ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดีร์ก เกอวต์"

 

==== ลิเวอร์พูล ====

[[ไฟล์:Dirk Kuyt Liverpool vs Bolton 2011.jpg|thumb|right|200px|เคาท์ในปี [[ค.ศ. 2011]]]]

เคาท์ได้ย้ายมาสู่[[แอนฟิลด์]] ในปี [[ค.ศ. 2006]] เคาท์ได้ทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เจอกับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด โดย ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ไป 2-0<ref>{{cite news|url=http://news.bbc.co.uk/sport1/hi/football/eng_prem/5351794.stm |title=Liverpool 2–0 Newcastle |publisher=[[BBC Sport]] |accessdate=21 September 2006 | date=20 September 2006 | first=Ian | last=Hughes}}</ref> ต่อมา ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเจอกับ [[สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์|ทอตนัมฮอตสเปอร์]] และเคาท์ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล ชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ไป 3-0 ต่อมา ได้เล่นในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลรายการใหญ่คือ [[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]] ปี 2006-2007 ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ [[เอซีมิลาน]] ซึ่งก่อนหน้านั้น 2 ปี ลิเวอร์พูลได้ชิงรายการเดิมกับเอซีมิลาน โดยนัดนั้นลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ แชมป์ครั้งนั้นทำให้ลิเวอร์พูลได้แชมป์เป็นสมัยที่ 5 และนัดนี้ เดิร์ค เคาท์ กองหน้าคนใหม่ก็ต้องผิดหวังเมื่อแพ้เอซีมิลานที่[[กรุงเอเธนส์]] [[ประเทศกรีซ]] 2-1 และ เดิร์ค เคาท์ ได้ตีไข่แตกในนาทีที่ 87 แต่ก็ตามไม่ทัน ทำให้ลิเวอร์พูลพลาดแชมป์ที่จะได้เท่ากับเอซีมิลาน คือ 6 สมัย เคาท์ย้ายเข้ามาใน[[แอนฟิลด์]] และถูกเปลี่ยนบทบาทจากกองหน้ากลายมาเป็น[[ปีกขวา]] เคาท์เป็นนักฟุตบอลที่ขยัน ทำให้เขายึดตัวจริงในถิ่นแอนฟิลด์และเป็นตัวหลักในชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลไปโดยปริยายเพราะความขยัน

 

เคาท์ได้ยิง 2 [[จุดโทษ]]ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คู่ปรับร่วมเมือง [[เอฟเวอร์ตัน]] ถึง [[กูดิสันพาร์ก]] 2-1 ต่อมา เคาท์ได้ยิงประตูช่วยให้ ลิเวอร์พูล ถล่ม นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ถึง [[เซนต์เจมส์ปาร์ก]] 3-0 ซึ่งจบฤดูกาล เคาท์ยิงได้แค่ 3 ประตู เท่านั้น

 

ลิเวอร์พูล บุกไปเยือน [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ซิตี]] ที่ [[ซิตีออฟแมนเชสเตอร์]] โดยครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ตามหลัง 0-2 แต่ในครึ่งหลัง [[เฟร์นันโด ตอร์เรส]] ยิง 2 ประตู ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ 2-2 และในช่วงนาทีสุดท้าย เคาท์ได้ยิงประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-2 ต่อมา ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเจอกับ วีแกนแอธเลติก โดย เคาท์ได้ยิงประตูตีเสมอ 1-1 แต่ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ตามหลัง 1-2 แต่ในครึ่งหลัง เคาท์ ได้ยิงประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วีแกนแอธเลติก 3-2 ซึ่งจบฤดูกาล เคาท์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 12 ประตู

 

เคาท์ได้ยิงจุดโทษช่วยให้ ลิเวอร์พูล ตีเสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 ต่อมา เคาท์ได้ทำ[[แฮตทริก]]ครั้งแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เจอกับคู่ปรับตลอดกาล [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] ที่ [[แอนฟิลด์]] โดย ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไป 3-1 พร้อมกับคว้าลูกบอลกลับบ้านไปครอง ต่อมา เคาท์ได้ยิงจุดโทษ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ ถึง [[สเตเดียมออฟไลต์]] 2-0 ต่อมา เคาท์ได้ยิงประตูช่วยให้ ลิเวอร์พูล ถล่ม แมนเชสเตอร์ซิตี 3-0 ต่อมา เคาท์ได้ยิงจุดโทษช่วยให้ ลิเวอร์พูล ตีเสมอ อาร์เซนอล ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 1-1 ต่อมา เคาท์ได้ยิงประตูช่วยให้ ลิเวอร์พูล ถล่ม [[เบอร์มิงแฮมซิตี]] 5-0 ต่อมา เคาท์ได้ยิงประตูช่วยให้ ลิเวอร์พูล ถล่ม นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3-0 ต่อมา เคาท์ได้ยิงประตูช่วยให้ ลิเวอร์พูล ถล่ม [[สโมสรฟุตบอลฟูแลม|ฟูแลม]] ถึง 5-2 ซึ่งจบฤดูกาล เคาท์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 13 ประตู

 

เคาท์ได้มีโอกาสลงเล่นมากขึ้นโดยทำผลงานยอดเยี่ยมในช่วงต้นปี 2012 ด้วยการยิงประตูชัยในนาที 88 ใน[[เอฟเอคัพ]]รอบ 4 ที่ [[แอนฟิลด์]] นัดที่ ลิเวอร์พูล พบ [[แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] โดยทำสกอร์ให้ลิเวอร์พูลชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไป 2-1 ต่อมา ในรอบชิงชนะเลิศถ้วย[[ลีกคัพ]] ลิเวอร์พูล เจอกับ [[สโมสรฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ซิตี|คาร์ดิฟฟ์ซิตี]] เคาท์ลงมาเป็นตัวสำรองและสามารถทำประตูให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่สุดท้ายจบด้วยผลเสมอ 2-2 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ และเคาท์ยิงจุดโทษได้ด้วยและผลคือทำให้ลิเวอร์พูลชนะจุดโทษ 3-2 และสามารถคว้า[[ลีกคัพ]]มาได้ พอจบฤดูกาล 2011-12 ลิเวอร์พูลจบในอับดับที่ 8 โดยไม่ได้ไปเล่น [[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]] ถึง 3 ครั้ง ซึ่งจบฤดูกาล เคาท์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้แค่ 2 ประตู เท่านั้น และเคาท์ก็ไม่ได้รับโอกาสเป็นตัวจริงทั้งหมด จึงทำให้เคาท์ต้องย้ายออกจาก [[สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล]] ไปอยู่ [[สโมสรฟุตบอลเฟเนร์บาห์เช่]] ในวันที่ [[3 มิถุนายน]] [[ค.ศ. 2012]]