ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นามิเอะ อามูโระ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Addbot (คุย | ส่วนร่วม)
Bot: Migrating 23 interwiki links, now provided by Wikidata on d:q266676 (translate me)
ป้ายระบุ: ลบลิงก์ข้ามภาษา
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่คำผ่านการค้นหา: 'อัลบัม'→'อัลบั้ม'
บรรทัด 37:
ในปี [[พ.ศ. 2542]] นามิเอะได้ร่วมงานกับ [[ดัลลัส ออสติน]] (Dallas Austin) [[โปรดิวซ์เซอร์]]ชื่อดังจาก[[สหรัฐอเมริกา]] (จากผลงานการโปรดิวซ์ให้ศิลปินชื่อดังทั้งหลายเช่น [[มาดอนนา]] , [[ทีแอลซี|TLC]], [[โมนิกา|Monica]], [[คอร์น|KORN]] ฯลฯ) ซึ่งทำให้ผลงานของ นามิเอะ ในช่วงนั้น แนวเพลงสไตล์ [[อาร์แอนด์บี]] มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เองได้นำมาซึ่งความเจ็บปวดแก่ นามิเอะ เพราะในขณะที่กำลังโปรโมตซิงเกิล RESPECT the POWER OF LOVE นั่นเอง แม่ของ นามิเอะถูกฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหด ... หลังจากทำใจได้ นามิเอะก็ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ในเดือนกรกฎาคม [[พ.ศ. 2543]]นามิเอะ ปล่อย single ต้อนรับสหัสวรรษใหม่อย่าง Never End ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์เป็นอย่างดี และเพลงนี้ก็ได้รับเลือกเป็นธีมของหนังเรื่อง [[โอกินาวา ซัมเมอร์|OKINAWA SUMMIT]] ซึ่ง นามิเอะ ได้รับเกียรติ์ให้แสดงต่อหน้าผู้นำชาติสมาชิก G8 อย่าง ประธานาธิบดี[[บิล คลินตัน]]ด้วย หลังจากปล่อย Studio Album อันดับ 4 ออกมาอาละวาดในปลายปี 2543 ในปี [[พ.ศ. 2544]] นามิเอะ เลิกใช้บริการการโปรดิวซ์ของ TK และปล่อยซิงเกิล Say the word ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ นามิเอะ ได้เขียนเนื้อเพลงเอง ในวันที่ [[8 สิงหาคม]] และในปลายปีนั้นเอง นามิเอะ ได้เข้าร่วมโปรเจกต์ของ AVEX ในอัลบั้มเพื่อการกุศล SongNation โดยได้ร่วมงานกับ VERBAL จาก m-flo ในเพลง lovin' it ซึ่งเป็นซิงเกิลลำดับสามต่อจาก A song is born ของ Keiko และ Ayumi และ Meaning of Peace ของ[[โบอา]]และ[[คุมิ โคดะ]]
 
ในปี [[พ.ศ. 2545]]นามิเอะ เปลี่ยนสไตล์ดนตรีไปสู่ อาร์แอนด์บี อย่างแท้จริง โดยเข้าร่วมโปรเจกต์ใหญ่อย่าง SUITECHIC ในฐานะนักร้องนำ และออกเพลงมา 2 ซิงเกิล กับอีก 1 อัลบัมอัลบั้ม และ 1 อัลบัมอัลบั้มรีมิกซ์ ก่อนจบโปรเจกต์ในปี [[พ.ศ. 2546]] และได้กลับมาทำงานเดี่ยวของตนเองอีกครั้ง โดยได้ออกซิงเกิล shine more, Put 'Em Up และ SO CRAZY ซึ่งโปรดิวซ์โดย [[Dallas Austin]] และ [[Full Force]] ในปลายปีนี้ นามิเอะ ปล่อย STYLE สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 5 ออกมาในรอบ 3 ปี
 
ในช่วง 29 พฤศจิกายน 2546 ถึง 15 พฤษภาคม [[พ.ศ. 2547]]นามิเอะออกตระเวณทัวร์ในเอเชีย ใน นามิเอะ Amuro SO CRAZY tour featuring BEST singles 2003-2004 ซึ่งจัดขึ้นใน 3 ประเทศคือ [[ญี่ปุ่น]] [[เกาหลี]] และ[[ไต้หวัน]] ในขณะที่ออกทัวร์อยู่นั้น นามิเอะออกซิงเกิลชื่อ ALARM ตามด้วย ALL FOR YOU ซึ่ง ALL FOR YOU ประสบความสำเร็จขึ้นไปถึงอันดับ 6 กับยอดขายเกือบแสนซิงเกิล ซึ่งมากเป็น 2 เท่าหากเทียบกับซิงเกิลก่อนหน้าในช่วงปี 2546-2547 อย่าง shine more, Put 'Em Up, SO CRAZY หรือแม้แต่ ALARM ในปลายเดือนสิงหาคม นามิเอะ ออกทัวร์สำหรับแฟนคลับ โดยแสดงเพลงใหม่ที่ยังไม่ออกจำหน่ายอันได้แก่ GIRL TALK และ the SPEED STAR ซึ่งปล่อยออกมาเป็น double a-side single ในเดือนถัดมา และประสบความสำเร็จอย่างมากถึงขนาดขึ้นอันดับ 1 ในวันแรกที่ออกจำหน่าย และคงอันดับ 1 ได้ถึง 3 วัน และเป็นการแตะอันดับ 1 อีกครั้งในรอบ 5 ปีของซิงเกิล ของ นามิเอะ และคงยอดขายเฉียดแสนเช่นเดียวกับซิงเกิล รุ่นพี่อย่าง ALL FOR YOU