ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าชายคาร์ล เอดูอาร์ท ดยุกแห่งซัคเซิน-โคบวร์คและโกทา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล แทนที่คำผ่านการค้นหา: 'ทรงมีพระ'→'มีพระ' |
ล แทนที่คำผ่านการค้นหา: 'ทรงเป็นพระ'→'เป็นพระ' |
||
บรรทัด 19:
| doi =
| id =
| accessdate = 4 กันยายน พ.ศ. 2550}}</ref> ในปี [[พ.ศ. 2461]] พระองค์ทรงถูกบังคับให้สละราชสมบัติ และต่อมาได้ทรงเข้าร่วมพรรค[[นาซีเยอรมัน]] ยังความเสื่อมเสียที่ใหญ่หลวงมาให้แก่[[เจ้าหญิงอลิซ เค้านท์เตสแห่งแอธโลน]] ซึ่ง
==พระชนม์ชีพในวัยเยาว์==
บรรทัด 31:
==ดยุคแห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธา==
ในปี [[พ.ศ. 2443]] ดยุคแห่งออลบานี ที่มีพระชนมายุ 14 พรรษาได้เสวยราชสมบัติในรัฐดยุคครองนครแห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธาสืบต่อ[[เจ้าชายอัลเฟรด ดยุคแห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธา]] พระปิตุลาซึ่ง
==อภิเษกสมรส==
บรรทัด 58:
==สงครามโลกครั้งที่ 1==
ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่ 1]] เจ้าชายชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ดทรงสนับสนุน[[ประเทศเยอรมนี]]และทรงปฏิบัติราชการเป็นนายพลในกองทัพบกเยอรมัน (แม้ว่าจะมิเคยทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่) ดังนั้นสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 มีพระราชโองการให้ถอดถอนพระนามของเจ้าชายออกจากทะเบียนอัศวินแห่งการ์เตอร์ในปี [[พ.ศ. 2458]] ต่อมาในเดือน[[กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2460]] เพื่อที่จะออกจากพื้นเพที่เป็นเยอรมันของราชวงศ์ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ทรงเปลี่ยนชื่อ[[พระราชวงศ์อังกฤษ]]จาก[[ราชวงศ์แซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธา]]เป็น[[ราชวงศ์วินด์เซอร์]] ในปีนั้นรัฐสภาอังกฤษได้ผ่านพระราชบัญญัติการถอดถอนฐานันดรศักดิ์ซึ่งให้อำนาจสภาองคมนตรีที่จะสืบสวน "บุคคลใดก็ตามอันมีศักดิ์เป็นขุนนางหรือเจ้าชายอังกฤษ ซึ่งได้ถืออาวุธต่อต้านพระเจ้าอยู่หัวหรือพันธมิตรของพระองค์ หรือซึ่งร่วมเป็นภาคีกับศัตรูของพระเจ้าอยู่หัว" ภายใต้เงื่อนไขในพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว พระบรมราชโองการตามคำแนะนำของคณะองคมนตรีลงวันที่ [[28 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2462]] ได้ถอดถอนบรรดาศักดิ์ขุนนางอังกฤษ ดยุคแห่งออลบานี เอิร์ลแห่งคลาเรนซ์ และบารอนแห่งอาร์คโลว์ของเจ้าชายชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ดออกอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้พระองค์และพระโอรสธิดายังทรงสูญเสียฐานันดรศักดิ์เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งสหราชอาณาจักร รวมทั้งพระอิสริยยศในชั้นเจ้าฟ้า (Royal Highness) อีกด้วย<ref>ในฐานะพระราชนัดดาของพระประมุขแห่งอังกฤษ ผ่านทางพระราชโอรส เจ้าชายชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ดทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าชายแห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ ในฐานันดรศักดิ์ชั้นเจ้าฟ้า ตามพระราชหัตถเลขาของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียฉบับวันที่ [[30 มกราคม]] [[พ.ศ. 2407]] และวันที่ [[27 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2441]] การงดเว้นบรรดาศักดิ์ขุนนางตามพระราชบัญญัติถอดถอนฐานันดรศักดิ์ไม่มีผลต่อ[[ลำดับการสืบราชบัลลังก์อังกฤษ]]ของเจ้าชาย ตามข้อกำหนดที่วางไว้เมื่อปี [[พ.ศ. 2258]] พระโอรสและธิดาของเจ้าชาย ซึ่ง
==พลเรือนสามัญ==
บรรทัด 68:
เมื่อ[[สงครามโลกครั้งที่ 2]] สิ้นสุดลง รัฐบาลทางการทหารอเมริกันในรัฐบาวาเรีย ภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลจอร์จ สมิธ แพ็ตตันได้ทำการกักบริเวณดยุคแห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธาอยู่ภายในพระตำหนักที่ประทับอันเนื่องมาจากการสนับสนุนฝ่าย[[นาซีเยอรมัน]] ในปี [[พ.ศ. 2489]] พระองค์ทรงถูกพิพากษาคดีในศาลการกำจัดระบอบนาซีและทรงถูกปรับอย่างหนัก ทรัพย์สมบัติจำนวนมากในเมืองแซ็กโซนีและโคบูร์กถูกยึดโดยกองทัพโซเวียต
ดยุคแห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธาทรงดำรงพระชนม์ชีพบั้นปลายด้วยความโดดเดี่ยว พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ [[6 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2497]] ณ เมืองโคบูร์ก โดย
==พระอิสริยยศ และ เครื่องราชอิสริยาภรณ์==
|