3-0 เมื่อ 22 มกราคม 2006 ที่ผ่านมาและธนกรก็เป็นคนทำ 2 ประตูและมันก็คือประตูและก็นัดสุดท้ายที่เขาลงเล่นในสีเสื้อปักกิ่งกั๋วอัน
ดุริยางค์ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง องค์ของเครื่องดีด สี ตี เป่า มาจาก ตุริย + องค และมักจะใช้คำว่า “วงดุริยางค์” เรียกวงดนตรีประเภทหนึ่งซึ่งชาวตะวันตกเรียกว่า Orchestra
จันทบุรีเอฟซี2008-2012 หลังจากไปหาประสบการณ์ที่ต่างแดนธนกร พุ่มสมพงษ์ (อังกฤษ: Tanakorn poomsompong)ก็กลับมาประเทศไทยเพราะเรื่องของครอบครัวและได้ไปเล่นให้จันทบุรีเอฟซีโดยมากเล่นตำแหน่งปีกซ้าย เขามีความสามารถด้านฝีเท้าและความสามารถในการทำประตู โดยธนกรย้ายมาจากปักกิ่งกั๋วอันด้วยค่าตัวฟรีเดิมทีเขาเล่นเป็นปีกซ้าย ต่อมาเขาขยับมาเล่นตรงกลาง และตั้งเป้าไว้ว่าจะปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลไทยอย่างรวดเร็ว ประทวน มีจันทร์ ที่กำลังจะย้ายออกไปเล่นให้พัทยาแบบยืมตัว ยกเสื้อหมายเลข 10 ให้กับเขา เขาเปิดตัวโดยลงเป็นตัวสำรองในเกมกับสุพรรณบุรีเอฟซี และทำประตูปิดกล่องในเกมที่เราชนะ 3-1 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2011 ธนกร พุ่มสมพงษ์ได้ประกาศแขวนสตั๊ดใน 1 ม.ค พ.ศ 2555 ด้วยอายุ19 โดยให้เหตุผลว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะหยุดเรื่องของฟุตบอลต่อไปผมจะมุ่งมั่นให้การศึกษาให้มากขึ้นและสักวันหนึ่งผมจะกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง(ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาคณะบริหารธุรกิจ) ผลงานระดับทีมชาติไทย ธนกร พุ่มสมพงษ์ ลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดไทยยู 14,15 โดยทำประตูไป3และ7ประตูตามลำดับจำนวนนัดที่ลงเล่นให้ชุดใหญ่และจำนวนประตูนับเฉพาะลีกท้องถิ่นเท่านั้น และ เป็นข้อมูล ณ วันที่ 16:59,11กรกฎาคม 2012 (UTC).
โยธวาทิต ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง “วงดนตรีที่บรรเลงโดยทหาร ซึ่งมาจากคำว่า โยธ แปลว่า ทหาร รวมกับคำว่า วาทิต แปลว่า ดนตรี หรือผู้บรรเลงดนตรี” โยธวาทิต “เป็นคำศัพท์ที่บัญญัติขึ้นโดยอาจารย์มนตรี ตราโมท ซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบัน” ส่วนในรากศัพท์ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Military Band โดยคำว่า Military นั้นหมายถึงกองทัพ ส่วนคำว่า Band มาจากคำว่า Banda (ในภาษาอิตาเลียน) ใช้เรียกวงดนตรีประเภทหนึ่ง ในประเทศสหรัฐอเมริกาใช้คำว่า Marching Band ซึ่งไม่ว่ารากศัพท์จากภาษาต่างประเทศจะกล่าวอย่างไรแต่ในประเทศไทยเรียกว่าวงโยธวาทิต ที่ผสมวงโดยมีเครื่องดนตรีหลัก 3 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มเครื่องลมไม้ (Woodwind Instruments
2. กลุ่มเครื่องทองเหลือง (Brass Instruments)
3. กลุ่มเครื่องกระทบ (Percussion Instruments)
แต่เดิมนั้น คำว่า Band จะใช้เรียกวงดนตรีที่มีลักษณะเฉพาะของ พระเจ้าชาร์ลที่ 2 ซึ่งในสมัยนั้นจะหมายถึงวงดนตรีที่มีขนาดใหญ่ ในปัจจุบันเราใช้คำว่า Band ต่อท้าย วงดนตรีที่มีลักษณะการผสมเครื่องดนตรีในรูปแบบต่างๆกัน เช่น Wind Band, Military Band, Concert Band, Symphonic Band, หรือ Jazz Band เป็นต้น ตามรากศัพท์เดิม Banda นั้น หมายถึง วงดนตรีที่ประกอบด้วย กลุ่มเครื่องทองเหลือง และเครื่องกระทบ
วงโยธวาทิต เป็นวงดนตรีสำหรับทหาร มีจุดประสงค์ในการใช้งาน คือ การร้องเพลงซอยเท้าเข้าสู่สนามรบของทหาร บทบรรเลงส่วนใหญ่จะเป็นเพลงมาร์ช (March) หรือใช้ประกอบการสวนสนามของทหาร เพื่อปลุกใจในยามสงคราม หรือประกอบพิธีต่างๆของทหาร โดยเฉพาะ มีผู้บรรเลงจำนวนมาก มีเครื่องดนตรีจำพวกแตรทรัมเป็ต (Trumpet) เป็นเครื่องนำ “แตรทรัมเป็ต” ที่เป็นเครื่องดนตรีนำขบวนนั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนกลุ่มใดเรียก เช่นแตรงอน, Alphorn, Buisine, Lituus, Slide Trumpet หรือทรัมเป็ตที่ใช้ในรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เรียกว่า “แตรวิลันดา”(สุกรี เจริญสุข, 2539: 25) กล่าวถึงแตรวิลันดาว่า “ซึ่งเชื่อว่าเป็นแตรฝรั่งที่ชาวฮอลันดานำเข้ามาเป็นชาติแรกในกรุงสยามจึงเรียกว่าแตรวิลันดา คำว่าวิลันดานั้นน่าน่าจะหมายถึง ฮอลันดา” เสียงแตรที่เป่าจะเป็นสัญญาณที่ใช้ต่างกันตามโอกาสเช่น สัญญาณที่ให้ทหารบุกโจมตี สัญญาณ รวมพล สัญญาณแจ้งเหตุ หรือใช้ในกิจกรรมต่างๆ เช่น เพลงเดิน เพลงรุก เพลงรบ เพลงถอย เป็นต้น
| 